ทอท.มั่นใจ สนามบินดอนเมือง จะกลับมาทำกำไรในอีก 5 ปี เตรียมย้ายสายการบินในประเทศไปใช้อาคาร 1 ที่มีขนาดใหญ่กว่า 1 ส.ค.นี้ แจงความพร้อมอำนวยความสะดวก การจัดระบบจราจร ที่จอดรถ และจุดจอดรถสาธารณะ รับ-ส่ง ผู้โดยสาร
นาวาอากาศโทประทีป วิจิตรโท ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท./AOT เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2554 จะย้ายการให้บริการเที่ยวบินและผู้โดยสารภายในประเทศที่ท่าอากาศยานดอนเมือง จากเดิมใช้อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ไปยังอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคารที่ 1 ซึ่งถือเป็นการใช้ประโยชน์ท่าอากาศยานดอนเมืองเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเชื่อว่าในปีงบประมาณ 2554 จะมีผู้โดยสารใช้ท่าอากาศยานดอนเมืองประมาณ 3.95 ล้านคน สูงกว่าปีงบประมาณ 2553 ถึงร้อยละ 44
ที่ผ่านมาอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคารที่ 1 ทอท.ใช้รับรองเที่ยวบินระหว่างประเทศแบบเช่าเหมาลำ ทั้งนี้ อาคาร 1 มีศักยภาพรองรับผู้โดยสารได้ 16 ล้านคนต่อปี ขณะที่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศรองรับผู้โดยสารเพียง 11 ล้านคนต่อปี โดย ทอท.ได้เตรียมจัดอุปกรณ์อำนวยความสะดวก อาทิ รถเข็นกระเป๋าสัมภาระ บันไดเลื่อน ห้องพักผู้โดยสาร และร้านอาหาร
ส่วนอนาคตเชื่อว่าการใช้ประโยชน์ใน 6 กิจกรรมหลัก จะเพิ่มรายได้ให้กับท่าอากาศยานดอนเมืองกลับมาทำกำไรอีกครั้งภายใน 5 ปี จากปัจจุบันมีผู้โดยสารใช้บริการ 4 ล้านคน และมีรายได้เดือนละกว่า 50 ล้านบาท แต่กลับมีค่าใช้จ่ายเดือนละ 100 ล้านบาท ทำให้ขาดทุนที่ดอนเมืองเฉลี่ยเดือนละ 50 ล้านบาท
ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการจัดจ้างที่ปรึกษาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ โครงการศูนย์ซ่อมท่าอากาศยาน โครงการบริหารจัดการอะไหล่อากาศยาน โครงการศูนย์แสดงรถยนต์นำเข้า ศูนย์ขนส่งกระจายสินค้า ศูนย์ประชุมและนิทรรศการ ณ อาคารผู้โดยสาร สำหรับอากาศยานส่วนบุคคล และอากาศยานเช่าเหมาลำ (Private Jet Terminal)
โดยในวันที่ 1 สิงหาคม 2554 สายการบินนกแอร์จะทำการบินเที่ยวบินปฐมฤกษ์ขาออก 3 เที่ยวบิน เวลา 06.00 น. คือ DD7804 จากท่าอากาศยานดอนเมืองไป จ.นครศรีธรรมราช, DD9200 ไป จ.อุดรธานี และ DD9310 ไป จ.อุบลราชธานี ส่วนสายการบินโอเรียน ไทย แอร์ไลน์เริ่มทำการบินเที่ยวบิน ขาออก เที่ยวบินที่ OX8281 เวลา 07.40 น.ไป จ.ตรัง ซึ่ง ทอท.ร่วมกับสายการบินนกแอร์ จะจัด Mascot เพื่อต้อนรับและมอบของที่ระลึกให้แก่ผู้โดยสาร รวมทั้งสายการบินนกแอร์จะจัดการสาธิตการทำขนมไทยและมอบให้ผู้โดยสารอีกด้วย
สำหรับระบบการจราจรบริเวณอาคาร 1 นั้น ผู้ที่จะมาส่งผู้โดยสารสามารถจอดส่งได้ที่หน้าชานชาลาขาออกชั้น 3 ซึ่งได้จัดสรรพื้นที่การจอดไว้อย่างเป็นสัดส่วน รวมถึงที่จอดรถสำหรับผู้โดยสารที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และหากต้องการจอดรถเป็นระยะเวลานาน มีที่จอดรถรองรับได้ถึง 720 คัน
ส่วนผู้โดยสารขาเข้าที่ต้องการใช้บริการรถแท็กซี่ รถเช่า หรือรถลีมูซีนเข้าเมืองหรือไปยังจุดปลายทางอื่นๆ นั้น สามารถเรียกใช้บริการได้ที่บริเวณหน้าชานชาลาขาเข้า ชั้น 1 ดังนั้น จากการเตรียมการทุกด้านตามที่กล่าวมานี้ เชื่อมั่นว่าผู้ใช้บริการจะได้รับความสะดวกสบาย และพึงพอใจในการใช้บริการที่อาคาร 1
