xs
xsm
sm
md
lg

กรมป่าไม้ยกทัพลง 3 อำเภอกาญจน์ตรวจสอบบุกรุกป่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กาญจนบุรี - รองอธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยกทัพลงพื้นที่ 3 อำเภอของจังหวัดกาญจนบุรี ตรวจสอบนายทุน กลุ่มผู้มีอิทธิพลบุกรุกป่าเมืองกาญจน์ ครอบคลุม 2 ล้านไร่

จากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ได้ประสานงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จนไปสู่การเข้าตรวจยึดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาช้างเผือกจำนวน 2 แปลง พื้นที่ 300 ไร่ และอธิบดีกรมป่าไม้มีคำสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องจำนวน 12 นายออกนอกพื้นที่ และตั้งกรรมการสอบสวน อีกทั้งมีการสั่งการให้ขยายผลการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนในพื้นที่ใกล้เคียง

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (12 พ.ค.) นายเริงชัย ประยูรเวช รองอธิบดีกรมป่าไม้ได้เดินทางลงพื้นที่กาญจนบุรี และเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปฏิบัติการขยายผลการตรวจสอบผู้บุกรุกพื้นที่ป่าไม้เพิ่มเติม

นายเริงชัยเปิดเผยว่า จากนโยบายของกรมป่าไม้ได้สั่งการให้ลงพื้นที่กาญจนบุรีเพื่อทำการขยายผลการตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติในพื้นที่กาญจนบุรีที่กรมป่าไม้ดูแลรับผิดชอบ โดยปารปฏิบัติการเป็นการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ กรมอุทยานฯ บางส่วนและทหารกับฝ่ายปกครองจังหวัดกาญจนบุรีเพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายที่มีการตรวจสอบเบื้องต้นจากภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศว่าอาจจะเป็นการบุกรุกแผ้วถางป่าสงวนแห่งชาติโดยผิดกฎหมาย

รองอธิบดีกรมป่าไม้เปิดเผยถึงแผนการปฏิบัติงานว่า โดยกรมป่าไม้จะใช้เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้เป็นหน่วยหลักประมาณ เกือบ 100 นาย แบ่งออกเป็น 3 ชุด ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติครอบคลุม 3 อำเภอ คือ 1.อ.สังขละบุรี ที่มีการตรวจยึดพื้นที่ไปแล้ว 2 แปลง 300 กว่าไร่ 2.อ.ไทรโยค และ 3.อ.ทองผาภูมิ ซึ่งหากคิดเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติจะมีจำนวนประมาณ 2 ล้านไร่

โดยการตรวจสอบในชั้นแรกเป็นการตรวจสอบภาพเปรียบเทียบภาพถ่ายทางอากาศว่าหากใครมีการบุกรุกครอบครองพื้นที่ใหม่ก็จะต้องถูกดำเนินการตรวจยึดพื้นที่ป่าคืน และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นจะดำเนินการที่สังขละบุรีกับทองผาภูมิก่อน

นายเริงชัยกล่าวอีกว่า เนื่องจากพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติในการดูแลของกรมป่าไม้มีพื้นที่กว้างใหญ่มาก ซึ่งทางกรมป่าไม้ได้ดำเนินการดูแลรักษาอย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากจำนวนเจ้าพนักงานและเจ้าหน้าที่บุคลากรมีจำนวนน้อยกว่าพื้นที่ดูแลรับผิดชอบเป็นอัตราส่วนที่มาก และเนื่องจากกระแสความต้องการพื้นที่ป่าเพื่อปลูกยางพารามีจำนวนมากขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้เกิดเกิดปัญหาทำให้เกิดการบุกรุกพื้นที่ป่ามากขึ้น

ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องปรามและเพื่อตรวจสอบให้เกิดความชัดเจนในทุกกรณี กรมป่าไม้จึงระดมเจ้าหน้าที่และประสานงานเพื่อขอสนธิกำลังกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องจะทำการตรวจสอบในครั้งนี้ โดยจะใช้การเดินเท้าเข้าตรวจสอบเป้าหมายต่างๆ ทั้ง 3 อำเภอ ซึ่งคาดว่าปฏิบัติการตรวจสอบพื้นที่ป่าในครั้งนี้จะใช้เวลาอาจจะนานเป็น 1 เดือน หากพบพื้นที่ใดมีการบุกรุกครอบครองป่าไม่ถูกต้องก็จะดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น