กาญจนบุรี - ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี หนุนกรมป่าไม้เข้าตรวจสอบนายทุนบุกรุกป่าในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ลั่นหากพบว่าบุคคลใดหรือกลุ่มคนใดบุกรุกการครอบครองที่ดินรัฐโดยผิดกฎหมายก็ให้ดำเนินการอย่างเฉียบขาด
จากการที่นายสุวิทย์ รัตนมณี อธิบดีกรมป่าไม้ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจป้องกันปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้พื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อดำเนินการตามแผนยุทธการการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จนล่าสุดมีการตรวจยึดพื้นที่จำนวน 5 แปลง เนื้อที่ 1,200 กว่าไร่นั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (13 พ.ค.) นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า จังหวัดกาญจนบุรีต้องขอขอบคุณทางกรมป่าไม้ที่ให้ความสำคัญในการปกป้องรักษาป่าไม้ในพื้นที่กาญจนบุรี ซึ่งกรมป่าไม้ถือเป็นหน่วยงานผู้รับผิดชอบที่มีหน้าที่โดยตรงที่มีต้นสังกัดในส่วนกลาง
ดังนั้น อำนาจการสั่งการในภารกิจที่ปฏิบัติจึงเป็นการรวมศูนย์อยู่ในส่วนกลาง ตนได้รับการประสานงานจากทางเริงชัย ประยูรเวช รองอธิบดีกรมป่าไม้ว่าจะลงพื้นที่ปฏิบัติงานภารกิจนี้ ตนได้ขอบคุณและพร้อมที่จะสนับสนุนการทำปฏิบัติในทุกด้าน
ในเบื้องต้นหลังจากที่นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่และมีการจับกุมแรงงานต่างด้าวบางส่วนทั้งตรวจยึดพื้นที่ใน ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จำนวน 2 แปลง เนื้อที่ 300 กว่าไร่ จังหวัดกาญจนบุรีได้ให้นายจำรัส กังน้อย นายอำเภอสังขละบุรี เข้าร่วมอำนวยความสะดวกและประสานงานการปฏิบัติ
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีเปิดเผยต่อว่า จากนั้นสั่งการให้อำเภอสังขละบุรีตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการครอบครองพื้นที่ต่างๆ ว่าเป็นไปตามระเบียบกฎหมายหรือไม่โดยให้ประสานงานกับหน่วยงานที่รับผิดขอบดูแลพื้นที่โดยตรงเพื่อประสานงานให้เกิดความชัดเจนในข้อกฎหมาย เพราะมีหลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งกรมป่าไม้ นิคมสหกรณ์ ส.ป.ก.กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และพระราชกฤษฎีกาที่ดินหวงห้ามทางการทหาร 2481 รวมถึงหน่วยงานรัฐที่ใช้ประโยชน์ในพื้นที่ต่างๆ ด้วย โดยการประสานงานเพื่อให้เกิดข้อสรุปที่นำไปสู่การตรวจสอบและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายบัญญัติไว้อย่างเคร่งครัด
หากพบว่าบุคคลใดหรือกลุ่มคนใดบุกรุกการครอบครองที่ดินรัฐโดยผิดกฎหมายก็ให้ดำเนินการอย่างเฉียบขาด เพราะตนถือว่าทรัพยากรป่าไม้เป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าของประเทศไทยถือเป็นหน้าที่ที่ต้องช่วยกันดูแลรักษาอนุรักษ์ปกป้องไว้มิให้ผู้หนึ่งผู้ใดเข้าบุกรุกยึดครองทำประโยชน์ส่วนตน ตรงนี้ชัดเจนมากซึ่งตรงกับภารกิจของกรมป่าไม้ที่ลงพื้นที่ปฏิบัติงานในตอนนี้ ถือว่าเป็นการลงพื้นที่มาช่วยดำเนินการให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม จังหวัดกาญจนบุรีจึงต้องขอขอบคุณต่อการลงพื้นที่การปฏิบัติการในครั้งนี้
จากการที่นายสุวิทย์ รัตนมณี อธิบดีกรมป่าไม้ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจป้องกันปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้พื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อดำเนินการตามแผนยุทธการการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จนล่าสุดมีการตรวจยึดพื้นที่จำนวน 5 แปลง เนื้อที่ 1,200 กว่าไร่นั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (13 พ.ค.) นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า จังหวัดกาญจนบุรีต้องขอขอบคุณทางกรมป่าไม้ที่ให้ความสำคัญในการปกป้องรักษาป่าไม้ในพื้นที่กาญจนบุรี ซึ่งกรมป่าไม้ถือเป็นหน่วยงานผู้รับผิดชอบที่มีหน้าที่โดยตรงที่มีต้นสังกัดในส่วนกลาง
ดังนั้น อำนาจการสั่งการในภารกิจที่ปฏิบัติจึงเป็นการรวมศูนย์อยู่ในส่วนกลาง ตนได้รับการประสานงานจากทางเริงชัย ประยูรเวช รองอธิบดีกรมป่าไม้ว่าจะลงพื้นที่ปฏิบัติงานภารกิจนี้ ตนได้ขอบคุณและพร้อมที่จะสนับสนุนการทำปฏิบัติในทุกด้าน
ในเบื้องต้นหลังจากที่นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่และมีการจับกุมแรงงานต่างด้าวบางส่วนทั้งตรวจยึดพื้นที่ใน ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จำนวน 2 แปลง เนื้อที่ 300 กว่าไร่ จังหวัดกาญจนบุรีได้ให้นายจำรัส กังน้อย นายอำเภอสังขละบุรี เข้าร่วมอำนวยความสะดวกและประสานงานการปฏิบัติ
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีเปิดเผยต่อว่า จากนั้นสั่งการให้อำเภอสังขละบุรีตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการครอบครองพื้นที่ต่างๆ ว่าเป็นไปตามระเบียบกฎหมายหรือไม่โดยให้ประสานงานกับหน่วยงานที่รับผิดขอบดูแลพื้นที่โดยตรงเพื่อประสานงานให้เกิดความชัดเจนในข้อกฎหมาย เพราะมีหลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งกรมป่าไม้ นิคมสหกรณ์ ส.ป.ก.กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และพระราชกฤษฎีกาที่ดินหวงห้ามทางการทหาร 2481 รวมถึงหน่วยงานรัฐที่ใช้ประโยชน์ในพื้นที่ต่างๆ ด้วย โดยการประสานงานเพื่อให้เกิดข้อสรุปที่นำไปสู่การตรวจสอบและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายบัญญัติไว้อย่างเคร่งครัด
หากพบว่าบุคคลใดหรือกลุ่มคนใดบุกรุกการครอบครองที่ดินรัฐโดยผิดกฎหมายก็ให้ดำเนินการอย่างเฉียบขาด เพราะตนถือว่าทรัพยากรป่าไม้เป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าของประเทศไทยถือเป็นหน้าที่ที่ต้องช่วยกันดูแลรักษาอนุรักษ์ปกป้องไว้มิให้ผู้หนึ่งผู้ใดเข้าบุกรุกยึดครองทำประโยชน์ส่วนตน ตรงนี้ชัดเจนมากซึ่งตรงกับภารกิจของกรมป่าไม้ที่ลงพื้นที่ปฏิบัติงานในตอนนี้ ถือว่าเป็นการลงพื้นที่มาช่วยดำเนินการให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม จังหวัดกาญจนบุรีจึงต้องขอขอบคุณต่อการลงพื้นที่การปฏิบัติการในครั้งนี้