ฉะเชิงเทรา - คนร้ายยิงหัวคะแนน นักการเมืองแปดริ้ว เสียชีวิตกลางทุ่งนา หลังรู้ตัวมีคนตามปองร้าย จึงพกพาอาวุธปืนติดตัวตลอดเวลา
วันนี้ (19 ก.ค.) ร.ต.ต.เสถียรพงษ์ อ่อนสีทอง พนักงานสอบสวน สภ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต ที่บริเวณริมถนน สายราชสาส์น-หินดาด พื้นที่ หมู่ 14 ต.ดงน้อย อ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ก่อนเดินทางไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและหน่วยกู้ภัยพนมสารคาม โดยมี พ.ต.อ.ดุษฎี กุญชร ณ.อยุธยา ผกก.สภ.ราชสาส์น, พ.ต.ท.พิศาล ลิ้มมณี รองผกก. สส. พ.ต.ท.สมชาย ผ่องใส รองผกก.ป.และ พ.ต.ท.สุรชัย วัชรพาณิชย์ สว. สส.นำกำลังเดินทางมาสมทบในภายหลัง
ที่เกิดเหตุเป็นถนนภายในหมู่บ้าน ตัดผ่ากลางท้องนา พบศพ นายสมบุญ ดวงอาทิตย์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 16 (หมู่บ้านหนองโบสถ์) ต.ดงน้อย อ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา มีอาชีพเป็นนักการภารโรงประจำโรงเรียนในหมู่บ้าน ที่โรงเรียนวัดหินดาด (กระแสบุญชูอุทิศ) ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุไป ประมาณ 1 กม.นอนอยู่ในท้องนาข้างทางสภาพนอนหงายไม่สวมเสื้อ แต่มีเสื้อยืดแขนสั้นลายทางสีดำสลับขาวเปื้อนเลือดจนเห็นเป็นสีแดงติดอยู่ที่โคนแขนด้านซ้าย
สวมกางเกงขาสั้นสีเทา ที่เอวด้านหน้าท้องทางขวาพบซองปืนเหน็บติดอยู่ 1 อัน แต่ไม่พบอาวุธปืนตกอยู่ในที่เกิดเหตุ
ห่างจากร่างของผู้เสียชีวิตขึ้นมาบนถนน ประมาณ 8 ม.พบปลอกกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 สีแดงตกอยู่ 1 ปลอก ถัดไปอีก 50 ม.พบตกอยู่ที่ขอบถนนอีก 1 ปลอก ใกล้ตัวผู้เสียชีวิตประมาณ 4.5 ม.พบรถจักยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ 110 สีดำคาดขาว ทะเบียน ขขย 234 จ.ฉะเชิงเทรา นอนล้มตะแคงอยู่ โดยมีร่องรอยของการครูดไถลเป็นทางยาวลงมาจากกลางถนนประมาณ 10 เมตร
จากการสอบสวน นายจักรพงษ์ ดวงอาทิตย์ อายุ 27 ปี หลานชายผู้ตาย ให้การว่า โดยปกติผู้ตายมักจะตื่นนอนแต่เช้า ประมาณ 05.00 น.เพื่อไปทำความสะอาดโรงเรียน ที่วัดหินดาษ เป็นประจำทุกวันที่เปิดการเรียนการสอน ซึ่งทำให้คนร้ายน่าจะรู้ความเคลื่อนไหวของผู้ตาย เป็นอย่างดี จึงมาดักรอโอกาสลงมือสังหารดังกล่าว
ที่ผ่านมา ช่วงระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อต้นเดือน (3 ก.ค.) ที่ผ่านมานั้น ผู้ตายเคยรับปากเป็นหัวคะแนนให้กับนักการเมืองรายหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านใหญ่ในเขตพื้นที่ อ.พนมสารคาม เพื่อเป็นฐานคะแนนเสียงในพื้นที่ เขต ต.ดงน้อย อ.ราชสาส์น แต่หลังจากการเลือกตั้งผ่านพ้นไป ผู้ที่รับปากให้การช่วยเหลือนั้น ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่า อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เป็นเป้าหมายในการถูกปองร้ายในครั้งนี้
นายจักรพงษ์ กล่าวต่อไปว่า ผู้ตายนั้นน่าจะรู้ตัวตัวมาก่อนแล้ว ว่า มีคนจะปองร้าย จึงได้นำอาวุธปืน ขนาด 11 มม.พกติดตัวไว้ตลอดเวลา แต่ไม่ทราบว่าผู้ตายไปนำอาวุธปืนมาจากไหน โดยหลังจากเกิดเหตุ อาวุธปืนกระบอกดังกล่าว ได้สูญหายไป ซึ่งเหลือแต่เพียงซองใส่ปืน เท่านั้น
ด้าน ร.ต.ต.เสถียรพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดโดยพยานซึ่งเป็นภรรยา และบุตรของผู้ตาย ยังตกอยู่ในอาการหวาดผวา และตกใจ จึงยังไม่ยินยอมให้ปากคำใดๆ ในขณะนี้ โดยต้องสอบสวนพยานที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุไปก่อน ซึ่งเชื่อว่า มีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน ขับรถที่ยังไม่ทราบชนิดตามประกบมา ก่อนใช้อาวุธปืนลูกซองยิงจากด้านหลัง จำนวน 2 นัด จนรถของผู้ตายเสียหลักล้มลง จากนั้นคนร้ายจึงได้ลงไปหยิบอาวุธปืนของผู้ตายไปด้วย
นอกจากนั้น ผู้ตายเคยมีปัญหาส่วนตัวเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ซึ่งผู้ตายเคยไปสนับสนุนผู้สมัครรายอื่น ให้ลงแข่งขันกับผู้ใหญ่คนเก่า จนทำให้ผู้ใหญ่บ้านคนเก่าสอบตกและก่อนหน้าการเลือกตั้งนั้น มีการท้าทายระหว่างผู้ใหญ่บ้านคนเก่า หากแพ้การเลือกตั้ง ให้เข้ามากราบเท้าผู้ตายด้วย ซึ่งหลังผลการเลือกตั้งออกมาฝ่ายผู้ใหญ่เก่าพ่ายแพ้จริงๆ แต่ยังไม่ได้มีการกระทำตามที่ท้าทายกันไว้