พี่ชายเศรษฐินีเมืองประจวบเข้าร้องกองปราบฯ ให้ช่วยติดตามคดีและเร่งลากคอมือปืนที่ยิงน้องสาวเสียชีวิตบริเวณหน้าที่ทำงาน ญาติเชื่อปมสังหารมาจากการขัดแย้งธุรกิจอหังสาริมทรัพย์ ขณะที่ ตร.อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลทางคดี
วันนี้ (31 ส.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่กองปราบปราม นายสิทธิพล สุดเสนาะ รองปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พี่ชายของ น.ส.เพชรรัตน์ สุดเสนาะ อายุ 41 ปี เศรษฐินี เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งถูกคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม.ยิงใส่ โดยกระสุนถูกเข้าที่ศีรษะและตามตัวหลายแห่งจน น.ส.เพชรรัตน์ เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดบริเวณลานจอดรถหน้าสำนักงานบริษัท ไดมอนด์ 99 เลขที่ 27/88 ถนนเพชรเกษม ต.หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตรงข้าม รพ.หัวหิน เมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป.เพื่อขอให้ตำรวจ บก.ป.ร่วมสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีอีกทางหนึ่ง เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ
พ.ต.อ.ประสพโชคกล่าวว่า สำหรับคดีที่เกิดขึ้นทางตำรวจ สภ.หัวหิน ท้องที่เกิดเหตุได้รวบรวมพยานหลักฐานกระทั่งสามารถขออนุมัติศาลออกหมายจับ นายทิวัตถ์ บุญกูล อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/14 ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ จ.351/2554 ลงวันที่ 23 สิงหาคม 2554 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งแนวทางการสืบสวนพบว่า นายทิวัตถ์เป็นผู้รับงานสังหารในครั้งนี้ ในส่วนของมือปืน ผู้ชี้เป้า และผู้ใช้จ้างวาน ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลทางคดี
พ.ต.อ.ประสพโชคกล่าวต่อว่า ทางญาติของผู้เสียหายเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมทางคดีเนื่องจากไม่มั่นใจว่าตำรวจท้องที่จะสามารถติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้ จึงขอให้ทาง บก.ป.ร่วมคลี่คลายคดีนี้ ซึ่งตนยืนยันจะเร่งรัดสืบสวนดำเนินคดีโดยส่งเจ้าหน้าที่ร่วมทำงานกับชุดสืบสวนตำรวจท้องที่ เดินหน้าสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาและผู้ร่วมกระทำความผิดต่อไป
ด้าน นายสิทธิพลกล่าวว่า เหตุนี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 13 กระทั่งวันเดียวกันนี้ก็สิ้นเดือนสิงหาคมแล้ว แม้ว่าตำรวจ สภ.หัวหิน ได้ขออนุมัติศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ออกหมายจับผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว 1 ราย แต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ รวมทั้งการสืบสวนไปยังมือปืน ผู้จ้างวานก็ยังไม่มีความคืบหน้าจึงรู้สึกกังวลใจ ตนเห็นว่าทาง บก.ป.เป็นหน่วยงานที่พึ่งสุดท้าย ซึ่งที่ผ่านมาก็มีผลงานจับกุมคดีอาชญากรรมอุกฉกรรจ์หลายคดีจึงตัดสินใจเดินทางมาร้องทุกข์ขอให้ บก.ป.ช่วยสืบสวนคลี่คลายคดีนี้
“สาเหตุของการสังหารเชื่อว่ามาจากปัญหาความขัดแย้งเกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เนื่องจากน้องสาวเป็นคนขยันมีความสามารถในเชิงธุรกิจ ซึ่งผมสามารถยืนยันได้ว่าที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตไม่เคยมีปัญหาความขัดแย้งส่วนตัว หรือปัญหาขัดแย้งอื่นใดกับใคร” นายสิทธิพลกล่าว