ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “อภิสิทธิ์” โวย “แก๊งเสื้อแดง” ราวีก่อกวนขณะหาเสียงไม่เลิก หวังแย่งพื้นที่ข่าว เป็นสิ่งที่ ปชช.ส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ และ ไม่เป็นประชาธิปไตย ชี้ หากสังคมต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง-ทักษิณ และกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าและปกครองด้วย กม.ต้องเลือก “ปชป.” เป็นผู้นำรัฐบาล
วันนี้ (9 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.45 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่ จ.นครราชสีมา ถึงกรณีที่มีกลุ่มคนเสื้อแดงมาก่อกวนในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งในหลายจังหวัด รวมถึงที่ จ.นครราชสีมา ในวันนี้ ว่า การก่อกวนมีหลายรูปแบบ แต่สิ่งที่อยากจะย้ำ คือ ที่จริงแล้วสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้ ซึ่งตนก็พยายามทำ แต่บางครั้งก็เป็นการมาแย่งพื้นที่ข่าว ซึ่งเป็นธรรมดา โดยตนพยายามบอกทุกพรรคว่าต้องอดทน และเชื่อว่าประชาชนจะเห็นเองว่าคนที่ใช้วิธีการแบบนี้เพื่อมาขัดขวางคนอื่น เป็นสิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ แต่เราต้องอดทนและชี้แจงกันไป
ต่อข้อถามถึงกรณีที่กองทัพบกแจ้งความดำเนินคดีกับ นายไพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย (พท.) ข้อหาขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการแก้ปัญหายาเสพติด (ปส.315) นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ก็เห็นว่าเป็นเรื่องราวกันอยู่ แต่ตนยังไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่เห็นว่ามีการแจ้งความกัน และดำเนินการกันทางกฎหมายแล้ว แต่ขอยืนยันว่า ชุด ปส.315 เป็นการแก้ปัญหายาเสพติด
ฉะนั้น ขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ไม่มีเรื่องการเมืองอยู่แล้ว จากการที่ได้ไปดูก็ชัดเจนว่าเขามีระบบการทำงานที่ชัดเจน เพียงแต่การตั้งด่านหรือสกัดกั้นต่างๆ อาจไปกระทบคนที่จะทำผิดกฎหมาย
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทย ระแวงว่า พรรคประชาธิปัตย์จะใช้อำนาจรัฐมากลั่นแกล้งนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สื่อมวลชนได้ไปตรวจเยี่ยมพร้อมตน และเห็นลักษณะการตั้งด่านว่าเป็นอย่างไร ซึ่งไม่มีอะไรเกี่ยวกับการเมืองเลย เขาก็ไปดูแลเรื่องการจับกุมยาเสพติดและขยายผล ส่วนกรณีของนายไพโรจน์นั้นคงไม่ทำให้เจ้าหน้าที่หวั่นไหว เพราะเจ้าหน้าที่ต้องทำหน้าที่ปราบปรามยาเสพติด แต่สังคมต้องดูต้องแยกแยะบทบาทให้ชัดเจนว่าใครมีหน้าที่อย่างไร เท่าที่ฟังเสียงสะท้อนจากชุมชน ก็มีการตอบรับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี มีความพึงพอใจในการทำหน้าที่ที่มีการนำทหาร ตำรวจ และพลเรือนมาทำหน้าที่ก็ได้ผลมากขึ้น
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการปะทะคารมระหว่าง พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กับ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.หรือกลุ่มคนเสื้อแดง และ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ระบุหลายครั้งแล้วว่าพรรคเพื่อไทยมีการแบ่งงานกันทำในกระบวนการต่างๆ รวมถึงกระบวนการก่อกวนหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นการแบ่งงานกัน แต่เราต้องอดทน ถ้าคนก่อกวนเป็นประชาชนที่มาตามธรรมชาติ เราก็ชี้แจงกันไป แต่ถ้าจัดตั้งกันมา เราจะพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหา ซึ่งที่ผ่านมา เมื่อตนเข้าไปคุยด้วย เขาก็อ้างว่าเป็นแดงเทียม แต่เมื่อตรวจสอบก็พบว่าเป็นกลุ่มคนเสื้อแดงจริง
“ดังนั้น สังคมต้องมองว่าพรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นกลุ่มเดียวกันใช่หรือไม่ และทำการเมืองแบบใด เพราะเราต้องการนำการเมืองกลับเข้าระบบรัฐสภา แต่การเอามวลชนมาก่อกวนขับไล่ขัดขวาง อย่างนี้ไม่เป็นประชาธิปไตย” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า การลากสถาบันทหารมายุ่งเกี่ยวกับการเมือง จะส่งผลอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งที่ตนพูดได้คือหลักการที่พรรคประชาธิปัตย์ได้กำหนดแนวทางในตอนนี้ คือป่วยการที่จะพูดถึงความปรองดองถ้ามีการตั้งตนเป็นคู่ขัดแย้งกับคนนั้นคนนี้อยู่ตลอดเวลา ฉะนั้น พรรคประชาธิปัตย์จึงบอกว่าวิธีที่จะก้าวพ้นเรื่องเหล่านี้ไปได้ คือต้องเลือกพรรคประชาธิปัตย์เพื่อยืนยันว่าบ้านเมืองเดินหน้าต่อ ให้ความสำคัญกับเรื่องนโยบาย ให้ความสำคัญกับการปกครองบ้านเมืองและกฎหมาย
ตนยืนยันว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนจะเดินหน้า ทำให้บ้านเมืองของเราประเทศไทยของเรามีความเข้มแข็ง เพราะคะแนนเสียงที่ลงให้กับประชาธิปัตย์เป็นเสียงที่จะยืนยันว่า บ้านเมืองต้องปกครองด้วยกฎหมาย และยืนยันว่าสังคมต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รวมถึงกลุ่มคนเสื้อแดง
ต่อข้อถามกรณีมีคลิปวิดีโอ เผยแพร่ใน “YouTube” ที่แสดงให้เห็นว่ามีการฮั้วการประมูลใน กสท.จะให้กระทรวง ไอซีที ตรวจสอบอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หน่วยงานที่รับผิดชอบจะต้องตรวจสอบว่าเป็นมาอย่างไรและมีการดำเนินการให้เกิดความเสียหายอย่างไร ซึ่งตนยังไม่ได้ดูในรายละเอียดเรื่องนี้
ส่วนที่มีการระบุในเนื้อหาว่า มีการพูดถึง คุณสนธิ และโยงมาถึงนายกรัฐมนตรีว่าสามารถพูดคุยกันได้ซึ่งมีเรื่องต่างตอบแทน และมีผลประโยชน์ระหว่างท่านนายกฯ กับ คุณสนธิ นั้นนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่มีผลประโยชน์อะไรอยู่แล้ว และยังไม่ทราบในคลิปนี้ว่ามีการพาดพิงอย่างไร จะตรวจสอบดูอีกที