ASTVผู้จัดการรายวัน- "ประพันธ์" แฉ พท.รุกหนัก เริ่มปล่อยกระสุนแล้วบางพื้นที่ เชื่อกระแส ตจว.ตรงกับโพล ส่งปชป.พ่ายยับ วอนเคารพสิทธิเสรีภาพ เลิกส่งคนมาขวางการรณรงค์โหวตโน เซ็งไม่มีพรรคใดเสนอนโยบายเพื่อชาติ มีแต่แข่งกันแจกประชานิยม ยันพันธมิตรฯ ไม่นิยมความรุนแรง ไม่ร่วมวงตามป่วนนายกฯแน่ เผย 25 พ.ค.จัดงานรำลึก 3 ปีชุมนุม 193 วัน
นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย กล่าวในการแถลงข่าวประจำวันกับสื่อมวลชน ว่า ต้องถือว่าการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของทางพรรคเพื่อไทย มีการระดมสรรพกำลัง และปัจจัยอย่างเต็มที่ เพื่อหวังได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยจากข้อมูลที่เครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พื้นที่ต่างๆได้ให้ข้อมูลตรงกันหมดว่า หัวคะแนนของพรรคเพื่อไทย มีการทำงานที่เข้มแข็งมาก โดยได้เริ่มมีการหว่านเงิน หรือเสนอผลประยชน์บางอย่างให้กับประชาชนแล้ว ทำให้กระแสในต่างจังหวัดของพรรคเพื่อไทย สอดคล้องกับผลการสำรวจของโพลล์ ต่างๆ ที่ระบุว่า พรรคเพื่อไทย มีคะแนนนิยมนำ โดยที่พรรคประชาธิปัตย์ สู้ไม่ได้ มีเฉพาะกระแสในเขตเมืองเท่านั้น
นายประพันธ์ ยังได้กล่าวเรียกร้องว่า อยากให้ทุกคนเคารพในการรณรงค์โหวตโน ของภาคประชาชน เพราะเป็นไปตามสิทธิ ในระบอบประชาธิปไตย และบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ขัดต่อกฎหมายเลือกตั้ง โดยที่ผ่านมายังมีผู้สนับสนุนของพรรคประชาธิปัตย์ บางกลุ่มที่ไม่เข้าใจในสิทธิ เสรีภาพการแสดงออกของผู้รณรงค์โหวตโน จึงเกิดการเข้าขัดขวาง แม้ยังไม่มีเหตุปะทะที่รุนแรง แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่มีการทำความเข้าใจ และให้ผู้สนับสนุนของตัวเองเคารพในสิทธิของผู้อื่น
"หลายครั้งที่อาสาสมัครที่ไปรณรงค์โหวตโน มักถูกกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต่อต้านขัดขวาง ส่วนผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ก็มีบ้าง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เขตหลักสี่ และดอนเมือง" นายประพันธ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม กระแสโหวตโนในตอนนี้ มีสูงขึ้นตามลำดับ ประกอบกับกระแสที่พรรคประชาธิปัตย์ มีโอกาสน้อยที่จะชนะการเลือกตั้ง เพราะเป็นการเลือกตั้งที่ยังอยู่ในระบบอุปถัมภ์ ใช้อิทธิพลข่มขู่ หรือทุจริตการเลือกตั้ง ซึ่งพรรคเพื่อไทย มีความเชี่ยวชาญมากกว่า พรรคประชาธิปัตย์จึงพยายามขัดขวางการรณรงค์ของเรา และ ขอร้องให้ประชาชนไม่ลงคะแนนโหวตโน แล้วมาลงคะแนนให้พรรคประชาธิปัตย์แทน
อย่างไรก็ตาม ผลแพ้ชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่สามารถชี้อนาคตของประเทศได้ ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล ภาคประชาชนก็ต้องออกมาต่อสู้อยู่ดี แต่หาประชาชนร่วมลงคะแนนโหวตโนมากๆ ก็จะทำให้ประชาชนมีอำนาจในการต่อรองกับฝ่ายการเมืองมากขึ้น มากกว่าการที่ไปสนับสนุนพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ดังนั้น จึงไม่ต้องกังวลว่า โหวตโนไปแล้วจะสูญเปล่า
นายประพันธ์ กล่าวว่า หากพรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะ จะยิ่งทำให้ภาคประชาชน มีความเข้มแข็งในการร่วมกันตรวจสอบการทำงานมากกว่าด้วยซ้ำไป ทำให้พรรคเพื่อไทย ไม่สามารถทำสิ่งใดที่นอกลู่นอกทางได้ เพราะถูกจับตามองตรวจสอบอย่างหนัก แต่หากพรรคประชาธิปัตย์ ชนะในการเลือกตั้ง เราก็จะมีรัฐบาลที่ไม่สนใจเสียงของประชาชน เพราะสามารถอ้างได้ว่า สิ่งเลวร้ายที่ทำมาตลอด 2 ปีกว่า ที่เป็นรัฐบาลนั้น ประชาชนไม่ถือสา และไม่มีการลงโทษ จึงมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นอีก
นายประพันธ์ ยังได้แสดงความเห็นต่อการนำเสนอนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ ด้วยว่า ขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่สนใจในนโยบายของพรรคการเมือง แต่มองประโยชน์ที่ตนเองจะได้รับมากกว่า ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลมาก เพราะไม่มีพรรคการเมืองใด ที่นำเสนอการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ปัญหาดินแดนอธิปไตย รวมไปถึงความไม่สงบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่รุนแรงขึ้นอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน ที่สำคัญยังไม่มีแนวทางการแก้ปัญหาและพัฒนาเศรษฐกิจของชาติอย่างยั่งยืน มีเพียงนโยบายประชานิยมซึ่งทำให้ประเทศเสียหาย
" หากประชาชนศึกษานโยบายของแต่ละพรรคแล้ว เห็นว่าไม่มีประโยชน์ต่อประเทศชาติ ก็ควรที่จะตัดสินใจร่วมในการโหวตโน กับภาคประชาชน" นายประพันธ์ กล่าว
ในส่วนเหตุการณ์ที่มีขบวนการไปก่อกวนการหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ นั้น โฆษกคณะกรรมการฯ กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ จะมีความรุนแรง โดยเฉพาะการใช้อิทธิพล ทั้งข้าราชการ และนอกราชการ มีการมุ่งปองร้าย ทั้งหัวคะแนน และตัวผู้สมัคร โดยระยะใกล้ๆ เลือกตั้งจะมีความรุนแรงมากขึ้น จึงยังมองไม่เห็นว่าการเลือกตั้งจะมีความเรียบร้อยได้อย่างไร
ส่วนกรณีมวลชน ที่เข้าขัดขวางการหาเสียง ก็เพราะผลงานที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนไม่พอใจ และไม่ต้องการให้กลับมาเป็นรัฐบาลอีก ซึ่งเป็นปัญหาของ 2 ขั้วการเมืองใหญ่ ที่ช่วงชิงการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล อย่างไรก็ตามสำหรับพันธมิตรฯไม่มีแนวทางดังกล่าว และไม่นิยมการใช้ความรุนแรง มีเพียงการรณรงค์ตามกรอบของกฎหมายเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงาน ในวันที่ 25 พ.ค.นี้ บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ จะมีการจัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสครบรอบ 3 ปี การชุมนุม 193 วัน โดยจะมีกิจกรรมทางวิชาการ และการแสดงต่างๆตลอดทั้งวัน
นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย กล่าวในการแถลงข่าวประจำวันกับสื่อมวลชน ว่า ต้องถือว่าการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของทางพรรคเพื่อไทย มีการระดมสรรพกำลัง และปัจจัยอย่างเต็มที่ เพื่อหวังได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยจากข้อมูลที่เครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พื้นที่ต่างๆได้ให้ข้อมูลตรงกันหมดว่า หัวคะแนนของพรรคเพื่อไทย มีการทำงานที่เข้มแข็งมาก โดยได้เริ่มมีการหว่านเงิน หรือเสนอผลประยชน์บางอย่างให้กับประชาชนแล้ว ทำให้กระแสในต่างจังหวัดของพรรคเพื่อไทย สอดคล้องกับผลการสำรวจของโพลล์ ต่างๆ ที่ระบุว่า พรรคเพื่อไทย มีคะแนนนิยมนำ โดยที่พรรคประชาธิปัตย์ สู้ไม่ได้ มีเฉพาะกระแสในเขตเมืองเท่านั้น
นายประพันธ์ ยังได้กล่าวเรียกร้องว่า อยากให้ทุกคนเคารพในการรณรงค์โหวตโน ของภาคประชาชน เพราะเป็นไปตามสิทธิ ในระบอบประชาธิปไตย และบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ขัดต่อกฎหมายเลือกตั้ง โดยที่ผ่านมายังมีผู้สนับสนุนของพรรคประชาธิปัตย์ บางกลุ่มที่ไม่เข้าใจในสิทธิ เสรีภาพการแสดงออกของผู้รณรงค์โหวตโน จึงเกิดการเข้าขัดขวาง แม้ยังไม่มีเหตุปะทะที่รุนแรง แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่มีการทำความเข้าใจ และให้ผู้สนับสนุนของตัวเองเคารพในสิทธิของผู้อื่น
"หลายครั้งที่อาสาสมัครที่ไปรณรงค์โหวตโน มักถูกกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต่อต้านขัดขวาง ส่วนผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ก็มีบ้าง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เขตหลักสี่ และดอนเมือง" นายประพันธ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม กระแสโหวตโนในตอนนี้ มีสูงขึ้นตามลำดับ ประกอบกับกระแสที่พรรคประชาธิปัตย์ มีโอกาสน้อยที่จะชนะการเลือกตั้ง เพราะเป็นการเลือกตั้งที่ยังอยู่ในระบบอุปถัมภ์ ใช้อิทธิพลข่มขู่ หรือทุจริตการเลือกตั้ง ซึ่งพรรคเพื่อไทย มีความเชี่ยวชาญมากกว่า พรรคประชาธิปัตย์จึงพยายามขัดขวางการรณรงค์ของเรา และ ขอร้องให้ประชาชนไม่ลงคะแนนโหวตโน แล้วมาลงคะแนนให้พรรคประชาธิปัตย์แทน
อย่างไรก็ตาม ผลแพ้ชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่สามารถชี้อนาคตของประเทศได้ ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล ภาคประชาชนก็ต้องออกมาต่อสู้อยู่ดี แต่หาประชาชนร่วมลงคะแนนโหวตโนมากๆ ก็จะทำให้ประชาชนมีอำนาจในการต่อรองกับฝ่ายการเมืองมากขึ้น มากกว่าการที่ไปสนับสนุนพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ดังนั้น จึงไม่ต้องกังวลว่า โหวตโนไปแล้วจะสูญเปล่า
นายประพันธ์ กล่าวว่า หากพรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะ จะยิ่งทำให้ภาคประชาชน มีความเข้มแข็งในการร่วมกันตรวจสอบการทำงานมากกว่าด้วยซ้ำไป ทำให้พรรคเพื่อไทย ไม่สามารถทำสิ่งใดที่นอกลู่นอกทางได้ เพราะถูกจับตามองตรวจสอบอย่างหนัก แต่หากพรรคประชาธิปัตย์ ชนะในการเลือกตั้ง เราก็จะมีรัฐบาลที่ไม่สนใจเสียงของประชาชน เพราะสามารถอ้างได้ว่า สิ่งเลวร้ายที่ทำมาตลอด 2 ปีกว่า ที่เป็นรัฐบาลนั้น ประชาชนไม่ถือสา และไม่มีการลงโทษ จึงมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นอีก
นายประพันธ์ ยังได้แสดงความเห็นต่อการนำเสนอนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ ด้วยว่า ขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่สนใจในนโยบายของพรรคการเมือง แต่มองประโยชน์ที่ตนเองจะได้รับมากกว่า ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลมาก เพราะไม่มีพรรคการเมืองใด ที่นำเสนอการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ปัญหาดินแดนอธิปไตย รวมไปถึงความไม่สงบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่รุนแรงขึ้นอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน ที่สำคัญยังไม่มีแนวทางการแก้ปัญหาและพัฒนาเศรษฐกิจของชาติอย่างยั่งยืน มีเพียงนโยบายประชานิยมซึ่งทำให้ประเทศเสียหาย
" หากประชาชนศึกษานโยบายของแต่ละพรรคแล้ว เห็นว่าไม่มีประโยชน์ต่อประเทศชาติ ก็ควรที่จะตัดสินใจร่วมในการโหวตโน กับภาคประชาชน" นายประพันธ์ กล่าว
ในส่วนเหตุการณ์ที่มีขบวนการไปก่อกวนการหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ นั้น โฆษกคณะกรรมการฯ กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ จะมีความรุนแรง โดยเฉพาะการใช้อิทธิพล ทั้งข้าราชการ และนอกราชการ มีการมุ่งปองร้าย ทั้งหัวคะแนน และตัวผู้สมัคร โดยระยะใกล้ๆ เลือกตั้งจะมีความรุนแรงมากขึ้น จึงยังมองไม่เห็นว่าการเลือกตั้งจะมีความเรียบร้อยได้อย่างไร
ส่วนกรณีมวลชน ที่เข้าขัดขวางการหาเสียง ก็เพราะผลงานที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนไม่พอใจ และไม่ต้องการให้กลับมาเป็นรัฐบาลอีก ซึ่งเป็นปัญหาของ 2 ขั้วการเมืองใหญ่ ที่ช่วงชิงการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล อย่างไรก็ตามสำหรับพันธมิตรฯไม่มีแนวทางดังกล่าว และไม่นิยมการใช้ความรุนแรง มีเพียงการรณรงค์ตามกรอบของกฎหมายเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงาน ในวันที่ 25 พ.ค.นี้ บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ จะมีการจัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสครบรอบ 3 ปี การชุมนุม 193 วัน โดยจะมีกิจกรรมทางวิชาการ และการแสดงต่างๆตลอดทั้งวัน