เพชรบุรี - ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ไอเดียพุ่ง หวังเปลี่ยนวิถีคนปีนตาลเมืองเพชรบุรี แต่กลับพบว่าไม่เวิร์ก หลังนำอุปกรณ์ปีนเขาเข้ามาใช้ ชาวบ้านต่างส่วยหัว พร้อมบอกว่า “ขอไปปีนตาลโดยใช้พะองเหมือนเดิมดีกว่า”
หลังจากที่แรงงานจังหวัดเพชรบุรี ได้มีการจัดโครงการฝึกอาชีพการขึ้นตาลอย่างปลอดภัยให้กับชาวบ้าน เพื่อนำไปปรับใช้ในการปีนต้นตาลอย่างถูกต้องและปลอดภัยเมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยในวันนี้ (3 ส.ค.) ได้มีการให้ผู้เข้าอบรมได้มีการปฏิบัติจริงในสวนตาลบ้านถ้ำรงค์ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี โดยมี นายถนอม ภู่เงิน และ นายอำนาจ ภู่เงิน เป็นวิทยากรในการฝึกสอนด้วยการใช้อุปกรณ์เสริมที่ทางจังหวัดนำมามอบให้กับผู้เข้าอบรม เพื่อนำไปใช้ในการประกอบอาชีพการปีนต้นตาลที่ประกอบด้วย เชือก เข็มขัด และอุปกรณ์ในการล็อกเชือก โดยอุปกรณ์ทั้งหมดเหมาะสำหรับในการใช้สำหรับนักผจญภัยไต่เขา
ทั้งนี้ จากการทดลองในการใช้สำหรับปีนขึ้นต้นตาล พบว่า อุปกรณ์ดังกล่าวไม่เวิร์กและไม่เหมาะสมกับการนำมาใช้สำหรับปีนต้นตาล ซึ่งเหมาะสำหรับในการใช้ปีนป่ายเขามากกว่า เนื่องจากเชือกมีความแข็ง ตัวล็อกไม่สามารถล็อกได้แน่นหนา อีกทั้งเสียเวลาในการปีนขึ้นต้นตาล หากเปรียบเทียบกับการปีนขึ้นพะอง เหมือนเช่นเดิมที่เคยใช้มาตั้งแต่บรรพบุรุษ นอกจากนี้ ไม่เหมาะสมกับผู้สูงวัย หรือผู้สูงอายุ เนื่องจากต้องใช้กำลังแขนในการห้อยโหนและเหนี่ยวร่างกายของตัวเองเพื่อไม่ให้หลุดลงมาอีกด้วย
ด้าน นายถนอม ภู่เงิน วิทยากรและเจ้าของสวนตาล บอกว่า ความคิดของ นายชาย พานิชพรพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ที่มีแนวคิดนำอุปกรณ์เสริมดังกล่าวมาให้กับผู้ประกอบอาชีพทำตาลได้ใช้ เพื่อความปลอดภัยนั้นเป็นแนวคิดที่ดี แต่ควรนำมาปรับปรุงและแก้ไขให้เข้ากับการปีนต้นตาล
นายอำนาจ ภู่เงิน วิทยากรบอกว่า อุปกรณ์หากนำมาใช้ปีนต้นตาลทำให้ช้า และไม่เหมาะกับการปีนต้นตาล ทำให้ยุ่งยาก แต่ก็จะพยายามทดลองใช้อุปกรณ์เสริมดังกล่าวดูก่อน หากใช้แล้วคล่องตัว ก็จะนำไปสอนต่อให้กับเยาวชนที่สนใจ แต่หากเปรียบเทียบกับการใช้มือใช้เท้าในการปีนพะองจะคล่องตัว และรวดเร็วกว่ามาก แต่หากนำไปใช้กับต้นตาลที่ไม่มีพะองก็อาจจะทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น
ด้าน นายรื่น กลิ่นจันทร์ อายุ 79 ปี ที่มีอาชีพปีนต้นตาลมาตั้งแต่อายุ 15 ปี บอกว่า ปีนตาลมาตั้งแต่วัยรุ่น จนถึงขณะนี้อายุเกือบ 80 ปีแล้ว และทุกวันนี้ก็ยังปีนอยู่ บอกว่า จากการดูอุปกรณ์และดูคนที่เขาทดลองใช้อุปกรณ์ที่ทางจังหวัดนำมาให้ใช้สำหรับปีนขึ้นต้นตาลนั้น คิดว่า จะไม่นำอุปกรณ์มาใช้แน่นอน เพราะเห็นว่าการปีนไม้พะองแบบเดิมที่สืบสานมาตั้งแต่รุ่นปู่ ยา ตายาย เป็นการดำเนินชีวิตที่ดีและปลอดภัยที่สุดแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาจนถึงบัดนี้ยังไม่เคยตกต้นตาลจากการปีนขึ้นด้วยไม้พะองเลยซักครั้งเดียว
