ตราด - พ่อค้าชายแดนตราดหวั่นไทยออกจากภาคีมรดกโลกส่งผลกระทบค้าชายแดนระยะยาว ระบุมีการปะทะเกิดขึ้นแน่ เชื่อรัฐบาลใหม่อาจทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
นายประเสริฐ ศิริ อดีตประธานหอการค้าจังหวัดตราด ในฐานะพ่อค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกัมพูชาของจังหวัดตราด เปิดเผยว่า การที่ประเทศไทยประกาศถอนตัวออกจากการเป็นภาคีสมาชิกมรดกโลก เป็นเรื่องที่กระทำถูกต้องแล้ว เพราะหากให้กัมพูชานำเสนอแผนบริหารเข้าพระวิหารโดยลำพัง ไทยเราจะต้องเสียเปรียบและอาจจะต้องเสียดินแดนรอบปราสาทเขาพระวิหารไปให้กัมพูชา
ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศ มีบทบาทในเรื่องนี้ เนื่องจากรัฐบาลได้ตั้ง นายสุวิทย์ คุณกิตติ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ส่วนของกัมพูชา ที่มี ฮอร์ นัม ฮง ที่เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศเป็นหัวหน้าคณะ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าไทยเราเสียเปรียบกัมพูชาเพราะกัมพูชามีความสัมพันธ์ที่ดีกับต่างประเทศมากกว่าไทย ทำให้กัมพูชาได้เปรียบประเทศไทยในเรื่องต่างประเทศมากกว่าไทย
“ผลของการถอนตัวจากภาคีสมาชิกมรดกโลก จะทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งจะทำให้มีการปะทะเกิดขึ้นแน่นอนไม่เร็วก็ช้า เพราะ 2 ฝ่ายไม่มีความไว้วางใจระหว่างกัน กัมพูชาที่ใช้จังหวะที่ไทยแตกความสามัคคีภายในประเทศ เพื่อฉวยโอกาสให้คณะกรรมการมรดกโลกยอมรับแทนบริหารจัดการ แต่เมื่อไทยถอนตัวออกมาความพยายามทุกอย่างของกัมพูชาก็จะไร้ผล ซึ่งสร้างความตึงเครียดให้เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดน ความขัดแย้งในพื้นที่ก็จะเกิดขึ้นและพัฒนามาสู่การปะทะได้” นายประเสริฐ กล่าว
นายประเสริฐ กล่าวด้วยว่า ผลกระทบที่จะตามมาในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา มีแน่นอน ทั้งการค้าชายแดนและการท่องเที่ยว แต่ในตราดก็อาจจะได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน แต่ในระยะสั้นๆ หรือการค้าในพื้นที่ชายแดนอาจจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ในระยะยาวที่มีการสั่งซื้อสินค้าเข้าไปในพนมเปญ จะได้รับผลกระทบ ขณะนี้เริ่มหยุดการสั่งซื้อไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูผลการเลือกตั้งว่า พรรคการเมืองใดจะเป็นแกนนำหากเป็นพรรคเพื่อไทยก็น่าจะพูดกันง่าย แต่ถ้าเป็นรัฐบาลอภิสิทธิ์ ก็อาจจะมีปัญหาด้านความขัดแย้งบ้าง ขณะที่ผลไม้ไทยยังสามารถส่งออกไปกัมพูชาและเวียดนามไม่ได้รับผลกระทบใดๆ
“สิ่งที่เราต้องมองไปอีก 1-2 สัปดาห์ ก็คือ การเลือกตั้งของไทยหากได้พรรคเพื่อไทยก็อาจจะมีการเจรจากันง่ายหน่อย แต่เป็นพรรค ปชป.ก็อาจจะยากหน่อย แต่ก็สามารถเจรจากันได้ ซึ่งรัฐบาลกัมพูชารอจังหวะนี้เพื่อต่อรองกับรัฐบาลใหม่ ที่กัมพูชาไม่สนใจไทยเหมือนในอดีตเพราะกัมพูชาไม่จำเป็นต้องง้อหรือแบมือขอความช่วยเหลือจากไทยอีกแล้ว เพราะทุกวันนี้มีนานาประเทศหันมาลงทุนและช่วยเหลือกัมพูชามาก โดยเฉพาะประเทศมหาอำนาจ จึงไม่จำเป็นต้องทำดีกับรัฐบาลไทยอีกต่อไป นี่คือปัญหาที่สำคัญที่สุด” อดีตประธานหอการค้าจังหวัดตราด ระบุ
นายประเสริฐ กล่าวในตอนท้ายว่า ขณะนี้มูลค่าการค้าชายแดนของไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดตราดลดลงไปมากด้วยสาเหตุจากมรสุมที่มีคลื่นแรงทำให้การขนส่งทางน้ำมีปัญหามาก และการชะลอตัวสั่งซื้อสินค้าของกัมพูชาเพื่อรอดูผลการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น หลังจากนั้น การค้าขายจะกลับมามีเหมือนปกติ แต่ต้องรออีกระยะหนึ่งเท่านั้น
นายประเสริฐ ศิริ อดีตประธานหอการค้าจังหวัดตราด ในฐานะพ่อค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกัมพูชาของจังหวัดตราด เปิดเผยว่า การที่ประเทศไทยประกาศถอนตัวออกจากการเป็นภาคีสมาชิกมรดกโลก เป็นเรื่องที่กระทำถูกต้องแล้ว เพราะหากให้กัมพูชานำเสนอแผนบริหารเข้าพระวิหารโดยลำพัง ไทยเราจะต้องเสียเปรียบและอาจจะต้องเสียดินแดนรอบปราสาทเขาพระวิหารไปให้กัมพูชา
ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศ มีบทบาทในเรื่องนี้ เนื่องจากรัฐบาลได้ตั้ง นายสุวิทย์ คุณกิตติ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ส่วนของกัมพูชา ที่มี ฮอร์ นัม ฮง ที่เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศเป็นหัวหน้าคณะ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าไทยเราเสียเปรียบกัมพูชาเพราะกัมพูชามีความสัมพันธ์ที่ดีกับต่างประเทศมากกว่าไทย ทำให้กัมพูชาได้เปรียบประเทศไทยในเรื่องต่างประเทศมากกว่าไทย
“ผลของการถอนตัวจากภาคีสมาชิกมรดกโลก จะทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งจะทำให้มีการปะทะเกิดขึ้นแน่นอนไม่เร็วก็ช้า เพราะ 2 ฝ่ายไม่มีความไว้วางใจระหว่างกัน กัมพูชาที่ใช้จังหวะที่ไทยแตกความสามัคคีภายในประเทศ เพื่อฉวยโอกาสให้คณะกรรมการมรดกโลกยอมรับแทนบริหารจัดการ แต่เมื่อไทยถอนตัวออกมาความพยายามทุกอย่างของกัมพูชาก็จะไร้ผล ซึ่งสร้างความตึงเครียดให้เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดน ความขัดแย้งในพื้นที่ก็จะเกิดขึ้นและพัฒนามาสู่การปะทะได้” นายประเสริฐ กล่าว
นายประเสริฐ กล่าวด้วยว่า ผลกระทบที่จะตามมาในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา มีแน่นอน ทั้งการค้าชายแดนและการท่องเที่ยว แต่ในตราดก็อาจจะได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน แต่ในระยะสั้นๆ หรือการค้าในพื้นที่ชายแดนอาจจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ในระยะยาวที่มีการสั่งซื้อสินค้าเข้าไปในพนมเปญ จะได้รับผลกระทบ ขณะนี้เริ่มหยุดการสั่งซื้อไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูผลการเลือกตั้งว่า พรรคการเมืองใดจะเป็นแกนนำหากเป็นพรรคเพื่อไทยก็น่าจะพูดกันง่าย แต่ถ้าเป็นรัฐบาลอภิสิทธิ์ ก็อาจจะมีปัญหาด้านความขัดแย้งบ้าง ขณะที่ผลไม้ไทยยังสามารถส่งออกไปกัมพูชาและเวียดนามไม่ได้รับผลกระทบใดๆ
“สิ่งที่เราต้องมองไปอีก 1-2 สัปดาห์ ก็คือ การเลือกตั้งของไทยหากได้พรรคเพื่อไทยก็อาจจะมีการเจรจากันง่ายหน่อย แต่เป็นพรรค ปชป.ก็อาจจะยากหน่อย แต่ก็สามารถเจรจากันได้ ซึ่งรัฐบาลกัมพูชารอจังหวะนี้เพื่อต่อรองกับรัฐบาลใหม่ ที่กัมพูชาไม่สนใจไทยเหมือนในอดีตเพราะกัมพูชาไม่จำเป็นต้องง้อหรือแบมือขอความช่วยเหลือจากไทยอีกแล้ว เพราะทุกวันนี้มีนานาประเทศหันมาลงทุนและช่วยเหลือกัมพูชามาก โดยเฉพาะประเทศมหาอำนาจ จึงไม่จำเป็นต้องทำดีกับรัฐบาลไทยอีกต่อไป นี่คือปัญหาที่สำคัญที่สุด” อดีตประธานหอการค้าจังหวัดตราด ระบุ
นายประเสริฐ กล่าวในตอนท้ายว่า ขณะนี้มูลค่าการค้าชายแดนของไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดตราดลดลงไปมากด้วยสาเหตุจากมรสุมที่มีคลื่นแรงทำให้การขนส่งทางน้ำมีปัญหามาก และการชะลอตัวสั่งซื้อสินค้าของกัมพูชาเพื่อรอดูผลการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น หลังจากนั้น การค้าขายจะกลับมามีเหมือนปกติ แต่ต้องรออีกระยะหนึ่งเท่านั้น