ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้เฒ่าอดีตนายทหารนอกราชการ นาวิกโยธิน ปะทะคารมลูกชายเจ้าของบ่อ เกือบถึงขึ้นชกต่อย กรณีประท้วงปิดถนนหลังชาวบ้านประสบปัญหาฝุ่นละออง จนล้มป่วยโรคภูมิแพ้ ศึกเริ่มเดือน ลูกชายเจ้าของบ่อ ไม่เลิกราขับรถประกบปาดหน้าจอด หวังทำร้าย ถมน้ำลาย ขู่หมายเอาชีวิต โชคดีพลเมืองดีช่วยไว้ทัน
วันนี้ (31 ก.ค.) นางสำเนียง กีระสี อายุ 46 ปี พร้อมด้วย เรือเอก บุญเสริม กีระสี อายุ 65 ปี บิดา นายทหารนอกราชการ สังกัด หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ต.พรชัย กิ่งสวัสดิ์ พนักงานสอบสวน สภ.พลูตาหลวง ว่า ขณะขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไปรับลูกชาย ที่บริเวณหน้าปากซอยเขาหมอน ม.2 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้ถูก นายสามิตร พึ่งเมือง อายุ 32 ปี ขับรถยนต์เก๋ง ฮอนด้า รุ่นซีวิค 3 ประตู สีเหลือง ทะเบียน กต 6695 ระยอง ปาดหน้าให้จอดก่อนจะลงจากรถพยายามจะเข้ามาทำร้ายร่างกาย แต่ได้มีประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ช่วยเหลือไว้
เรือเอก บุญเสริม กีระสี นายทหารนอกราชการ เล่าว่า เหตุที่ถูกปองร้ายสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 ก.ค.54 ได้ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 8 ออกมารวมตัวปิดถนนบริเวณหน้าวัดทุ่งโปรง ไม่ให้รถสิบล้อบรรทุกดินของบ่อ นางสุพิน เสาะการ และ นายสำนวน พึ่งเมือง วิ่งผ่าน พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง และถนนเป็นหลุมบ่อ ที่เกิดจากการวิ่งของรถสิบล้อบรรทุกดิน
ซึ่งการออกมาปิดถนนครั้งนั้น ทำให้ นายสามิตร บุตรชาย นายสำนวน เจ้าของบ่อดิน ไม่พอใจ ขับรถเก๋งพุ่งชนถังขยะที่วางกั้นปิดถนน และได้เกิดมีปากเสียงกับตนอย่างรุนแรง ทำให้ นายสามิตร เกิดการอาฆาตแค้น จึงได้ขับรถติดตามก่อนจะสบโอกาสพยายามเข้ามาทำร้าย แต่ได้มีพลเมืองดีเข้ามาห้ามปรามไว้ได้ทัน โดย นายสามิตร ได้ด่าด้วยคำหยาบคาย ดูถูก ก่อนจะถมน้ำลาย และบอกว่าระวังจะไม่แก่ตาย ก่อนจะขับรถออกไป
ทางด้าน พ.ต.ต.พรชัย กิ่งสวัสดิ์ พนักงานสอบสวน กล่าวว่า ในเบื้องต้น ทางด้านเจ้าทุกข์เกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิต จึงได้ให้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมเรียกคู่กรณีมาสอบปากคำ เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายยุติ เพราะเกรงอาจเป็นศึกนองเลือด ส่วนทางด้านบ่อรุกรังที่กำลังเป็นกรณีข้อพิพาทนั้น ต้องรอให้เป็นกระบวนการตามขั้นตอนของกฎหมายว่าจะสั่งปิดหรือเปิดทำการอย่างไรต่อไป