บุรีรัมย์ไฟเขียวเปิดค้าเขมร “ช่องสายตะกู” - หอค้าฯ หวั่นยาเสพติดต่างด้าวทะลัก

บุรีรัมย์- ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ไฟเขียวเปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดน “ช่องสายตะกู” ระหว่าง อ.บ้านกรวด กับ อ.อำปึล จ.อุดรมีชัย กัมพูชา ประเดิม 14 ก.ย.นี้ เชื่อเศรษฐกิจการค้าชายแดนทั้ง 2 ประเทศดีขึ้น ชี้อนาคตพร้อมผลักดันเป็นด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ขณะหอการค้าบุรีรัมย์ เห็นด้วยเปิดด่าน แนะเพิ่มมาตรการป้องกันเข้มยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย และต่างด้าวทะลักเข้าไทย

วันนี้ (31 ส.ค.) นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ทางจังหวัดบุรีรัมย์ เห็นชอบหลังได้รับรายงานผลการเจรจาฟื้นฟูพัฒนาความสัมพันธ์และเปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนชั่วคราวที่ช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้าน ในระดับพื้นที่ระหว่าง อ.บ้านกวาด จ.บุรีรัมย์ กับ อ.อำปึล จ.อุดรมีชัย กัมพูชา ที่ตัวแทนทั้ง 2 อำเภอได้เปิดโต๊ะเจรจาและตกลงเห็นชอบร่วมกัน เมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา

โดยในเบื้องต้นได้มีกำหนดเปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนชั่วคราว เป็นวันแรก ในวันที่ 14 ก.ย.ที่จะถึงนี้ ตั้งแต่เวลา 09.00-14.00 น. และมีกำหนดเปิดสัปดาห์ละ 1 วัน ทุกวันพุธของสัปดาห์ในพื้นที่ที่กำหนดเท่านั้น เพื่อให้ประชาชนตามแนวชายแดนทั้ง 2 ประเทศได้ซื้อขายและแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกัน เชื่อว่าหากมีการเปิดจุดผ่อนปรนดังกล่าวจะทำให้เศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยว และความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนตามแนวชายแดนทั้ง 2 ประเทศจะดีขึ้นเป็นลำดับ

นายธานีกล่าวอีกว่า การเปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนชั่วคราวที่ช่องสายตะกูจะมีการประเมินความต้องการของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ และหากมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคตทางจังหวัดฯจะมีการเจรจาระดับจังหวัดระหว่าง จ.บุรีรัมย์ และ จ.อุดรมีชัย กัมพูชา เพื่อหาแนวทางร่วมกันผลักดันเปิดเป็นด่านผ่านแดนถาวรอย่างที่หลายจังหวัดเปิดอยู่ในขณะนี้

จากนั้น ทางจังหวัดฯ จะได้นำเรื่องเข้าที่ประชุม กรอ.จังหวัด แล้วส่งเรื่องไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อเสนอเข้าสภาความมั่นคง และรัฐบาลพิจารณาเห็นชอบในการเปิดด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสายตะกู ดังกล่าวต่อไป

ด้าน นายวีระเดช ตั้งตรงเวชกิจ ประธานหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า เห็นด้วยที่ทางอำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ กับ อ.อำปึล จ.อุดรมีชัย กัมพูชา ได้มีการเจรจาฟื้นความสัมพันธ์และเจรจาเปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนที่ช่องสายตะกู เพราะเป็นเรื่องที่ดี ประชาชนและกลุ่มผู้ค้าในพื้นที่จะได้รับประโยชน์ ในการเพิ่มช่องทางระบายและแลกเปลี่ยนสินค้า กับประเทศเพื่อนบ้านได้อีกช่องทางหนึ่ง

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาทางหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ก็ได้ร่วมกับทางจังหวัดผลักดันให้มีการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนช่องสายตะกูมาโดยตลอด แต่มาติดขัดในช่วงที่เกิดสถานการณ์สู้รบชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ทำให้การเจรจาต้องชะลอออกไป

อย่างไรก็ตาม การเปิดจุดผ่อนปรนช่องสายตะกูมั่นใจว่าไทยจะได้ประโยชน์มาก เพราะความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคทางฝั่งกัมพูชายังมีความต้องการอีกมาก ส่วนในอนาคตจะมีการผลักดันพัฒนาให้เป็นด่านผ่านแดนถาวรหรือไม่นั้นคงขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น ประชาชนและกลุ่มผู้ค้ามีความต้องการหรือไม่และการดำเนินการเปิดจุดผ่อนปรนชั่วคราวมีปัญหาอุปสรรคอย่างไร

“แต่สิ่งที่ยังเป็นห่วงในการเปิดด่าน คือ ปัญหายาเสพติด การโจรกรรมรถยนต์ และปัญหาแรงงานต่างด้าวที่จะลักลอบเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งกรณีดังกล่าวทางจังหวัดฯ ต้องมีมาตรการร่วมกับทั้งทางจังหวัด อำเภอ และหน่วยงานที่รับผิดชอบ รวมถึงฝั่งกัมพูชา ที่จะต้องหามาตรการดูแลป้องกันปัญหาดังกล่าวร่วมกันอย่างเข้มงวดมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาแม้ยังไม่มีการเปิดการเปิดด่าน ก็มีการลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมาย และแรงงานต่างด้าวทะลักเข้ามาฝั่งไทยอยู่แล้ว” นายวีระเดชกล่าว