พล.ต.ต.วิเชียร ตันตะวิริยะ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ประจวบคีรีขันธ์ เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีคนร้ายบุกยิง น.ส.เพชรรัตน์ สุดเสนาะ หรือ เจ๊หญิง อายุ 42 ปี เจ้าของโครงการบ้านจัดสรรเสียชีวิตหน้าสำนักงานเมื่อวานนี้ พร้อมตั้งชุดเฉพาะกิจติดตามไล่ล่าคนร้ายกระจายกำลังลงพื้นที่หาข่าว สอบพยานแวดล้อมและตรวจสอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เนื่องจากว่าคดีนี้เป็นคดีอุกอาจอยู่ในความสนใจของประชาชน
พล.ต.ต.วิเชียร เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดหน้าสำนักงานพบว่า คนร้ายลักษณะผอมสูง ใส่หมวกแก็ปปิดบังใบหน้า หลังก่อเหตุหลบหนีด้วยรถจักรยานยนต์สีขาวไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน แต่กล้องเห็นหน้าคนร้ายไม่ชัดเจน เนื่องจากว่าขณะก่อเหตุหันหลังให้กล้อง แต่จากการสังเกตพฤติกรรมเชื่อว่าเป็นมืออาชีพ อาจรู้จักหรือเกี่ยวข้องกับผู้ตายและติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ตายตลอดเวลาเพื่อวางแผนสังหาร ส่วนสาเหตุก็ยังให้น้ำหนักไปที่ความขัดแย้งทางธุรกิจ แต่ยังไม่ตัดประเด็นเรื่องส่วนตัวออก
นอกจากนี้ ชุดสืบสวนยังลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียงด้วย เช่น ปั๊มน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อ โรงพยาบาลหัวหิน และตามถนนเพชรเกษม และตรวจสอบธุรกิจของผู้ตายทุกชนิด ทั้งอดีตและปัจจุบันว่ามีความขัดแย้งกับใครหรือไม่ รวมทั้งเตรียมเชิญหุ้นส่วนหรือผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนเพิ่มเติม ส่วนอีกชุดมีการตรวจสอบข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของผู้ตาย พร้อมทั้งตั้งรางวัลนำจับ 50,000 บาทให้แก่ผู้แจ้งเบาะแสคนร้ายจนสามารถจับกุมตัวได้
พล.ต.ต.วิเชียร เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดหน้าสำนักงานพบว่า คนร้ายลักษณะผอมสูง ใส่หมวกแก็ปปิดบังใบหน้า หลังก่อเหตุหลบหนีด้วยรถจักรยานยนต์สีขาวไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน แต่กล้องเห็นหน้าคนร้ายไม่ชัดเจน เนื่องจากว่าขณะก่อเหตุหันหลังให้กล้อง แต่จากการสังเกตพฤติกรรมเชื่อว่าเป็นมืออาชีพ อาจรู้จักหรือเกี่ยวข้องกับผู้ตายและติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ตายตลอดเวลาเพื่อวางแผนสังหาร ส่วนสาเหตุก็ยังให้น้ำหนักไปที่ความขัดแย้งทางธุรกิจ แต่ยังไม่ตัดประเด็นเรื่องส่วนตัวออก
นอกจากนี้ ชุดสืบสวนยังลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียงด้วย เช่น ปั๊มน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อ โรงพยาบาลหัวหิน และตามถนนเพชรเกษม และตรวจสอบธุรกิจของผู้ตายทุกชนิด ทั้งอดีตและปัจจุบันว่ามีความขัดแย้งกับใครหรือไม่ รวมทั้งเตรียมเชิญหุ้นส่วนหรือผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนเพิ่มเติม ส่วนอีกชุดมีการตรวจสอบข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของผู้ตาย พร้อมทั้งตั้งรางวัลนำจับ 50,000 บาทให้แก่ผู้แจ้งเบาะแสคนร้ายจนสามารถจับกุมตัวได้