กาฬสินธุ์-ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กำชับตำรวจ ป่าไม้ และฝ่ายปกครองบูรณาการร่วมมือกำจัดขบวนการลอบตัดไม้พยุงตามใบสั่งนายทุน เผยผืนป่าสงวน,อุทยานฯ, และป่าชุมชน11 แห่ง ถูกแก๊งค์มอดไม้บุกรุก ทำลายหนัก
วันนี้ (30เม.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังพบว่า มีการบุกรุกทำลายป่าในพื้นที่จ.กาฬสินธุ์ หลายแห่ง โดยเน้นให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ร่วมบูรณาการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน
นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สถานการณ์ของป่าไม้ในจังหวัดยังมีปัญหาราษฎรบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและอุทยานแห่งชาติ จังหวัดกาฬสินธุ์ จึงวางมาตรการป้องกันปราบปรามและติดตามผู้กระทำผิดอย่างต่อเนื่อง โดยมีพื้นที่เป้าหมายเฝ้าระวัง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติภูพาน, อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก, ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงระแนง, ป่าดงหมู, ป่าดงห้วยฝา, ป่าดงนามน, ป่าดงด่านแย้, ป่าแก้งกะอาม, ป่าภูพาน และป่าดงมูล
ทั้งนี้หน่วยป้องกันและปรามปรามต้องดำเนินการทันทีและต่อเนื่อง หากพบกลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้ให้รายงานทันที และหากเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องดำเนินการเด็ดขาด หากเป็นนักการเมืองท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่ต้องเกรงกลัวอิทธิพล
ด้านนายสราวุฒิ บุญเกื้อ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูพาน กล่าวว่า ขณะนี้การลักลอบตัดไม้พยุง ตามใบสั่งนายทุนกำลังเป็นปัญหามากเพราะประเทศลาวไม่ให้นำเข้าไม้ซุง นายทุนจึงเปลี่ยนมาจ้างชาวบ้านลักลอบตัดไม้พยุงในเขตป่าสงวนแห่งชาติและอุทยานแห่งชาติเพิ่มขึ้น โดยในเขตอุทยานแห่งชาติภูพานช่วงเดือนตุลาคม 2553 - มีนาคม 2554 สามารถจับได้ 17 คดี ผู้ต้องหา 14 คน ไม้พยุง 46 ท่อน142 แผ่น พร้อมของกลางทั้งรถยนต์ เลื่อยโซ่ รถชักลาก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมีสถิติเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว
วันนี้ (30เม.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังพบว่า มีการบุกรุกทำลายป่าในพื้นที่จ.กาฬสินธุ์ หลายแห่ง โดยเน้นให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ร่วมบูรณาการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน
นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สถานการณ์ของป่าไม้ในจังหวัดยังมีปัญหาราษฎรบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและอุทยานแห่งชาติ จังหวัดกาฬสินธุ์ จึงวางมาตรการป้องกันปราบปรามและติดตามผู้กระทำผิดอย่างต่อเนื่อง โดยมีพื้นที่เป้าหมายเฝ้าระวัง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติภูพาน, อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก, ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงระแนง, ป่าดงหมู, ป่าดงห้วยฝา, ป่าดงนามน, ป่าดงด่านแย้, ป่าแก้งกะอาม, ป่าภูพาน และป่าดงมูล
ทั้งนี้หน่วยป้องกันและปรามปรามต้องดำเนินการทันทีและต่อเนื่อง หากพบกลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้ให้รายงานทันที และหากเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องดำเนินการเด็ดขาด หากเป็นนักการเมืองท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่ต้องเกรงกลัวอิทธิพล
ด้านนายสราวุฒิ บุญเกื้อ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูพาน กล่าวว่า ขณะนี้การลักลอบตัดไม้พยุง ตามใบสั่งนายทุนกำลังเป็นปัญหามากเพราะประเทศลาวไม่ให้นำเข้าไม้ซุง นายทุนจึงเปลี่ยนมาจ้างชาวบ้านลักลอบตัดไม้พยุงในเขตป่าสงวนแห่งชาติและอุทยานแห่งชาติเพิ่มขึ้น โดยในเขตอุทยานแห่งชาติภูพานช่วงเดือนตุลาคม 2553 - มีนาคม 2554 สามารถจับได้ 17 คดี ผู้ต้องหา 14 คน ไม้พยุง 46 ท่อน142 แผ่น พร้อมของกลางทั้งรถยนต์ เลื่อยโซ่ รถชักลาก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมีสถิติเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว