ศูนย์ข่าวศรีราชา - “เศรษฐินีตราด” เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หวั่นไม่ได้รับความปลอดภัยหลังเจรจาแบ่งทรัพย์สินกว่า 1,500 ล้านบาท กับคนในครอบครัวไม่สำเร็จ ระบุ คดีถูกปองร้าย 4 เดือนไม่คืบ
นางสาวจุฑารัตน์ เรืองรัตนตรัย ซึ่งเป็น 1 ในหุ้นส่วนธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและค้าวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ของจังหวัดตราด ในนามบริษัท ตั้งง่วนเซ้งตราด จำกัด และบริษัท ตราดสรรพสินค้า จำกัด และยังเป็น 1 ในเจ้าของที่ดินกว่า 80 แปลงในจังหวัดตราด เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในช่วงบ่ายของวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา ตนได้เข้าพบ พ.ต.ท.เสรี สมไพบูลย์ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรจังหวัดตราด เพื่อแจ้งความเป็นหลักฐาน ว่า ขณะนี้ตนหวั่นวิตกว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิตประจำวันหลังเกิดความขัดแย้งภายในญาติพี่น้อง เกี่ยวกับการแบ่งทรัพย์สมบัติของตระกูล ที่ปัจจุบันมีพี่ชายคนโต (นายชูเกียรติ เรืองรัตนตรัย) เป็นผู้ดูแลธุรกิจทั้งหมด (ในฐานะหัวหน้ากงสีของตระกูล)
ซึ่งประกอบด้วย ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ธุรกิจก่อสร้างวัสดุก่อสร้าง 4 สาขาในนาม บริษัท ตราดตั้งง่วนเซ้ง จำกัด และธุรกิจค้าปลีกในนามบริษัท ตราดสรรพสินค้า จำกัด พร้อมกันนี้ ยังมีทรัพย์สินที่เป็นโฉนดที่ดินกว่า 86 แปลง เงินสดหลายร้อยล้าน ทองคำหลายสิบกิโลกรัม โดยการเจรจาดำเนินมาแล้ว 3 ครั้ง และมีเจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ยของศาลจังหวัดตราด และผู้พิพากษาของศาลจังหวัดตราด ร่วมด้วย แต่กลับไม่มีข้อยุติใดๆ ทั้งๆ ที่พี่น้องทุกคนก็ยินดีทำตามเงื่อนไขการไกล่เกลี่ยเพื่อให้ได้ข้อยุติ
“ที่ต้องมาแจ้งความก็เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย เพราะระยะนี้สังหรณ์ใจว่า จะมีการปองร้าย เพราะเหตุการณ์ถูกวางระเบิดโดยใช้พัสดุไปรษณีย์ที่ส่งถึงนางสาวจุฑารัตน์ เรืองรัตนตรัย แต่พี่สาว (จารุณี เรืองรัตนตรัย) เป็นผู้แกะพัสดุจนทำให้เสียชีวิต แต่ถึงวันนี้ 4 เดือนแล้ว ตำรวจจังหวัดตราด ยังไม่สามารถคลี่คลายคดีได้ ซึ่งสาเหตุหลักน่าจะมาจากบรรดาทรัพย์สินของครอบครัว และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องระมัดระวังตลอดเวลา จนรู้สึกเครียด ซึ่งการออกมาเปิดเผยเรื่องราวกับสื่อมวลชนก็เพื่อให้สังคมได้รับรู้ และกระตุ้นให้ตำรวจได้เร่งรัดสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว”
นางสาวจุฑารัตน์ ยังกล่าวอีกว่า ตราบใดที่ทรัพย์สินและธุรกิจของตระกูลยังไม่ได้แบ่งสันปันส่วนไปยังพี่น้อง 5-6 คน ก็ยังคงไม่มีความปลอดภัย จึงอยากจะขอร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลคดีและสรุปสำนวนหาผู้กระทำผิดในเรื่องนี้โดยเร็ว
ด้าน พล.ต.ต.กำพล ทับทิมไทย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด กล่าวว่า ตำรวจตราดยังดำเนินการสืบสวนสอบสวน และหาหลักฐานทั้งพยานบุคคล และประเด็นการสังหารที่มีหลายประเด็น รวมทั้งความขัดแย้งในครอบครัว ซึ่งตนได้มอบให้ พ.ต.อ.สุจินต์ มีกะจิตต์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด เป็นผู้รับผิดชอบคดีทั้งหมด และที่ผ่านมาก็ได้มีการสอบพยานหลายคน และคดีก็ดำเนินการต่อไป และมีความคืบหน้าพอสมควรแล้ว
สำหรับเหตุการณ์วางระเบิดดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2553 ที่ หจก.ตึกน้ำเงิน ซึ่งเมื่อ นางสาวจารุณี เรืองรัตนตรัย เปิดกล่องพัสดุที่ได้รับก็เกิดระเบิดขึ้น ทำให้นางสาวจารุณี เรืองรัตนตรัย เสียชีวิตทันที และมีพนักงานอีก 3 คน ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตำรวจ ตั้งประเด็นสังหารไว้ 3 ประเด็น คือ ความขัดแย้งในเรื่องธุรกิจรับเหมา ความขัดแย้งส่วนตัวและความขัดแย้งเรื่องมรดกในครอบครัว ขณะที่ในช่วง 4 เดือนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดตราด ยังไม่สามารถคลี่คลายคดีได้ ทำให้นางสาวจุฑารัตน์ เรืองรัตนตรัย ต้องร้องให้เปลี่ยนพนักงานสอบสวนมาแล้ว 1 ชุด แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า