xs
xsm
sm
md
lg

“ชวน” ชี้การเมืองตกต่ำมุ่งปองร้าย-พังป้าย-ขับไล่ ชี้ต้องรักษากติกา-จะปรองดองต้องไม่ละเมิดกม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “ชวน” มาเชียงใหม่เปิดนิทรรศการผลงานวาดเส้น ยันไม่ห่วงผลโพลล์ชี้ ปชป.ยังตามหลังเพื่อไทย เชื่อคนอีกมากยังไม่ได้ตัดสินใจ ระบุจะปรองดอง-นิรโทษกรรมต้องดูว่าทำเพื่ออะไร ถ้าทำแล้วละเมิดกฎหมายก็คงไม่ใช่ ชี้พัฒนาการการเมืองไทยตกต่ำเพราะเริ่มหันมามุ่งปองร้ายกันมากขึ้น ย้ำต้องรักษากติกา นักการเมืองต้องหาเสียงได้ทุกที่ ไม่ใช่ว่าไม่เป็นพวกเดียวกันแล้วไม่เอา พร้อมระบุทั้งตนทั้ง “มาร์ค” ไม่เห็นด้วยเรื่องย้าย ผกก.แม่ริมหากมีเหตุแค่ไม่ระวังเสื้อแดงโห่มาร์ค

วันนี้ (14 มิ.ย.54) นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในระหว่างการเปิดงานนิทรรศการศิลปะวาดเส้น “บันทึกไว้ด้วยลายเส้น ชวน หลีกภัย” ณ หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ว่า การหาเสียงของตนนั้นยังคงออกช่วยหาเสียงให้กับพรรคตามพื้นที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากประชาชนด้วยดี

ส่วนกรณีที่ผลโพลล์จากสำนักต่างๆ ระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนเสียงตามหลังพรรคเพื่อไทยนั้น นายชวนกล่าวว่า ผลโพลล์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด เท่าที่ดูก็ยังมีคนอีกเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ได้ตัดสินใจหรือแสดงตัวว่าจะสนับสนุนพรรคการเมืองใด

เมื่อถามถึงแนวทางการปรองดองและการนิรโทษกรรมที่หลายพรรคอ้างเป็นนโยบายในการเลือกตั้งครั้งนี้ นายชวนกล่าวว่า คงจะต้องดูว่าการปรองดองหรือการนิรโทษกรรมนั้นทำเพื่ออะไร หากเป็นการปรองดองหรือนิรโทษกรรมเพื่อให้คนที่ทำผิดพ้นจากความผิดก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ตนเห็นด้วยกับแนวทางการปรองดอง

แต่การปรองดองสำหรับตนแล้วก็คือ การที่ทุกฝ่ายยอมรับและปล่อยให้กลไกการบริหารบ้านเมืองยังทำงานได้โดยไม่ถูกคัดค้านหรือคุกคาม หากยังมีคนที่ไม่ยอมรับกฎกติกา ไม่ยอมรับกฎหมายคงไม่ถือเป็นการปรองดอง ทุกอย่างต้องใช้มาตรฐานเดียวกันเพื่อความเสมอภาค ใครทำถูกทำผิดอย่างไรก็ว่ากันไปตามกฎหมาย หรือถ้าเห็นว่ากฎหมายมีข้อบกพร่องก็ต้องแก้ไขปรับปรุง

นายชวนยังได้กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันว่า คิดว่าพัฒนาการทางการเมืองของไทยนั้นตกต่ำลง เนื่องจากทีผ่านมาทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งก็มีการแข่งขันกันระหว่างผู้สมัครอย่างรุนแรงเสมอ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่เคยมีความพยายามที่จะทำร้านหรือคุกคามกัน แต่ในระยะหลังกลับปรากฏว่าการเมืองเริ่มมีความยายามที่จะทำร้าย ทำลายหรือคุกคามกันมากขึ้น ซึ่งอาจจะนับตั้งแต่เมื่อครั้งที่ตนและพรรคประชาธิปัตย์ถูกคุกคามและทำลายเวทีปราศรัยที่หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรมแห่งนี้ในปี 2548 นับตั้งแต่นั้นกลายเป็นว่าหากใครไม่ชอบอีกฝ่ายหนึ่งก็จะต่อต้านอย่างรุนแรง

ทั้งนี้ แนวทางการเมืองที่มั่นคงนั้น ทุกฝ่ายควรจะตั้งตนอยู่ในกติกา รักใครอยากเลือกใครก็เลือกไป ไม่ใช่มากลั่นแกล้งทำร้ายกัน การกระทำอย่างการทำลายป้ายหาเสียงหรือการปาสิ่งของใส่ผู้สมัครก็ไม่ควรจะมี ตนทราบว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครสมาชิกระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย จะเดินทางไปหาเสียงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็มีความเป็นห่วงและได้ฝากบอกกับกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ว่าต้องให้การต้อนรับ นางสาวยิ่งลักษณ์ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ว่า ใครไม่ใช่พวกเราก็ไม่ต้อนรับแต่อย่างใดทุกพรรคการเมืองควรจะมีสิทธิในการออกไปหาเสียงในทุกพื้นที่ ตนไม่อยากได้ยินว่าเมื่อ นางสาวยิ่งลักษณ์ลงไปหาเสียงแล้วมีการต่อต้านกันเกิดขึ้น

ส่วนกรณีที่จังหวัดเชียงใหม่มีการย้าย ผกก.สภ.แม่ริมออกจากพื้นที่ เนื่องจากถูกผู้บังคับบัญชาคาดโทษว่ามีความบกพร่องในการให้การอารักขานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เมื่อครั้งเดินทางมาปราศรัยที่ อ.แม่ริม นายชวนกล่าวว่าหากการโยกย้ายดังกล่าวเป็นเพราะตำรวจไม่ระวังคนเสื้อแดงเท่านั้น ตนก็ไม่เห็นด้วยและคิดว่านายกรัฐมนตรีเองก็คงไม่เห็นด้วยเช่นกัน แต่เรื่องนี้ตนไม่ทราบรายละเอียดที่แท้จริง คิดว่าผู้บังคับบัญชาคงมีเหตุผลในการตัดสินใจดังกล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น