xs
xsm
sm
md
lg

สนข.เปิดฟังความเห็นรถไฟทางคู่ถนนจิระ-ขอนแก่น คาดไม่เกิน 58 เปิดบริการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวขอนแก่น-สนข.เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วนโครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟทางคู่เพื่อการขนส่ง-ลอจิสติกส์ระยะเร่งด่วน ถนนจิระ (โคราช)-ขอนแก่น 185 กม.คาด ศึกษาแล้วเสร็จ มิ.ย.55 และเปิดให้บริการได้ในปี 58 เชื่อช่วยลดต้นทุนการขนส่งพืชเศรษฐกิจในภาคอีสานทั้งข้าว อ้อย มันสำปะหลัง ฯลฯ

วานนี้ (7 ก.ค.) ที่ห้องออร์คิด บอลรูม 1 โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น จ.ขอนแก่น สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ 1 โครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟทางคู่ เพื่อการขนส่งและลอจิสติกส์ (ระยะเร่งด่วน ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น) โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรธุรกิจเอกชน สถาบันการศึกษาในพื้นที่ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมการสัมมนากว่า 200 คน

นายประณต สุริยะ รอง ผอ. สนข. กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมโดย สนข. และการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้ร่วมกันศึกษาและออกแบบระบบรถไฟทางคู่ช่วงชุมทาง ถนนจิระ-ขอนแก่น และช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะเวลาดำเนินโครงการ 14 เดือน โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนมิ.ย. 2555 ซึ่งเป็นการดำเนินงานต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาที่ได้ศึกษาความเหมาะสมและออกแบบเบื้องต้นระบบรถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง ประกอบด้วย ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ และช่วงนครปฐม-ชุมทางหนองปลาดุก-หัวหิน ซึ่งปัจจุบัน ร.ฟ.ท.อยู่ระหว่างรอรับการจัดสรรแหล่งเงินเพื่อออกแบบรายละเอียด

การพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น จะทำให้ช่วยลดระยะเวลาการเดินทางไม่ต้องเสียเวลาในการรอหลีกขบวนรถ สามารถรองรับการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าเพิ่มมากขึ้น เป็นผลดีต่อประชาชนและเศรษฐกิจของจังหวัดขอนแก่นและภาคอีสาน เนื่องจากขอนแก่นเป็นจังหวัดที่มีพืชเศรษฐกิจที่สร้างมูลค่าปริมาณมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าว อ้อย มันสำปะหลัง และยูคาลิปตัส รวมทั้งมีโรงงานอุตสาหกรรมเกษตรรองรับผลผลิต

นอกจากนี้ ระบบรถไฟทางคู่ดังกล่าวยังจะช่วยให้การขนส่งสินค้าไปยังท่าเรือแหลมฉบังเพื่อการส่งออกได้สะดวก รวดเร็วมากขึ้น รวมทั้งยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดขอนแก่นอีกด้วย เนื่องจากมีการเดินทางที่สะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

นายประณต ระบุอีกว่า การพัฒนารถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น เป็นเส้นทางของโครงข่ายเชื่อมต่อจากรถไฟทางคู่ช่วง มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 เม.ย.2553 ที่เห็นชอบแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟแห่งประเทศไทย ระยะเร่งด่วน พ.ศ.2553-2557 รวมถึงการพัฒนารถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน 873 กิโลเมตร ใน 6 เส้นทาง ภายใต้กรอบวงเงิน 176,808 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในปัจจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทยอยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงทางระยะทางที่ 5 และ 6 โดยโครงการปรับปรุงงทางระยะทางที่ 6 ช่วงบัวใหญ่-หนองคาย ระยะทาง 278 กิโลเมตร ซึ่งคาดว่า จะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2555 เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเดินรถ

สำหรับโครงการระบบรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น มีระยะทาง 185 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 2 จังหวัด รวม 10 อำเภอ ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา (อำเภอเมือง อำเภอโนนสูง อำเภอคง อำเภอบัวใหญ่และอำเภอบัวลาย) และจังหวัดขอนแก่น (อำเภอพล อำเภอโนนศิลา อำเภอบ้านไผ่ อำเภอบ้านแฮด และอำเภอเมือง) มีสถานีรถไฟ 19 สถานีและที่หยุดรถ/ป้ายหยุดรถ 9 แห่ง มีจุดตัดทางรถไฟ 89 แห่ง (ต่างระดับ 9 แห่ง และเสมอระดับ 80 แห่ง)

โดยจะปรับปรุงเป็นจุดตัดทางรถไฟต่างระดับทั้งหมด เพื่อความปลอดภัยและลดปัญหาการจราจรติดขัด รวมทั้งจะมีการพัฒนาลานกองเก็บตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ (Container Yard) เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าที่สถานีบ้านเกาะและสถานีท่าพระ ทั้งนี้ คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2558 ซึ่งจะทำให้เพิ่มความสะดวกรวดเร็วและปลอดภัยในการเดินทางให้แก่ประชาชนในพื้นที่ จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างงานสร้างรายได้ให้กับคนอีสานได้มากยิ่งขึ้น

ด้านนายพยัต ชาญประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นกล่าวเสริมว่าพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ทำการเกษตรประมาณ ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ซึ่งมีพืชเศรษฐกิจที่สร้างมูลค่าหลายชนิด เช่น ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง และยูคาลิปตัส และมีโรงงานอุตสาหกรรมรองรับผลผลิตทางเกษตร ส่งผลให้จังหวัดขอนแก่นมีผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) สูงเป็นอันดับ 2 ของภาคอีสาน รองจากจังหวัดนครราชสีมา แต่มีรายได้เฉลี่ยต่อประชากรสูงเป็นอันดับหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ทั้งนี้ การพัฒนาระบบรถไฟโดยเฉพาะการก่อสร้างระบบรถไฟทางคู่ในพื้นที่ภาคอีสาน ช่วงมาบกระเบา-ชุมทางถนนจิระ (นครราชสีมา) และช่วงชุมทางถนนจิระ(นครราชสีมา) - ขอนแก่นจะช่วยสนับสนุนให้การขนส่งผู้โดยสารและสินค้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การเดินทางมีความสะดวก รวดเร็ว สามารถลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและลดต้นทุนในการขนส่งสินค้าได้ไม่น้อยเช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น