การประปาบางคล้าผวาจุดก่อสร้างสถานีสูบน้ำ หวั่นถูกชาวบ้านต่อต้าน

ฉะเชิงเทรา- การประปาบางคล้า ผวาชาวบ้านต่อต้าน สถานที่ก่อสร้างสถานีสูบน้ำ พร้อมระดมความเห็นจากผู้นำท้องถิ่น ล่าสุด ต้องย้ายสถานีสูบน้ำจากจุดเดิม เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

วันนี้ (12 ก.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานการประปาบางคล้า อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ผลิตน้ำภาครัฐรายใหญ่ ซึ่งส่งจ่ายระบบน้ำประปาเกือบทั่วทั้งจังหวัดฉะเชิงเทรา ในซีกฝั่งซ้ายของแม่น้ำบางปะกง ได้แก่ เขตพื้นที่ อ.บางคล้า อ.แปลงยาว อ.ราชสาส์น อ.บางน้ำเปรี้ยว และ อ.เมืองฉะเชิงเทรา ในเขต ต.คลองนา อ.บ้านโพธิ์ ในเขต ต.เทพราช อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี รวมถึง อ.พนัสนิคม และ อ.พานทอง ในเขตพื้นที่ให้บริการของ กปภ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ด้วย ประชุมระดมขอความคิดเห็นจากผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนทั้งถิ่น

การระดมความคิดเห็นในครั้งนี้ คือ ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ ลุ่มน้ำปากคลองท่าลาดตอนล่าง ประกอบด้วย ว่าที่ร้อยตรี สมยศ อินทร์สุวรรณ นายก อบต.ท่าทองหลาง, นายอำนาจ ประเสริฐนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลปากน้ำ อ.บางคล้า นายดำรัส พุทธรักษา นายก อบต.ดงน้อย นายสมชาย ตันมาก นายก อบต.เมืองใหม่ นายบุญทัน ทิพย์วรรณ นายกอบต.บางคา อ.ราชสาส์น เพื่อแสดงความคิดเห็นในครั้งนี้

ด้าน นายสมนึก ลิ้มทองสิทธิคุณ ผอ.การประปาส่วนภูมิภาคเขต 1 จ.ชลบุรี พร้อมด้วย นายมนตรี อุทัยศรี ผู้จัดการการประปาบางคล้า รวมถึงตัวแทนจากชลประทานจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เชิญให้ผู้บริหารและผู้นำท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องได้เขามาร่วมกันประชุมและรับฟังความคิดเห็น ต่อการขอใช้น้ำจากคลองท่าลาดของการประปาส่วนภูมิภาคบางคล้า เพราะเดิม ทาง กปภ.มีโครงการที่จะก่อตั้งสถานีสูบน้ำบริเวณริมฝั่งของแม่น้ำบางปะกงในเขตพื้นที่ ต.หัวไทร อ.บางคล้า และจะส่งน้ำไปเก็บยังอ่างเก็บน้ำของการประปาในเขตพื้นที่ ต.สระสี่เหลี่ยม อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี

แต่หลังจากมีประชาชนผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมในพื้นที่ได้ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน การระดมสูบน้ำจากแม่น้ำบางปะกงของบริษัทสูบน้ำภาคเอกชนรายใหญ่ (อีสวอเตอร์)ไปส่งขายให้แก่ภาคอุตสาหกรรม จนไม่มีน้ำไหลเข้าสู่ลำคลองสาขาที่ผ่านมานั้น

ปัญหาที่เกิดขึ้น ทางการประปาส่วนภูมิภาค หวั่นจะเกิดปัญหาเช่นกัน จึงได้เตรียมการที่จะเข้าไปขอใช้น้ำจากคลองท่าลาดด้วยการย้ายโครงการ ในการก่อตั้งสถานีสูบน้ำ ซึ่งจากจุดเดิมไปยังบริเวณจุดสูบน้ำดิบวัดกกสับใน เขตพื้นที่ ต.เมืองใหม่ อ.ราชสาส์น ในลำคลองท่าลาด ซึ่งเป็นลำคลองสายใหญ่ที่รับน้ำต้นทุนมาจากอ่างเก็บน้ำระบมซึ่งมีความจุขนาด 56 ล้าน ลบม. และอ่างสียัด ซึ่งมีความจุ 436 ล้าน ลบ.ม.แทน

นายสมนึก กล่าวต่อไปว่า ในการประชุมครั้งนี้ มีข้อสรุปและยอมรับในความเห็นร่วมกันว่า จะให้การประปา สามารถที่สูบน้ำได้ โดยเฉพาะในช่วงของฤดูน้ำหลาก ซึ่งเป็นช่วงระหว่างเดือน ก.ค.-ต.ค.เป็นระยะเวลา 4 เดือน ในขณะที่มีน้ำเอ่อล้นออกมาจากยอดฝายยางกั้นน้ำพองลมในระดับสูงสุดแล้วเท่านั้น เพราะเป็นช่วงที่มีน้ำเหลือล้นเกินกว่าที่จะกักเก็บไว้ได้และไหลทิ้งลงไปสู่แม่น้ำบางปะกง ก่อนไหลลงสู่ทะเลไปและหากระดับน้ำต่ำกว่าขีดจำกัดดังกล่าวแล้วให้ทางการประปาหยุดสูบน้ำในทันที

การดำเนินการดังกล่าว คาดว่า จะมีน้ำต้นทุนในการผลิตประปาที่เพียงพอต่อความต้องการในระยะแรก ที่การประปาจะทำการสูบน้ำไปกักเก็บไว้ยังอ่างเก็บน้ำของการประปาส่วนภูมิภาค ในอัตรา 5 หมื่นคิวต่อวัน หรือประมาณ 7.34 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี โดยลำคลองสายนี้จะมีน้ำต้นทุนทั้งจากอ่างเก็บน้ำระบมและอ่างสียัด ทั้ง 2 แห่ง และน้ำหลากจากท้องทุ่งในตอนบนที่ไหลลงมารวมสู่คลองท่าลาด ในปริมาณมาก ระหว่างฤดูฝนของทุกปี จึงเชื่อว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรมแต่อย่างใด