บุรีรัมย์เปิดศูนย์ค้าชายแดนไทย-เขมร รองรับเปิด “ช่องสายตะกู”

บุรีรัมย์ - เปิดศูนย์ส่งเสริมการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.บุรีรัมย์ เพื่อให้ข้อมูลแนะนำประเภทสินค้า ขอบเขตและระเบียบ กม.การค้าชายแดนให้กับผู้ประกอบการ รองรับการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดน “ช่องสายตะกู” ที่ดีเดย์ 14 ก.ย.นี้ ด้านหอการค้าบุรีรัมย์หนุนเต็มที่ ชี้เป็นผลดีต่อธุรกิจการค้าของจังหวัด

วันนี้ (9 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เปิด “ศูนย์ส่งเสริมการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา (ด้านจังหวัดบุรีรัมย์)” ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมี นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธาน เพื่อรองรับการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนชั่วคราว ที่บริเวณช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ กับ อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย กัมพูชา หลังทั้งสองฝ่ายได้มีการเจรจาตกลงเปิดจุดการค้าระหว่างกัน ในวันที่ 14 ก.ย.นี้เป็นวันแรก ก่อนจะเปิดค้าซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกันสัปดาห์ละ 1 วัน ในทุกวันพุธ ตั้งแต่เวลา 09.00-14.00 น.

โดยศูนย์ส่งเสริมการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เปิดขึ้นในครั้งนี้ มีบทบาทหน้าที่ในการให้ข้อมูลแนะนำประเภทสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการค้าที่จะนำสินค้าไปจำหน่ายยังจุดผ่อนปรนดังกล่าว รวมถึงข้อควรปฏิบัติ ขอบเขตและระเบียบกฎหมายด้านการค้าชายแดน รวมไปถึงให้คำแนะนำทางด้านต่างๆ ให้กับผู้ประกอบธุรกิจที่มีความประสงค์ จะนำสินค้าไปจำหน่ายยังจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนดังกล่าวด้วย

พร้อมทั้งยังมีบาทบทในการสนับสนุนส่งเสริมความร่วมมือ ทั้งทางภาครัฐและเอกชนเพื่อสร้างความเข้าใจอันดีและความใกล้ชิดระหว่างกัน อันจะนำไปสู่การขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศในอนาคตด้วย

นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า หากการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนชั่วคราวที่ช่องสายตะกูดังกล่าว ดำเนินการไปด้วยความเรียบร้อย ได้รับการตอบรับจากประชาชนทั้งสองประเทศ และทำให้เกิดความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ทางจังหวัดบุรีรัมย์จะร่วมกับจังหวัดอุดรมีชัย กัมพูชา ผลักดันให้เป็นด่านผ่านแดนถาวรต่อไป ซึ่งเชื่อว่าการเปิดจุดการค้าระหว่างกันจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ รวมทั้งเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ของประชาชนทั้งสองประเทศดีขึ้น

ด้าน นายวีระเดช ตั้งตรงเวชกิจ ประธานหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ทางหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ เห็นด้วยกับการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนชั่วคราว บริเวณช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด ในวันที่ 14 ก.ย.นี้ เพราะจะเป็นผลดีกับประชาชน และผู้ประกอบธุรกิจการค้าทั้งสองประเทศ ในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกัน เพราะปัจจุบันความต้องการเกี่ยวกับเครื่องอุปโภคบริโภค และยารักษาโรค ของชาวกัมพูชามีมากกว่าประเทศไทย ทั้งจะส่งผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจการค้าในจังหวัดบุรีรัมย์ สามารถระบายสินค้าได้ในอีกช่องทางหนึ่ง และทำให้เงินสะพัดหมุนเวียนมากขึ้น

ขณะนี้ทางสมาชิกหอการค้า พร้อมนำสินค้าไปจำหน่ายยังจุดผ่อนปรนตามความต้องการของชาวกัมพูชา ในราคาที่เป็นธรรม หากการค้าขายระหว่างกันดำเนินไปด้วยดี ทางหอการค้าจังหวัดจะร่วมกับทางจังหวัดและหลายภาคส่วน ผลักดันให้เป็นจุดผ่านแดนถาวรในอนาคตด้วย

“ส่วนปัญหาการลักลอบนำเข้ายาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย และแรงงานต่างด้าว ซึ่งจะส่งผลกระทบทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และสังคมต่อประเทศโดยรวม นั้น ขอให้ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ได้ร่วมกันป้องกันปราบปรามและแก้ไขอย่างเข้มงวดด้วย” นายวีระเดช กล่าว