น่าน - ป่าไม้ สนธิกำลังร่วมหลายฝ่าย บุกตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าน้ำยาวและป่าน้ำสวด พบการบุกรุกพื้นที่ป่าร่วมพันไร่ทำสวนยางพารา เผยพบรถตำรวจเมืองน่านจอหราคาแคมป์คนงาน
นายทนงศักดิ์ ธรรมโม ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 เชียงราย ที่ได้รับมอบหมายภารกิจตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำจาก นายสุวิทย์ รัตนมณี อธิบดีกรมป่าไม้ ได้สนธิกำลังร่วมกับ สายตรวจปราบปรามสายที่ 3 จังหวัดน่าน และ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นน. 12 เชียงกลาง หน่วยที่ 10 สะเนียน หน่วยที่13 ขุนน่าน หน่วยที่ 14 ทุ่งช้าง หน่วยที่ 15 พระธาตุ หน่วยที่ 6 แม่สาคร หน่วยที่ 27 สองแคว พร้อมด้วยหน่วยประสานงานป้องกันรักษาป่าประจำจังหวัดน่าน ศูนย์ประสานงานป่าไม้น่าน และฝ่ายปกครองอำเภอท่าวังผา กว่า 80 นาย เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าน้ำยาว และป่าน้ำสวด วานนี้(9 มิ.ย.54)
ซึ่งพบว่า ผืนป่าสงวนแห่งชาติและเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 2 ต้นน้ำลำธาร ห่างจากหมู่บ้านคัวะ ม.5 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา จ.น่าน ลึกเข้าไปในหุบเขาประมาณ 3.5 กิโลเมตร ถูกแผ้วถางบุกรุกทำลายเป็นลักษณะการบุกรุกป่าใหม่ จำนวนหลายลูก และมีการปลูกทดแทนด้วยยางพารา มีทั้งที่ปลูกนานจนไม้ยางพารามีอายุกว่า 2 ปี และบางส่วนอยู่ระหว่างการเตรียมพื้นที่ลงกล้ายาง ทั้งยังพบเพิงพักชั่วคราวของคนงานรอบพื้นที่บุกรุกหลายจุด
โดยขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเข้าตรวจสอบ พบว่า คนงานพยายามวิ่งหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ 4 ราย ซึ่งอ้างว่า เป็นเพียงคนงานรับจ้างตัดหญ้าได้ค่าแรงวันละ 200 บาท ไม่ทราบว่าเป็นพื้นที่ป่าสงวน เนื่องจากไม่ใช่เจ้าของสวนยาง
และที่พิกัด 47Q 683663UTM2110424 เจ้าหน้าที่พบแคมป์พักของคนงาน ปลูกสร้างด้วยไม้กึ่งถาวร มีเครื่องครัวและเครื่องนอน และพบรถยนต์ปิกอัพจำนวน 2 คัน จอดอยู่หน้าแคมป์คนงาน คือรถยนต์โตโยต้า สีแดง หมายเลขทะเบียน บง 3468 น่าน ด้านหน้ารถติดสติ๊กเกอร์อนุญาตเข้า-ออก ของตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 325 เชียงกลาง และพบว่ามีตราเครื่องหมายตำรวจวางไว้หน้ารถ เสื้อเกราะกันกระสุนอยู่ภายในรถ
อีกคันเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ ยี่ห้อนิสสัน ฟรอนเทียน นาวาร่า สีดำ หมายเลขทะเบียน บฉ 1999 น่าน ตรวจสอบพบว่าเจ้าของรถเป็นดาบตำรวจรายหนึ่งในอำเภอเมืองน่าน แต่ไม่พบบุคคลในเพิงพักคนงาน หรือบุคคลแสดงตัวเป็นเจ้าของรถยนต์ นอกจากนี้ยังพบตัดหญ้าแบบสะพาย จำนวน 3 เครื่อง เครื่องพ่นยา จำนวน 1 เครื่อง รถยนต์ปิกอัพ 2 คันรถจักรยานยนต์ จำนวน 5 คัน อยู่ในบริเวณเพิงพักคนงาน จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
นายทนงศักดิ์ เปิดเผยว่า ได้รับข้อมูลจากสายตรวจปราบปรามสายที่ 3 จังหวัดน่าน ถึงการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ แต่ด้วยข้อจำกัดด้านบุคลากร ทำให้ต้องสนธิกำลังเพื่อเข้าตรวจสอบเนื่องจากเป็นพื้นที่กว้าง เบื้องต้นพบว่า มีการบุกรุกป่าใหม่และการบุกรุกไม่ใช่นายทุนเพียงคนเดียว มีทั้งชาวบ้าน และที่รับจ้างของนายทุนหลายรายบุกรุกป่าผืนนี้
คาดว่า ป่าน้ำสวด และป่าน้ำยาว ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำและเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ถูกนายทุนบุกรุกเพื่อปลูกยางพาราแล้วกว่า 800-900 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายต่อรัฐประมาณ 135 ล้านบาท
โดยเบื้องต้นจะแจ้งข้อกล่าวหา การกระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 ความผิดฐานยึดถือครอบครอง ทำประโยชน์ ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต และความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 54 ผิดฐานครอบครองพื้นที่ป่าและทำให้สภาพป่าเสียหาย โดยไม่ได้รับอนุญาตนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ตาลชุม เพื่อสอบสวนขยายผลดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป