สุรินทร์ - ทหารไทยหวั่นเสียท่าเขมรแอบแฝงรุกล้ำเขตแดนไทย สั่งระงับการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดน “ช่องกร่าง” อ.พนมดงรัก สุรินทร์ กับ อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย ออกไปจนกว่าจะได้ข้อยุติตกลงกันได้ตามข้อเสนอของไทย จากเดิมมีกำหนดประเดิมเปิดในวันนี้ (31 ส.ค.) ส่วนจุดผ่อนปรนช่องสายตะกู จ.บุรีรัมย์ เปิดได้ตามกำหนดเดิม 14 ก.ย.
เมื่อวันที่ 30 ส.ค.เวลา 20.50 น. พ.อ.ณัฎฐ์ ศรีอินทร์ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี (กกล.สุรนารี) กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) ซึ่งเป็นหน่วยกำกับกำลังพลปฏิบัติงานพื้นที่ชายแดนบริเวณช่องกร่าง ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเตรียมการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา แห่งใหม่ บริเวณช่องกร่าง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ว่า ล่าสุดฝ่ายไทยได้เสนอให้ระงับการเปิดจุดผ่อนปรนเพื่อการค้าและด้านมนุษยธรรม ช่องกร่าง บ.หนองตาเลิฟ ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ตรงข้ามกับ บ. ทมอโดน ต.ทมอโดน อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย กัมพูชา ออกไปก่อนจนกว่าจะสามารถตกลงกันได้ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการหารือของอนุกรรมการร่วมกันล่าสุด กรณีทางกัมพูชาโต้แย้งเรื่องที่ฝ่ายไทยเสนอกำหนดทำรั้วลวดหนามเพื่อกั้นเขตทางเดิน 2 ฝั่งถนน เข้ามายังฝั่งไทย แต่ทางกัมพูชา เห็นว่า การเปิดตลาดการค้าชายแดนเป็นเรื่องที่ดี แต่หากมีรั้วกั้นทำให้เสียบรรยากาศความสัมพันธ์ได้ ซึ่งการพิจารณาร่วมกันของอนุกรรมการดังกล่าว ฝ่ายไทยก็อนุโลมให้และรับได้กับประเด็นนี้
แต่ปรากฏว่า ฝ่ายกัมพูชากลับเสนอข้อเรียกร้องใหม่เพิ่มเติมเข้ามาอีก โดยขอนำเอาสินค้า ข้ามรั้วแดนของตัวเองมาวางจำหน่าย ด้านหน้ารั้วติดกับแดนของไทยที่ทหารไทยและกัมพูชาได้กำหนดให้เป็นพื้นที่แนวกันชนและใช้ประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งฝ่ายไทยรับไม่ได้ในเรื่องนี้ และถือว่า ฝ่ายกัมพูชามีอะไรแอบแฝง เพื่อรุกล้ำพื้นที่เข้ามาใกล้เขตแดนไทย
“ฉะนั้น ฝ่ายไทยจึงขอระงับการเปิดจุดผ่อนปรนเพื่อการค้าและมนุษยธรรม ที่ ช่องกร่าง ออกไปก่อนจนกว่าจะตกลงกันได้ ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย จากเดิมที่ได้กำหนดร่วมกันให้มีการเปิดตลาดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนช่องกร่าง เป็นครั้งแรกในวันพุธที่ 31 ส.ค.นี้” พ.อ.ณัฎฐ์ กล่าว
ส่วนการเปิดจุดผ่อนปรนเพื่อการค้าและด้านมนุษยธรรมที่ช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาตกลงกันได้แล้วนั้น ก็สามารถเปิดตลาดการค้าร่วมกันตามกำหนดเดิมในวันที่ 14 ก.ย.นี้ ซึ่งถือเป็นการเปิดการค้าช่องสายตะกูเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี หลังความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ช่องกร่าง ดังกล่าว คณะนายทหารฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.ซอ ณารงค์ ผู้ช่วยเสนาธิการกองทัพบก กัมพูชา และเสนาธิการสมรภูมิรบที่ 3 และ คณะฝ่ายไทย นำโดย พ.อ.ธัญญา เกียรติสาร ผู้บังคับการทหารหน่วย เฉพาะกิจที่ 2 กกล.สุรนารี ทภ.2 พร้อมด้วยตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมหารือและเห็นชอบร่วมกัน เมื่อวันที่15 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่บริเวณชายแดน ช่องกร่าง
ฝ่ายไทยมีข้อเสนอ 3 ประเด็นหลัก คือ 1.การเปิดจุดผ่อนปรนชั่วคราวดังกล่าว ต้องไม่ให้มีผลกระทบกับเส้นเขตแดนรวมทั้งหลักเขตแดน โดยเฉพาะบริเวณช่องกร่างมีหลักเขตที่ 22 ตั้งอยู่ ต้องไม่ให้แนวตลาดเข้าไปใกล้ เนื่องจากเกรงมีการทำลาย หรือเปลี่ยนแปลงหลักเขตได้ แต่อาจอนุญาตให้ประชาชนทั้ง 2 ประเทศเข้าชม หรือถ่ายภาพได้แต่ต้องมีเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ฝ่ายดูแลร่วมกัน 2. ตลาดทั้ง 2 ฝ่ายควรแยกออกจากกันเพื่อให้ง่ายต่อการควบคุม โดยมีพื้นที่ตรงกลางไว้รองรับการสัญจรไปมาของกันและกัน 3. วางมาตรการที่ดีร่วมกันในระยะยาวโดยเฉพาะปัญหายาเสพติด
พร้อมกันนี้ ได้เสนอข้อมูลการเปิดตลาดชายแดนจุดผ่อนปรนช่องกร่าง ประกอบด้วย 1.รูปแบบและแผนผังการเปิดตลาดแลกเปลี่ยนสินค้า 2.แนวความคิดกำหนดขอบเขต 3.ประเภทสินค้าที่กัมพูชานำมาขาย และ 4.วันเวลาเปิดปิด สำหรับแผนผังตลาดของฝั่งไทยจะตั้งอยู่บริเวณหน้าฐานปฏิบัติการทหารช่องกร่าง และมีรั้วกำหนดขอบเขตชัดเจน ซึ่งจะเว้นพื้นที่ตรงกลางเป็นช่องว่างทางเดินและมีรั้วหรือลวดหนามกั้นทางเดินไปยังตลาดของกัมพูชาตรงกันข้าม มีเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ฝ่ายดูแลความสงบเรียบร้อยและการเข้าออกของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ
ในเบื้องต้นทั้ง 2 ฝ่าย ได้เห็นชอบร่วมกัน ให้มีการเปิดตลาดการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณจุดผ่อนปรนช่องกร่าง สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ทุกวันพุธของสัปดาห์ ระหว่างเวลา 09.00-14.00 น.และมีกำหนดให้เปิดตลาดเป็นครั้งแรกในวันพุธที่ 31 ส.ค.นี้ และล่าสุดฝ่ายไทยขอให้ระงับไปก่อน ดังกล่าว