ตร.ออกหมายจับ “ไอ้เวย-ไอ้น้อย” มือปืนยิงนักธุรกิจหญิงที่หัวหินแล้ว

ประจวบคีรีขันธ์ - หลังจากคนร้ายก่อเหตุยิง น.ส.เพชรรัตน์ สุดเสนาะ นักธุรกิจค้าขายที่ดินรายใหญ่ของหัวหิน/ปราณบุรี “น้องสาวรองปลัดฯหัวหิน” ซึ่งเหตุเกิดตั้งแต่เย็นวันที่ 13 ส.ค.รวมเวลา 19 วัน ล่าสุด ผบช.ภ.7 ได้แถลงข่าวออกหมายจับผู้ต้องหาชุดแรกแล้ว 2 ราย คือ “ไอ้สังเวย” และ “ไอ้น้อย” ที่เป็นผู้ลั่นไกสังหาร ส่วนผู้จ้างวานและผู้เกี่ยวข้องที่เหลือทางตำรวจขอไม่เปิดเผยในรายละเอียด ด้านพี่ชายร้อง ตร.กองปราบฯ ให้ลงมาทำคดี

วันนี้ (1 ก.ย.) ที่สถานีตำรวจภูธร หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ต.วิเชียร ตันตะวิริยะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรประจวบคีรีขันธ์ พร้อม พ.ต.อ.บุญธรรม วรรณรัตน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ทองงามตระกูล ผกก.สภ.หัวหิน พ.ต.ท.ธัญญะ ครุฑเผือก พนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน พ.ต.ท.กฤษรัตน์ วงษ์งาม หน.นปพ.ประจวบฯ พร้อมชุดคลี่คลายคดี

ได้เปิดแถลงข่าวภายหลังจากเมื่อวันที่ 13 ส.ค.54 ในช่วงเย็นได้เกิดเหตุคนร้ายยิง น.ส.เพชรรัตน์ สุดเสนาะ ซึ่งเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของอำเภอ หัวหิน/ปราณบุรี และยังเป็นน้องสาวรองปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน เสียชีวิตหน้าสำนักงานบริษัท ไดมอนด์ 99 จำกัด หน้าโรงพยาบาลหัวหิน ซึ่งที่ผ่านมาทางตำรวจได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนและได้รวบรวมพยานหลักฐานเอกสารต่างๆ

จนศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ออกหมายจับนายทิวัติถ์ หรือ สังเวย บุญกูล อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/14 ต.บ้านพลี อ.ชะอำ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งทำงานเป็นหัวหน้าช่างเครื่องยนต์ระดับ 5 เทศบาลเมืองชะอำ ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถอีซูซุคามิโอสีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กค 3410 เพชรบุรี อยู่ในวันเกิดเหตุและเป็นผู้คุ้มกันดูต้นทางให้นายกวี หรือ นายน้อย มีแก้ว อายุ 29 ปี พักอยู่บ้านเดียวกับนายทิวัติถ์ ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม.ยิง น.ส.เพชรรัตน์ เสียชีวิตอย่างเหี้ยมโหด

พล.ต.ท.พงษ์สัตน์ เจียมอ่อน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า ทางตำรวจได้ยึดรถยนต์อีซูซุคามีโอสีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 3410 เพชรบุรี ได้ที่บ้านพักของนายทิวัติถ์ ไว้เป็นของกลางส่วนผู้ต้องหาทั้งสองที่กำลังหลบหนี ได้จัดกำลังตำรวจสืบสวนภาค 7 และตำรวจสืบสวนประจวบคีรีขันธ์ ออกติดตามไล่ล่าผู้ต้องหาทั้ง 2 รายอยู่ ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือทั้งกลุ่มผู้จ้างวานและผู้รับงานอยู่ในระหว่างการสืบสวน ซึ่งเชื่อมั่นว่าขณะนี้ยังคงหลบหนีอยู่ในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี

โดยเบื้องต้นตำรวจมั่นใจเกิดจากปมปัญหาความขัดแย้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของผู้เสียชีวิต กับกลุ่มหุ้นส่วน

อย่างไรก็ตาม สำหรับ นายกวี ที่เป็นผู้ลั่นไกสังหารนั้นไม่พบอยู่ในประวัติมือปืนรับจ้าง แต่เป็นคนที่ชอบความรุนแรงและมีการซ้อมยิงปืนตลอดเวลา เบื้องต้นตำรวจยืนยันว่ายังไม่ได้รับการติดต่อขอเข้ามอบตัวของผู้ต้องหาแต่อย่างใด ซึ่งทางตำรวจยอมรับว่าคดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญ มีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ส่วนเรื่องที่ญาติไปร้องให้ตำรวจกองปราบปรามเข้ามาคลี่คลายคดี ตอนนี้ทางตำรวจภูธรภาค 7 ยังไม่ได้รับการประสานงาน

ด้าน นายสุทธิพล สุดเสนาะ รองปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน ซึ่งเป็นพี่ชายของผู้เสียชีวิต ว่า สาเหตุที่เดินทางไปร้องต่อกองปราบปรามเมื่อวานนี้ ก็ต้องการให้ทางตำรวจกองปราบปรามเข้ามาช่วงดำเนินการสืบสวนสอบสวน จับตัวมือปืน และกลุ่มผู้จ้างวานที่ลงมือฆ่าน้องสาวตนเองให้ได้ และไม่ได้ไปกดดันตำรวจแต่อย่างใดที่ผ่านมา 19 วัน

ทั้งนี้ ทาง ตร.กองปราบปราม ได้แจ้งให้ทราบว่า ได้เดินทางลงมาเก็บข้อมูลในพื้นที่แล้ว และคดีนี้ทาง ตร.กองปราบปราม เองก็พร้อมที่จะลงมาดำเนินการต่อไป ส่วนผมต้องขอบคุณทั้งตำรวจ และสื่อมวลชนที่พยามติดตามคดีนี้มาโดยตลอด

“และผมอยากเห็นผู้ที่จ้างวาน ถูกตำรวจนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย”