วันนี้( 20 มิ.ย.54) เวลา 17.30 น. นางยุพิน โพนงาม อายุ 30 ปี พร้อมด้วย นายนภดล โพนงาม อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 145 ม.12 ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา พ่อแม่ของ ดญ.สาวิตรี โพนงาม หรือน้องฝ้าย อายุ 3 ขวบเศษ ที่ถูกต่อหัวเสื้อรุมต่อยตามร่างกาย ก่อนถูกส่งต่อมารักษาตัวยัง รพ.เมืองฉะเชิงเทรา แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว และเสียชีวิตลงในที่สุด
ได้เดินทางมารับศพบุตรสาวแล้ว ด้วยความโศกเศร้า
นางยุพิน ผู้เป็นมารดาเล่าว่าเหตุเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อช่วงสายวานนี้ (19 มิ.ย.54) ตนพร้อมด้วยสามี มีอาชีพรับจ้าง ได้ออกไปรับจ้างทำงานพร้อมกันทั้งสองคน โดยปล่อยให้น้องฝ้ายนั้น
อยู่บ้านแต่เพียงลำพังพร้อมกับญาติโดยขณะเกิดเหตุน้องฝ้ายได้วิ่งเล่นอยู่กับบุตรของเพื่อนบ้าน
ซึ่งเป็นญาติกันวัย 5 ขวบเศษ ที่บริเวณริมถนนหน้าบ้าน ซึ่งมีท่อระบายน้ำคอนกรีต ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 50 ซม. ฝังข้ามถนนอยู่ที่หน้าบ้าน สภาพชำรุดทรุดโทรมเนื่องจากเป็นท่อเก่าแตกชำรุดแล้ว และไม่มีผู้ใดทราบมาก่อนว่ามีต่อหัวเสือแอบมาทำรังอาศัยอยู่ด้านใน
จึงเชื่อว่าเด็กๆ อาจวิ่งเล่นซุกซน และไปรบกวนรังของต่อเข้า ฝูงต่อจึงแตกรังออกมา กรูกันเข้ามารุมไล่ต่อยเด็กๆ โดยบุตรของเพื่อนบ้านซึ่งโตกว่านั้น ได้วิ่งหนีเอาตัวรอดไปได้ทัน
ส่วนบุตรสาวของตนนั้น ยังไร้เรียงสา และไม่รู้ถึงอันตรายของฝูงต่อหัวเสือนี้ จึงถูกรุมตามต่อยไปจนทั่วร่างกาย ทั้งใบหน้า ศีรษะ แขน และขา กว่า 10 แผล จนมีบาดแผลให้เห็นเป็นรอยไหม้พุพอง
หลังถูกต่อรุมต่อยบุตรสาวของตนถึงกับช็อกหมดสติไป เพื่อนบ้านจึงได้มาแจ้งให้ตนเองทราบ ก่อนที่จะช่วยกันนำส่งมายัง รพ.พนมสารคาม และถูกส่งต่อมายัง รพ.เมืองฉะเชิงเทรา ก่อนมาเสียชีวิตลงในที่สุดวันนี้ เพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว
หลังรับศพไปแล้ว จะนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ที่วัดใกล้บ้าน(วัดหนองอีก่วน รอยต่อกับพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี) เป็นเวลา 3 วัน จากนั้นจึงจะทำการฌาปนกิจศพ ในวันพฤหัสบดีที่จะนี้ ตนเองนั้นมีบุตร 2 คน โดยคนโตเป็นบุตรชาย อายุ 10 ขวบแล้ว ส่วนน้องฝ้ายนั้นเป็นบุตรคนเล็ก ที่บ้านมีฐานะไม่ค่อยดี ต้องช่วยกันทำมาหากินกับสามี เนื่องจากปัจจุบันนี้ข้าวของแพงมาก
จึงไม่มีใครอยู่คอยดูแลเลี้ยงดูบุตรสาวคนเล็ก จนต้องมาเสียน้องฝ้ายไป เธอกล่าวในที่สุด
ได้เดินทางมารับศพบุตรสาวแล้ว ด้วยความโศกเศร้า
นางยุพิน ผู้เป็นมารดาเล่าว่าเหตุเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อช่วงสายวานนี้ (19 มิ.ย.54) ตนพร้อมด้วยสามี มีอาชีพรับจ้าง ได้ออกไปรับจ้างทำงานพร้อมกันทั้งสองคน โดยปล่อยให้น้องฝ้ายนั้น
อยู่บ้านแต่เพียงลำพังพร้อมกับญาติโดยขณะเกิดเหตุน้องฝ้ายได้วิ่งเล่นอยู่กับบุตรของเพื่อนบ้าน
ซึ่งเป็นญาติกันวัย 5 ขวบเศษ ที่บริเวณริมถนนหน้าบ้าน ซึ่งมีท่อระบายน้ำคอนกรีต ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 50 ซม. ฝังข้ามถนนอยู่ที่หน้าบ้าน สภาพชำรุดทรุดโทรมเนื่องจากเป็นท่อเก่าแตกชำรุดแล้ว และไม่มีผู้ใดทราบมาก่อนว่ามีต่อหัวเสือแอบมาทำรังอาศัยอยู่ด้านใน
จึงเชื่อว่าเด็กๆ อาจวิ่งเล่นซุกซน และไปรบกวนรังของต่อเข้า ฝูงต่อจึงแตกรังออกมา กรูกันเข้ามารุมไล่ต่อยเด็กๆ โดยบุตรของเพื่อนบ้านซึ่งโตกว่านั้น ได้วิ่งหนีเอาตัวรอดไปได้ทัน
ส่วนบุตรสาวของตนนั้น ยังไร้เรียงสา และไม่รู้ถึงอันตรายของฝูงต่อหัวเสือนี้ จึงถูกรุมตามต่อยไปจนทั่วร่างกาย ทั้งใบหน้า ศีรษะ แขน และขา กว่า 10 แผล จนมีบาดแผลให้เห็นเป็นรอยไหม้พุพอง
หลังถูกต่อรุมต่อยบุตรสาวของตนถึงกับช็อกหมดสติไป เพื่อนบ้านจึงได้มาแจ้งให้ตนเองทราบ ก่อนที่จะช่วยกันนำส่งมายัง รพ.พนมสารคาม และถูกส่งต่อมายัง รพ.เมืองฉะเชิงเทรา ก่อนมาเสียชีวิตลงในที่สุดวันนี้ เพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว
หลังรับศพไปแล้ว จะนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ที่วัดใกล้บ้าน(วัดหนองอีก่วน รอยต่อกับพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี) เป็นเวลา 3 วัน จากนั้นจึงจะทำการฌาปนกิจศพ ในวันพฤหัสบดีที่จะนี้ ตนเองนั้นมีบุตร 2 คน โดยคนโตเป็นบุตรชาย อายุ 10 ขวบแล้ว ส่วนน้องฝ้ายนั้นเป็นบุตรคนเล็ก ที่บ้านมีฐานะไม่ค่อยดี ต้องช่วยกันทำมาหากินกับสามี เนื่องจากปัจจุบันนี้ข้าวของแพงมาก
จึงไม่มีใครอยู่คอยดูแลเลี้ยงดูบุตรสาวคนเล็ก จนต้องมาเสียน้องฝ้ายไป เธอกล่าวในที่สุด