ฉะเชิงเทรา - เลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตแปดริ้วคึก ขณะเลือกในเขตเหงา ด้าน กกต.ฉะเชิงเทรา เชื่อมีผู้ขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ออกมาใช้สิทธิใกล้เคียงจำนวนยอดที่เคยมาลงทะเบียนไว้ ขณะหลายรายยังคงมีความสับสน หลังรายชื่อหาย พร้อมเผยเริ่มพบมีผีโผล่ออกมาใช้สิทธิลงคะแนนแทนตัวจริงแล้ว 1 ราย แต่หลังตรวจสอบกลับกลายเป็นผู้มีชื่อซ้ำซ้อนกัน
วันนี้ (26 มิ.ย.) เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าที่ จ.ฉะเชิงเทรา ในวันนี้เป็นไปอย่างคึกคัก ตั้งแต่แรกเริ่มของการเปิดหีบให้ลงคะแนน จนทำให้การจราจรบนเส้นทางหลายสายที่จะเดินทางเข้ามายังหน่วยเลือกตั้งกลางนอกเขต ที่บริเวณลานศาลาไทย หน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา ติดขัดอย่างหนักทุกเส้นทาง จนทำให้การเดินทางมาของประชาชนเป็นไปอย่างอยากลำบาก ในการที่จะเข้าถึงหน่วยเลือกตั้ง และทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรต้องปรับการจราจร จากรถแล่นสวนทาง ให้เป็นระบบการเดินรถแบบทางเดียว (วันเวย์) เข้ามายังหน่วยเลือกตั้ง
ส่วนบรรยากาศภายในบริเวณสถานที่ตรวจสอบสิทธิเลือกตั้งของแต่จังหวัดนั้น มีประชาชนเข้ามารอต่อเข้าคิวเพื่อตรวจสอบสิทธิการเลือกตั้งของตนเองอย่างเนืองแน่นในแต่ละจังหวัด โดยเฉพาะกลุ่มจังหวัดทางแถบภาคอีสานนั้นมีความคึกคักมากกว่าทุกภาคของประเทศ ขณะที่หน่วยเลือกตั้งในเขตจังหวัดภาคกลาง และภาคตะวันออกนั้น มีผู้มาใช้สิทธิอย่างบางตา โดยที่ทาง กกต.จังหวัดฉะเชิงเทรานั้น ได้จัดสถานที่ในการตรวจสอบสิทธิไว้รองรับประชาชนถึง 3 วิธีการ คือ การตรวจสอบสิทธิ์ด้วยตนเองบนแผ่นกระดานบอร์ด ที่ถูกนำมาติดตั้งเรียงรายไว้ในแต่ละจังหวัด
และการตรวจสอบสิทธิผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์ ซึ่งจะมีอาสาสมัคร กกต. จากสถาบันอาชีวศึกษา พร้อมกับลูกเสือเนตรนารีในพื้นที่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กกต.มาช่วยกันทำการตรวจสอบให้และวิธีสุดท้าย คือ การเข้าไปตรวจสอบสิทธิ์ผ่านทางระบบออนไลน์เช่นเดียวกัน ยังที่สำนักงาน กกต.จังหวัด บนอาคารศาลากลางหลังเก่า ซึ่งอยู่ด้านฝั่งตรงข้ามของหน่วยเลือกตั้ง โดยปัญหาที่พบส่วนใหญ่นั้น คือ ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่มีชื่อในบัญชีผู้มาขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต โดยเจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้กลับไปใช้สิทธิเลือกตั้งยังภูมิลำเนาของตนเอง ในวันที่ 3 ก.ค.54 นี้
ขณะเดียวกัน หน่วยเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตของเขตเลือกตั้งที่ 1 ซึ่งอยู่ที่ลานจอดรถที่ว่าการ อ.เมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งอยู่ใกล้กันนั้น มีประชาชนเข้ามาใช้สิทธิน้อยมากจนถึงขั้นเงียบเหงา เนื่องจากมีประชาชนลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าไว้เพียง 163 คนเท่านั้น ส่วนหน่วยเลือกตั้งล่วงหน้า
เขตเลือกตั้งที่ 2 บริเวณโรงเรียนสิทธิสุนทรอุทิศ อ.บางน้ำเปรี้ยว มีผู้ขอใช้สิทธิไว้เพียงแค่ 56 ราย และเขต 3 ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอพนมสารคามมีผู้ขอใช้สิทธิไว้เพียง 97 ราย ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 4 ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอบ้านโพธิ์ มีผู้ขอใช้สิทธิเลือกตั้งไว้ 291 ราย
ด้าน ผศ.ประวัติ ชิโนดม ประธานกรรมการเลือกตั้ง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า เชื่อว่าจะมีประชาชนที่เคยขอใช้สิทธิในการเลือกตั้งล่วงหน้าไว้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นคนจากจำนวนผู้มาขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตไว้ 32,450 คน
ส่วนปัญหาที่พบในการเลือกตั้งวันนี้ คือประชาชนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมีชื่อการขอใช้สิทธิเสือกตั้งอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์ แต่เมื่อมาตรวจสอบสิทธิยังบริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้งแล้วกลับไม่พบว่าตนเองมีรายชื่ออยู่ ซึ่งปัญหาดังกล่าวอาจเกิดจากความผิดพลาดของทางเจ้าหน้าที่อำเภอที่เคยไปยื่นขอใช้สิทธิไว้คีย์ข้อมูลให้ไม่ครบ จึงไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตได้จึงต้องให้ผู้ประสบปัญหาดังกล่าวกลับไปใช้สิทธิยังภูมิลำเนาเพื่อป้องกันการเสียสิทธิเลือกตั้ง
ส่วนในกรณีผู้ที่เคยขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตไว้ ตั้งแต่เมื่อครั้งการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งก่อนและได้เดินทางมาขอใช้สิทธิเลือกตั้งในวันนี้และไม่พบรายชื่อของตนเองนั้น เชื่อว่าปัญหาเกิดจากผู้ที่เคยขอใช้สิทธิอาจย้ายการขอใช้สิทธิไปใช้สิทธิเลือกตั้งยังที่อื่นมาก่อนและอาจหลงลืมและจะกลับมาใช้สิทธิเลือกตั้งเดิมในวันนี้อีกโดยที่ไม่ได้ไปตรวจสอบหรือแจ้งการขอใช้สิทธิใหม่อีกครั้งจึงไม่มีรายชื่อเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตในวันนี้
ขณะเดียวกัน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้รับรายงานจากหน่วยเลือกตั้งกลางล่วงหน้าในเขตของเขตเลือกตั้งที่ 4 ว่า มีผู้มาสวมสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งของผู้อื่น ก่อนที่ตัวจริงจะเดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้งนั้น แต่หลังจากการตรวจสอบแล้วปรากฏว่าเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งนั้นเองที่ไม่ตรวจสอบชื่อ และนามสกุลของผู้มาใช้สิทธิให้ดีเสียก่อน เนื่องจากเป็นเพียงบุคคลที่มีชื่อตรงกัน แต่คนละนามสกุล ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ได้ตรวจสอบให้ละเอียด จึงได้ให้ผู้มาใช้สิทธิคนก่อนหน้าเซ็นชื่อไปผิดช่อง ผิดตัวกัน
หลังการตรวจสอบจนเป็นที่พึงพอใจของผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้ง จากพรรคการเมืองต่างๆ ที่ส่งผู้สังเกตการณ์เข้ามาเฝ้าดูแล้ว ไม่ติดใจต่อกรณีดังกล่าว จึงได้ทำการลงมูลเหตุไว้ในแบบบันทึกเหตุการณ์