ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ตำรวจขอนแก่นทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หนุ่มขอนแก่นปล้นทองจากร้านในห้างบิ๊กซี สาขาเอกชัย กทม.นำมากระจายขายให้ร้านทองในขอนแก่นกว่า 8 แห่ง แต่ไม่รอดถูกตำรวจขอนแก่น รวบตัวได้ในรีสอร์ตหรูที่ อ.อุบลรัตน์
วันนี้ (18 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. พล.ต.ต.นิคม อินเฉิดฉาย ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางขุนเทียน และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สส.ภ.จว.ขอนแก่น ได้ควบคุมตัว นายอรัญ ขาวภูเขียว อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 11 ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น พนักงานส่งเอกสารบริษัทแห่งหนึ่งใน กทม.มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพก่อเหตุใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์ร้านทอง ชื่อ ห้างทองเพชรทองใบเยาวราช ตั้งอยู่บนชั้นที่ 2 ของห้างสรรพสินค้า ภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาเอกชัย ปากซอยเอกชัย 67 แขวงและเขตบางบอน กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 10.45 น.วันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมนายอรัญ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในห้างขายทองคำรูปพรรณในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ทั้งสิ้น 8 แห่ง ที่ นายอรัญ นำทองมาขาย ประกอบด้วย บริเวณอาคารพาณิชย์ติดกับสถานีขนส่งผู้โดยสารขอนแก่น 5 ร้านค้า, ถ.หน้าเมือง 2 ร้านค้า และ ถ.ศรีจันทร์ 1 ร้านค้า
โดย นายอรัญ ได้นำทองคำสร้อยข้อมือหนัก 2 บาท จำนวน 10 เส้น มาแบ่งขายให้ร้านขายทองในแต่ละร้าน บางร้านก็รับซื้อ บางร้านไม่รับซื้อ และบางร้านได้เปลี่ยนเป็นซื้อทองคำแท่งหนัก 2 บาท จำนวน 2 แท่ง ซึ่งได้เงินมาประมาณ 4 แสนบาท
พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงศิริสมบัติ ผกก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น เปิดเผยว่า เมื่อเช้าวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายใส่หมวกแก๊ปสีดำ และคาดผ้าปิดปาก-จมูก สีขาวปิดบังใบหน้า สวมเสื้อคลุมสีครีม นุ่งกางเกงยีน ใส่รองเท้าผ้าใบสีขาว มีกระเป๋าสะพายสีดำคาดสะพายแล่งอีก 1 ใบ ถืออาวุธปืนไม่ทราบขนาดเดินส่ายปากกระบอกเข้ามาหน้าร้านทองดังกล่าว ตะโกนสั่งให้พนักงานขายในร้านถอยไปรวมกันอยู่ที่มุมตู้โชว์สินค้าด้านใน
ก่อนใช้มือกวาดสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนัก 2 บาท รวม 10 เส้น มูลค่าประมาณ 507,000 บาท ที่แขวนอยู่ในตู้โชว์ติดผนัง แล้ววิ่งหนีไปทางบันไดเลื่อนขาขึ้น พนักงานในร้านได้วิ่งติดตามคนร้ายไปอย่างกระชั้นชิด หวังจะจับกุม แต่กลับถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงสวน 1 นัด กระสุนถูกกระจกประตูบานเลื่อนบริเวณทางออกลานจอดรถด้านหลังห้างแตกเสียหาย 2 บาน โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนร้ายขี่รถ จยย.หลบหนีไปได้
พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งอยู่ในร้านทองที่เกิดเหตุ และภายในห้างทุกตัวแล้ว เห็นภาพคนร้ายอย่างชัดเจน ซึ่งก่อนลงมือกล้องสามารถบันทึกภาพคนร้าย ขณะเดินขึ้นบันไดเลื่อน และเดินผ่านไปมาบริเวณหน้าร้าน เพื่อสำรวจดูลาดเลา ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 10.00 น.จากนั้นอีกประมาณ 30 นาที คนร้ายถึงจะตัดสินใจก่อเหตุโดยใช้เวลาลงมือไม่ถึง 2 นาที
ทั้งนี้ มีพยานระบุว่า ยานพาหนะที่คนร้ายใช้เป็นรถ จยย.แบบผู้หญิง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีเทา หมายเลขทะเบียนจำได้แค่เลข 2 ตัวหลัง คือ 48 ไม่ทราบหมวดอักษรและจังหวัด ซึ่งได้วิทยุแจ้งให้ตำรวจทุกท้องที่ช่วยสกัดจับและออกตรวจสอบที่มาของรถ จยย.กระทั่งทราบว่า คนร้ายคือนายอรัญ ขาวภูเขียว ได้หลบหนีมาอยู่ที่บ้านเกิดใน อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางขุนเทียน จึงขอความร่วมมือกับ ตำรวจสืบสวน ภ.จว.ขอนแก่น ได้สืบสวนจับกุมนายอรัญ และสามารถจับกุมนายอรัญ ที่โฮมรีสอร์ต อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ในคืนวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่กำลังนอนกอดแฟนสาว จากนั้นควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ ภ.จว.ขอนแก่น
นายอรัญ รับสารภาพว่า ทำงานเป็นพนักงานส่งเอกสารของบริษัทแห่งหนึ่งใกลักับที่เกิดเหตุ เข้าออกที่ห้างเกิดเหตุอยู่เสมอ จนรู้เส้นทางหลบหนีอย่างดี เมื่อราคาทองคำแพงขึ้นถึงบาทละ 2.5 หมื่นบาท ทั้งตนรายได้น้อย ไม่มีเงินพอไปแต่งแฟนสาวที่ จ.ขอนแก่น จึงได้ตัดสินใจชิงทรัพย์ทองคำร้าน ห้างทองเพชรทองใบเยาวราช ชั้นที่ 2 ของห้างบิ๊กซี สาขาเอกชัย
ได้ทองคำสร้อยข้อมือหนัก 2 บาท จำนวน 10 เส้น จึงได้หลบหนีมาที่ จ.ขอนแก่น เมื่อ 12 ส.ค.ได้นำทองคำทั้งหมดที่ชิงทรัพย์มา นำไปแบ่งขายตามห้างขายทองในเขตเทศบาลนครขอนแก่น จากนั้นได้โอนเงินให้กับแฟนสาวจำนวน 4 หมื่นบาท ฝากเข้าบัญชีตัวเอง 3 แสนบาท ที่เหลือเก็บไว้ใช้จ่าย ขณะที่หลบหนีอยู่ที่โฮมรีสอร์ต เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ดังกล่าว
หลังจากนำตัว นายอรัญ ทำแผนในการนำทองมาขายให้ตามร้านทองในขอนแก่นเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุม นายอรัญ ขาวภูเขียว ไปส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.บางขุนเทียน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
