ฉะเชิงเทรา -ทัวร์สายมรณะขนคนเสี่ยงโชคบ่อนเขมร ซิ่งแข่งพ่วงเทรลเลอร์ 18 ล้อ พุ่งโหม่งสอยท้าย ส่งผลตาย 1 เจ็บอีก 33 ส่วนคู่กรณี พร้อมตีนผีวัยคะนอง เผ่นหายไร้เงาความรับผิดชอบ
วันนี้ (20 มิ.ย.) ร.ต.อ.ไพรวัลย์ รัตนปัญญา พนักงานสอบสวน สภ.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้เดินทางเข้าตรวจสอบซากรถทัวร์ปรับอากาศสองชั้น หมายเลขทะเบียน 30-1466 นนทบุรี สีฟ้าลายการ์ตูน ของบริษัท ชัยยุทธ ทัวร์ จำกัด ที่เสียหลักพุ่งตกลงไปอยู่ในคูน้ำร่องกลางถนน บนถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี บริเวณด้านหน้าปากทางเข้าวิทยาลัยเกษตรเขาหินซ้อน และโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พื้นที่ ม.2 ต.เข้าหินซ้อน
หลังจากรับแจ้งประสบอุบัติเหตุ พุ่งชนท้ายรถพ่วง 18 ล้อเทรลเลอร์แบบบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บจำนวน 33 ราย โดยรถคันดังกล่าวอยู่ในสภาพด้านหน้าพังยับเยิน มีชิ้นส่วนของตัวรถและทรัพย์สินของผู้โดยสาร ตกหล่นอยู่ตามพื้นถนน เป็นทางยาวหลายสิบเมตร ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดได้ถูกหน่วยกู้ภัยพนมสารคาม และรถกู้ชีพฉุกเฉิน จาก รพ.พนมสารคาม นำส่งไปยังห้องฉุกเฉิน รพ.
ทั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตขณะถูกนำส่ง 1 ราย คือ นางลม รำไพกุล อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126 ม.4 ต.สำโรงกลาง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 6 ราย ถูกส่งต่อมารักษาตัวยัง รพ.เมืองฉะเชิงเทรา ส่วนอีก 27 รายนั้น ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลฉีกขาด และฟกช้ำตามร่างกาย ยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.พนมสารคาม ซึ่งส่วนใหญ่นั้นเป็นชาวกรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี และฉะเชิงเทรา ซึ่งหนึ่งในผู้บาดเจ็บรายหนึ่งนามสกุลเทพหัสดิน ณ อยุธยา
จากการสอบถาม นายเทเวศน์ แสงทอง อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/11 ม.2 ต.บางเมือง อ.เมืองสมุทรปราการ ซึ่งนั่งมาในรถคันเกิดเหตุ เล่าว่า รถคันดังกล่าวนี้ได้เริ่มออกเดินทางมาจากในเขตพื้นที่นนทบุรี ตั้งแต่เมืองช่วงเช้ามืดของวันนี้ จากนั้นได้เดินสายขับรับคนมาตามรายทาง ทั้งจากในเขต กทม. สมุทรปราการ และฉะเชิงเทรา เพื่อที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวยังตลาดโรงเกลือ ที่ ต.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และข้ามฝั่งเข้าไปเสี่ยงโชคในประเทศกัมพูชา
เมื่อขับมาถึงยังบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ คนขับได้ใช้ความเร็วสูงและพยายามที่จะเร่งเครื่องยนต์แซงรถบรรทุกพ่วงเทรเลอร์ ที่ขับแข่งกันมาตลอดเส้นทาง โดยคนขับสามารถแซงรถพ่วงที่อยู่ในเลนด้านซ้ายผ่านไปได้ 2-3 คัน แต่ไม่สามารถที่จะแซงรถพ่วงคันที่ขับแข่งกันมาที่ขับอยู่ด้านหน้าได้ จึงได้พุ่งเข้าชนที่ด้านท้ายของรถคันคู่กรณี จนด้านหน้ารถพังเสียหายยับเยิน และเสียหลักตกลงไปอยู่ยังร่องกลางถนนดังกล่าว
ส่วนรถพ่วงคันที่ถูกชนนั้น ด้านท้ายเสียหายเพียงเล็กน้อย ได้เข้าจอดแอบอยู่ที่ข้างทางเพียงชั่วขณะก่อนที่จะขับเลยไป และหลังจากเกิดเหตุแล้ว ไม่มีใครพบเห็นคนขับรถทัวร์ อยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งเชื่อว่าอาจจะหลบหนีไปในช่วงขณะเกิดการชุลมุนขอความช่วยเหลือจากคนในรถ