จับมอดไม้ดัดแปลงรถวีโก้ซุกไม้พะยูงใต้ท้องรถลำเลียงออกป่าภูสีฐาน

มุกดาหาร - ตชด.234 มุกดาหารจับกุมมอดไม้ได้ 2 รายขณะขนออกจากป่าสงวนแห่งชาติป่าดงภูสีฐาน เผยหัวใสดัดแปลงรถวีโก้ซุกไม้พะยูงใต้ท้องรถแนบเนียน

เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น.วันนี้ (5 ส.ค.) เจ้าหน้าที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน 234 ภายใต้การอำนวยสั่งการของ พ.ต.ท.เทิดฤทธิ์ สุวรรณประทัง ผบ.ร้อย (สบ.2) ร้อย ตชด.234 มุกดาหาร ได้สั่งการให้ ร.ต.ท.ภาสกร หนุดตะแสง หัวหน้าชุดเฉพาะกิจฯ ร้อย ตชด.234 นำกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่จากกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปรามการกระทำผิดว่าด้วยกฎหมายการป่าไม้สายที่ 2 จังหวัดมุกดาหาร ได้ร่วมกันตรวจยึดจับกุมรถยนต์กระบะยี่ห้อวีโก้ สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน บฉ-5601 นครพนม

ภายใต้ท้องกระบะใช้แผ่นเหล็กดัดแปลงเป็นช่องซุกซ่อนไม้พะยูงแปรรูปไว้ใต้ท้องรถจำนวน 2 ท่อน ขนาดยาวประมาณ 200 ซม. กว้าง 30 ซม. หนา 10 ซม. รวมจำนวน 2 ท่อน รถกระบะวีโก้ตอนเดียว และรถกระบะไมตี้เอ็กซ์ โดยรถกระบะทั้ง 3 คันได้ดัดแปลงในรูปแบบเดียวกันรวมจำนวน 3 คัน ได้ไม้พะยูงแปรรูปจำนวน 9 ท่อน แยกซุกซ่อนอยู่ภายใต้ท้องรถทั้ง 3 คัน

จากการสอบสวน เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายอินทรา วังคะฮาต ราษฎรเมืองมุกดาหาร และนายบัญชา พันธุ์เมือง อายุ 38 ปี ราษฎร อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ส่วนผู้ขับขี่รถกระบะไมตี้เอ็กซ์ได้ทิ้งรถวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อกล่าวหาว่ากระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งไม้พะยูงขนาดดังกล่าวราคาซื้อขายในท้องตลาดมีราคาท่อนละประมาณ 1.5 หมื่นบาท

เหตุเกิดบนเส้นทางสายบ้านแก้งช้างเนียม-บ้านคำชะอี อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร จากรายงานของสายลับกองร้อย ตชด.234 มุกดาหาร แจ้งว่า มีกลุ่มนายทุนได้ลักลอบขนไม้พะยูงแปรรูป โดยใช้รถยนต์กระบะบรรทุกออกจากป่าสงวนแห่งชาติป่าดงภูสีฐาน เขตอำเภอคำชะอี จึงร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมวางแผนเข้าดำเนินการจับกุมได้ดังกล่าว

พ.ต.ท.เทิดฤทธิ์ สุวรรณประทัง ผบ.ร้อย ตชด.234 มุกดาหาร เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ตชด.234 ก็สามารถจับกุมรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ที่ดัดแปลงเจาะตัวรถ พร้อมทั้งปรับแต่งพื้นที่เบาะนั่งด้านท้ายรถ ใช้ซุกซ่อนบรรทุกไม้พะยูงได้ถึง 2 ท่อนใหญ่ ซึ่งขณะนี้ขบวนการมอดไม้ได้มีการดัดแปลงรถเก๋งรถกระบะ ให้สามารถซุกซ่อนไม้แปรรูปเพื่อการลักลอบเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ได้อย่างแยบยลยิ่งขึ้น

เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายก็ต้องเข้มงวดรู้เท่าทันคนร้ายยิ่งขึ้น พร้อมกับขอความร่วมมือมายังประชาชนให้ช่วยกันตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมาย หากพบเห็นการกระทำผิดขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทุกแห่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยรับแจ้งเหตุ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะเรื่องของยาเสพติดที่ระบาดเข้ามาในชุมชนเป็นอย่างมาก