เชียงราย - นักธุรกิจจีนพรึ่บ! เตรียมรุก AEC เต็มพิกัด ยกทีมร่วมเวทีเตรียมความพร้อมเมืองหน้าด่านที่เมืองพ่อขุนฯ พร้อมตั้งโต๊ะจับคู่ธุรกิจกับผู้ประกอบการ 17 จังหวัดเหนือ
วันนี้ (6 ก.ย.) นายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้เป็นประธานเปิดการสัมมนาเรื่อง “เปิดระเบียงเศรษฐกิจ NSEC สู่ AEC จีน” และเจรจาจับคู่ธุรกิจ ที่สำนักงานพาณิชย์ 17 จังหวัดภาคเหนือ ร่วมกันจัดขึ้น ณ ห้องดอยตุง โรงแรมดุสิตไอส์แลนด์รีสอร์ท จ.เชียงราย โดยมีตัวแทนภาครัฐและเอกชนจากเมืองเศรษฐกิจต่างๆ ของจีน สปป.ลาว ฯลฯ รวมทั้งเครือข่ายธุรกิจ 17 จังหวัดภาคเหนือของไทยเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
นายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย กล่าวว่า ในฐานะเมืองยุทธศาสตร์ที่เป็นประตูสู่ AEC และจีน ทั้งทางท่าเรือแม่น้ำโขง ทางบกผ่านถนน R3b ในพม่า และ R3a ใน สปป.ลาว รวมทั้งจะมีสะพานเชื่อมไทย-สปป.ลาว ที่ อ.เชียงของ ที่จะแล้วเสร็จในปี 2556 เชียงรายจึงเป็นแกนนำในการเตรียมความพร้อมให้กับ 17 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อจะเป็นจุดระบายสินค้าให้ ดังนั้นเราจึงจะจัดสัมมนาและจะมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายเพื่อเตรียมคน เตรียมงาน เตรียมพื้นที่ รองรับพัฒนาการในอนาคต เช่น เชียงราย เป็นจุดส่งออก พะเยาเป็นฮัพสินค้ายางพารา เป็นต้น
นายสมชัย กล่าวอีกว่า ระหว่างวันที่ 8-11 ก.ย.นี้ ตนจะนำคณะภาครัฐและเอกชนเชียงรายเดินทางผ่านถนน R3a ไปเยือนสิบสองปันนา ผู่เอ๋อ (ซือเหมา) และคุนหมิง มณฑลหยุนหนัน และที่ฝผู่เอ๋อ จะมีเวทีจับคู่ทางธุรกิจด้านชาและกาแฟ ระหว่างนักธุรกิจไทย-จีนด้วย และวันที่ 16-17 ก.ย.54 ก็จะจัดระดมสมองภาครัฐและเอกชนทุกภาคส่วนในจังหวัด เพื่อแบ่งกลุ่มการพัฒนาด้านต่างๆ รองรับมหัศจรรย์ 750 ปีเมืองเชียงราย
นายเฉลิมพล พงศ์ฉบับนภา พาณิชย์ จ.เชียงราย กล่าวว่า ด้วยยุทธศาสตร์และภูมิศาสตร์ของเชียงราย และ 17 จังหวัดภาคเหนือ ที่จะเป็นประตูการค้าของไทยสู่กลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ ASEAN Economic Community (AEC) ซึ่งจะเป็นประชาคมเต็มตัวในปี 2558 รวมทั้งจีนตอนใต้ ดังนั้น ในฐานะพื้นที่เชื่อม AEC-จีน จึงต้องพัฒนาศักยภาพด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งงานครั้งนี้จึงเป็นการเปิดวิสัยทัศน์จากผู้ทรงคุณวุฒิและจับคู่ทางธุรกิจระหว่างนักธุรกิจต่างๆ เพื่อรองรับพัฒนาการไปพร้อมๆ กันด้วย
นายหม่า หยวน ผู้บริหารบริษัท Ingo จำกัด เมืองคุนหมิง มณฑลหยุนหนัน ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบและเพิ่มมูลค่าสินค้า กล่าวว่า AEC-จีน จะสนับสนุนให้บริษัทสามารถเลือกดูสินค้าในกลุ่ม AEC ว่ามีสินค้าชนิดใดในกลุ่ม ที่จะสามารถนำไปเพิ่มมูลค่าและจำหน่ายที่จีนได้บ้าง ซึ่งบริษัทมุ่งหวังจะลงทุนกับกลุ่ม AEC อย่างเต็มที่โดยเฉพาะประเทศไทย แต่ยังติดปัญหาเรื่องข้อกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศไทยที่ยังไม่คุ้นเคย รวมถึงเรื่องวัฒนธรรม ภาษา ประเพณี ฯลฯ ซึ่งต้องอาศัยการศึกษาตลาดและเสาะหาผู้ช่วยทางธุรกิจก่อนถึงปี 2558 ต่อไป
นายเฉิน เสี่ยว ฮุ่ย ประธานบริหารบริษัท ยูนนานฮัวจิ อิโคโนมิค แอนด์ เทรด จำกัด จากเมืองคุนหมิง กล่าวว่า บริษัทมีสินค้าอุตสาหกรรม การเกษตร และเครื่องใช้ไฟฟ้า หลายรายการมาก และต้องการจะขยายตลาดลงสู่กลุ่ม AEC แต่ติดปัญหาด้านการลงทุนระหว่างประเทศโดยเฉพาะด้านกฎหมายการลงทุน
นายเฉิน เสี่ยว ฮุ่ย ย้ำว่า ทางยูนนานฮัวจิ อยากจะเข้าไปลงทุนในกลุ่ม AEC โดยเฉพาะประเทศไทย โดยไม่ต้องผ่านการเป็นคู่ธุรกิจหรือ Partner กับเอกชนรายใด แต่อยากเข้าไปเปิดกิจการเป็นบริษัทที่เป็นเอกเทศ
ด้าน Miss หลิว ลี่ ตัวแทนนักธุรกิจจีนจากเมืองเฉินตู มณฑลเสฉวน กล่าวว่า ตนประกอบธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและสถานีไฟฟ้าที่เขตติดต่อเสฉวน-หยุนหนัน โดยอาศัยทรัพยากรที่สมบูรณ์ เช่น น้ำพุ ป่าไม้ ฯลฯ ซึ่งพบว่าปัจจุบันมีนักธุรกิจไทยประเภทนวด สปา ฯลฯ เข้าไปร่วมลงทุนด้วยแล้ว ดังนั้นจึงกำลังมองหาคู่ธุรกิจในไทยเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกัน ขณะเดียวกันก็จะได้นำสินค้าในกลุ่ม AEC ไปจำหน่ายในประเทศจีนพร้อมๆ กันด้วย ทั้งนี้สินค้าที่ให้ความสนใจมากเกี่ยวข้องกับธุรกิจนวดและสปา
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับการสัมมนาครั้งนี้ จัดให้มีวิทยากรให้ความรู้โดยนายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักความร่วมมือการค้าและการลงทุน กรมการค้าต่างประเทศ และ รศ.ดร.ประยุทธ วงศ์แปง คณบดีบัณฑิตวิทยาลั้ย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในหัวข้อเปิดระเบียงเศรษฐกิจ NSEC สู่ AEC จีน และการเป็น AEC กับตลาดชายแดน
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจโดยมีผู้ประกอบการในภาคเหนือ 17 จังหวัดเข้าร่วมจำนวน 250 คน จากมหานครฉงชิ่ง จำนวน 5 ราย มณฑลหยุนหนันจากเมืองคุนหมิง สุ่ยฟู่ จาวทง และสิบสองปันนา จำนวน 21 ราย มณฑลเสฉวนจำนวน 1 ราย เมืองกว่างโจว มณฑลกว่างตง จำนวน 3 ราย และจาก แขวงบ่อแก้ว และแขวงหลวงน้ำทา สปป.ลาว รวม 20 ราย