xs
xsm
sm
md
lg

เปิดย่าม “หมอบุณย์” ดู “ไข่-มะตูมเลซิติน” รางวัลล่าสุดจากสวิส

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รางวัลต่างๆ ที่หมอบุณย์ได้รับ
    
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่นิยมใช้การแพทย์แผนไทยเป็นตัวเลือกในการดูแลสุขภาพ อาจจะคุ้นหูชื่อแพทย์แผนไทยอย่าง “หมอบุณย์” หรือหมอบุณยพร ยี่มี แพทย์แผนไทยคนดัง ที่นอกจากจะเปิดคลินิกแพทย์แผนไทยรักษาคนไข้อยู่ในจังหวัดระยองแล้ว งานสำคัญอีกชิ้นของหมอแผนไทยรายนี้ คือการคิดค้นนวัตกรรมอาหารเสริมใหม่ๆ จากภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย และผลิตออกมาใช้ได้จริง แถมกวาดรางวัลด้านการประดิษฐ์คิดค้นมาแล้วไม่น้อย
    

ล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ศ.นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้เป็นประธานแถลงข่าวความสำเร็จอีกครั้งจากมันสมองและภูมิปัญญาจากแพทย์แผนไทย ภายหลังที่แพทย์แผนไทย บุณยพร ยี่มี ,แพทย์แผนไทยหญิง วรีวรรณ รัตรสาร และ ดร.ธัญวิสิษฐ์ เจริญยิ่ง นักวิชาการอิสระ ทีมผู้คิดค้นและพัฒนาอาหารเสริมเลซิตินจากไข่แดงและผลมะตูม จนงานวิจัยดังกล่าว ลัดฟ้าไปคว้ารางวัลเหรียญทองจากเวทีประกวดสิ่งประดิษฐ์อินเตอร์เนชันนัล เอกซิบิชัน ออฟ อินเวนชันออฟเจนีวา (International Exhibition of Invention of GENEVA) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-10 เม.ย.54 ณ นครเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
    
เหรียญทองที่เพิ่งได้มาจากเจนีวา
“ผมไม่ได้ต้องการให้แพทย์แผนไทยไปอินเตอร์ ไม่ได้อยากปักธงไทยในระดับนานาชาติ แต่อยากปักให้ได้ทั่วประเทศเราก่อน อยากให้คนไทยหันมาใช้การรักษาภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยกันให้มากขึ้น เพราะแพทย์แผนไทยคือการแพทย์ประจำประเทศของเรา เป็นภูมิปัญญาบรรพบุรุษที่ใช้ได้จริง และรักษาได้ในระดับหนึ่ง โรคที่ไม่มีเชื้อร้ายแรง โรคจำพวกโรคสามัญแพทย์แผนไทยรักษาได้ทั้งนั้น ถ้าหันมาใช้แพทย์แผนไทยเป็นทางเลือกในการรักษาโรคเล็กๆ น้อยๆ หรือโรคสามัญ ประเทศไทยจะลดการใช้ยาฝรั่งได้มากทีเดียวครับ”
    

หมอบุณย์ กล่าวก่อนจะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับงานวิจัยที่ได้รับรางวัลล่าสุดนี้ว่า เลซิตินเป็นสารที่จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยในการสื่อประสาท หากเด็กเล็กขาดจะทำให้พัฒนาการช้า ช่วยป้องกันอาการหลงลืม และโดยส่วนตัวรู้สึกว่าที่ผ่านมาคนไทยต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นค่าอาหารเสริมเลซิตินจากต่างประเทศปีละหลายบาท จึงอยากคิดค้นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเลซิตินจากวัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่น
    
(จากซ้าย)แพทย์ แผนไทย บุณยพร ยี่มี , แพทย์แผนไทยหญิง วรีวรรณ รัตรสาร และ ดร.ธัญวิสิชฐ์ เจริญยิ่ง ผู้ร่วมพัฒนาอาหารเสริมจากไข่แดงและผลมะตูม
“เราเลือกไข่แดงและผลมะตูมเป็นวัตถุดิบ เพราะทั้งคู่มีงานวิจัยอยู่แล้ว ในไข่แดงมีเลซิตินมาก ส่วนในมะตูมตามหลักแพทย์แผนไทย บอกว่า มีฤทธิ์ “ปลุกไฟธาตุ” และในแง่วิทยาศาสตร์ตัวมันมีฤทธิ์ช่วยฟื้นฟูสร้างอินซูลิน ต้านไวรัส ต้านแบคทีเรีย ช่วยทำให้หลอดเลือดหัวใจแข็งแรง ทำให้ความดันโลหิตเป็นปกติ  ประกอบกับในปีพ.ศ.2530 ก็มีงานวิจัยของกรมอนามัย ว่า มีสารเป็นประโยชน์หลายชนิด เป็นยาบำรุง เราจึงนำมาเป็นส่วนประกอบหลักของอาหารเสริมเลซิตินนี้ ที่ต้องนำมาประกอบกันเพราะเราไม่ควรกินอาหารเสริมที่มาในรูปสมุนไพรเดี่ยว การผสมส่วนประกอบหลักทางเภสัชของแพทย์แผนไทยควรมาจากวัตถุดิบหลายชนิด เพราะจะทำให้ออกฤทธิ์ดีกว่า การกินแบบสมุนไพรเดี่ยวจะทำให้ฤทธิ์สมุนไพรออกได้ไม่เต็มที่”
    
รางวัลล่าสุดที่ได้รับ
หมอแผนไทยรายนี้ กล่าวต่อไปอีกว่า ไข่เป็นวัตถุดิบราคาถูกที่อุดมไปด้วยสารอาหาร แต่ปัญหาอยู่ที่คอลเลสเตอรอล ทำให้คนไข้ที่มาหาที่คลินิกหลายรายที่ร่างกายต้องการสารอาหารจากไข่เข้าไปเสริมไม่สามารถบริโภคไข่ได้ หมอบุณย์จึงหาวิธีให้คนกินไข่ได้แบบไม่ต้องกินส่วนที่เสียเข้าไปด้วย
    

“อาหารเสริมเลซิตินที่เราคิดขึ้นนี้เราต้องการแก้ปัญหาข้อจำกัดของการกินไข้ในกลุ่มคนที่คอลเลสเตอรอลสูงด้วย และต้องการสกัดมันออกมาด้วยกรรมวิธีที่ปลอดสารเคมี 100% และก็ได้รับความอนุเคราะห์จาก วช.ในการเหวี่ยง Centrifuge หาความถ่วงจำเพาะ แยกเอาน้ำมันไข่แดงที่สกัดเอาเฉพาะส่วนที่มีประโยชน์ที่มีค่าเสถียร ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้สารเคมี เราจึงได้น้ำมันไข่แดงที่เสมือนถูกกรองส่วนที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายออกไปแล้ว นำมาผสมกับสารสกัดจากมะตูมและส่วนประกอบหลักอื่นๆ อีก 2 ชนิดจนออกมาเป็นอาหารเสริมเลซิตินที่ได้รางวัลอันนี้”
    

หมอบุณย์ ทิ้งท้ายด้วยว่า ผลิตภัณฑ์ที่เพิ่งจะได้รางวัลมาหมาดๆ นี้ ไม่ได้จำหน่ายในท้องตลาด แต่เบื้องต้นผลิตขึ้นเพื่อใช้จ่ายให้คนไข้ที่มารับการรักษาในคลินิกแพทย์แผนไทยที่จังหวัดระยองเท่านั้น แต่คาดว่าเร็วๆ นี้จะนำผลงานนี้ไปหารือกับ ศ.นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เพื่อส่งเสริมผลงานต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น