ยะลา - ตำรวจตระเวนชายแดนร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ อ.เบตง จ.ยะลา นำกำลังกว่า 60 นายเข้าปิดล้อมปราบปรามผู้บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเบตง พบมีการปักเขตแบ่งแดนเตรียมปลูกยางพารา พื้นที่ป่าถูกทำลายมากกว่า 1,000 ไร่ พร้อมควบคุมตัวผู้บุกรุกได้ 3 ราย
เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (6 พ.ค.) นายดลเดช พัฒนรัฐ นายอำเภอเบตง อำนวยการสั่งการให้ พ.ต.ท.เชษฐ์วิทย์ นีระฮิง ผบ.ร้อย ตชด.445 เบตง พร้อมด้วย นายวุฒิชัย แก้วนพรัตน์ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ยะลา 6 นายอมร ชุ่มช่วย ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ด.ต.โกศล ปิ่นเพชช หัวหน้าชุดสืบสวนหาข่าว นำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 60 นาย พร้อมอาวุธครบมือเข้าปิดล้อม ตรวจค้นปราบปรามผู้บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเบตง บริเวณทิศเหนือบ้านปิยะมิตร 3 หมู่ที่ 7 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่าง ต.แม่หวาด อ.ธารโต เพื่อสนองพระราชเสาวนีย์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
หลังจากสืบทราบว่ามีนายทุนว่าจ้างชาวบ้านขึ้นไปแผ้วถาง ตัดไม้เพื่อเตรียมการปลูกยางพาราหลายร้อยไร่โดยในการปิดล้อมเจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าเข้าไปในป่ากว่า 20 กิโลเมตร และจากการตรวจสอบในจุดแรกพบว่าพื้นที่ป่าถูกแผ้วถางต้นไม้น้อยใหญ่ถูกตัดเป็นบริเวณกว้าง เสียหายมากกว่า 12 ไร่ มีการปักเสาแบ่งเขตแดน เพื่อเตรียมการปลูกยางพารา
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบกระท่อมหลายหลังซึ่งปลูกขึ้นเพื่อพักอาศัยของชาวบ้านที่เข้าไปบุกรุก อย่างไรก็ตาม จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายจิ้นอาน แซ่เฉิน อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 ม.7 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา นายมลฤดี แซ่เฉิน อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 ม.7 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา และ นางอรชร แซ่หว่อง อายุ 55 ปีอยู่บ้านเลขที่ 97/1 ม.7 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งเป็นเจ้าของกระท่อม
และจากการตรวจค้นภายในกระท่อม พบอุปกรณ์เลื่อยโซ่ยนต์ ไม้แปรรูปอีกหลายแผ่นบริเวณรอบๆ กระท่อมมีพื้นที่ป่าถูกแผ้วถางเสียหายกว่า 12 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายมากว่า 1,800,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งตำรวจดำเนินคดีในข้อหาบุกรุก ก่อสร้างแผ้วถางป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนผู้ต้องหารายอื่นไหวตัวทันสามารถหลบหนีไปได้
นายดลเดช พัฒนรัฐ นายอำเภอเบตง กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาได้สั่งการให้มีการสนธิกำลังกับตำรวจตระเวนชายแดน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เข้าปราบปรามผู้บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเบตงอย่างเด็ดขาด เนื่องจากพื้นที่ป่าดังกล่าวเป็นพื้นที่ต้นน้ำที่สำคัญของจังหวัดยะลาทั้งนี้การเข้าปิดล้อมเจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเนื่องจากสืบทราบว่าผู้ที่เข้าไปตัดไม้มีอาวุธครบมือและอาวุธสงครามด้วย
กระนั้นก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่าปัจจุบันมีนายทุนนอกพื้นที่ว่าจ้างชาวบ้านในพื้นที่ ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง เขตรอยต่อระหว่าง ต.แม่หวาด อ.ธารโต เข้าไปตัดไม้แผ้วถางป่าเป็นบริเวณกว้างบางจุดมีการปักเสาแบ่งเขตแดนแสดงความเป็นเจ้าของเพื่อเตรียมปลูกยางพารา ทำให้พื้นที่ป่าถูกทำลายในภาพรวมกว่า 1,000 ไร่
นายอำเภอเบตงกล่าวอีกว่า หลังจากเข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวแล้วทางฝ่ายปกครองจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอไปยังจังหวัดยะลา เพื่อพิจารณาเร่งทำการฟื้นฟูพื้นที่ป่าดังกล่าวให้เร็วที่สุดเพราะหากปล่อยไว้ต่อไปพื้นที่ป่าจะถูกแผ้วถางมากกว่าเดิม
