“อภิสิทธิ์” เชื่อแดงป่วนหาเสียงหวังแย่งพื้นที่ข่าว ย้ำแก๊งแดง-เพื่อไทยและคนในเครือข่ายแบ่งงานกันทำเพื่อก่อกวน ถือเป็นการกระทำที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เรียกร้องพลังเงียบออกมาแสดงพลังปฏิเสธสิ่งเหล่านี้ในวันที่ 3 ก.ค.ด้วยการเลือก ปชป.เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไป ไม่วิจารณ์ “ยิ่งลักษณ์” ขอพบ ผบ.ทบ.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่หาเสียงแล้วเจอคนเสื้อแดงขัดขวาง โดยเฉพาะที่ จ.นครราชสีมา ว่ามีหลายแบบ แต่สิ่งที่ตนอยากจะย้ำคือ การพูดคุยแลกเปลี่ยนเป็นเรื่องที่ทำได้ และตนก็พยายามทำ แต่บางครั้งเป็นการมาเพื่อแย่งพื้นที่ข่าว ซึ่งเป็นธรรมดาแต่ตนก็พยายามบอกกับลูกพรรคว่าเราต้องอดทน เราเชื่อว่าพี่น้องประชาชนจะเห็นว่าคนที่ใช้วิธีการแบบนี้เพื่อมาขัดขวงคนอื่นจะเป็นสิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ ซึ่งต้องอดทนและชี้แจงกันไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ของชุดปฏิบัติการปราบปราบยาเสพติด 315 มีผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยออกมาโวยวาย นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อันนั้นยังเป็นเรื่องเป็นราวกันอยู่ แต่ตนเองไม่ทราบข้อเท็จจริง ซึ่งเห็นว่ามีการแจ้งความกัน และดำเนินการทางกฎหมายแล้ว ขอยืนยันว่า 315 เป็นเรื่องของการแก้ปัญหายาเสพติด ฉะนั้นขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ไม่มีเรื่องการเมืองอยู่แล้ว วันนั้นตนก็ไปดูชัดเจน เขามีระบบการทำงาน เพียงแต่ว่าการตั้งด่านหรือการที่จะสกัดกั้นก็จะกระทบกระเทือนกับตนเอง
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยระแวงว่าประชาธิปัตย์อาจใช้อำนาจรัฐให้เจ้าหน้าที่ไปช่วยเพื่อประโยชน์ในการหาเสียง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า วันนั้นสื่อมวลชนก็อยู่กับตน และเห็นว่าลักษณะการทำงาน การตั้งด่านเป็นอย่างไร มันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับทางการเมืองเลย ขอไปดูแลเรื่องการจับกุม เรื่องยาเสพติดและขยายผล
ผู้สื่อข่าวถามว่า เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่จะลำบากใจหรือไม่ เพราะผู้สมัครใช้วาจาที่รุนแรง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ไม่หวั่นไหวเพราะมีหน้าที่ แต่สังคมต้องดูว่าบทบาทของฝ่ายต่างๆ เป็นอย่างไรกันแน่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ทำหน้าที่ของเขาในการปราบปรามยาเสพติด และเสียงสะท้อนที่ฟังมาจากชุมชนต่างๆ ก็พึงพอใจ ที่นี้มีการเอาจริงเอาจังกันในเรื่องของยาเสพติดโดยการนำตำรวจ ทหาร และพลเรือนมาผสมผสานกัน เพราะมันเริ่มได้ผลมากขึ้น
ส่วนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย ระบุว่า พร้อมจะไปพบกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) แต่ตอนนี้เกิดวิวาทะระหว่างนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยกับ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบกนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ได้พูดไปหลายครั้งว่าพรรคเพื่อไทย จะมีลักษณะของการแบ่งงานกัน เป็นกลุ่มกระบวนการต่างๆ รวมทั้งการก่อกวนการการหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ ก็เป็นการแบ่งงานกันทำทั้งนั้น
เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์จะปรับวิถีการหาเสียงอย่างไร เพราะช่วงใกล้โค้งสุดท้ายยิ่งถูกเสื้อแดงขัดขวางในการพื้นที่มากขึ้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เราต้องอดทน ถ้าเป็นพี่น้องประชาชนที่มาโดยธรรมชาติ เราก็ต้องชี้แจงกันไป เป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าจัดตั้งกันมาก็ต้องพยายามที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหากัน เพราะที่ผ่านมาพอตนไปพูดคุยด้วยก็มาอ้างว่าเทียม แต่พอตรวจสอบก็เป็นจริงเป็นกลุ่มคนเสื้อแดง ฉะนั้น คิดว่าสังคมต้องมอง ตอนนี้สรุปแล้วพรรคเพื่อไทย กลุ่มคนเสื้อแดงเป็นกลุ่มคนเดียวกันใช่หรือไม่ และทำการเมืองแบบไหน เพราะเราต้องการให้การเมืองกับเข้าสู่ระบบของรัฐสภา แต่หากใช้วิธีการเอามวลชนมาขัดขวางบ้าง ก่อกวนบ้าง อย่างนี้ไม่เป็นประชาธิปไตย
ผู้สื่อข่าวถามว่า การลากเอาสถาบันทหารมาเป็นผู้ขัดแย้งกับพรรคการเมืองรวมถึงประชาชน ส่วนหนึ่งจะเป็นผลเสียต่อระบอบประชาธิปไตยอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนพูดได้แต่เพียงว่าที่พรรคประชาธิปัตย์ได้กำหนดแนวทางในขณะนี้ป่วยการที่จะพูดถึงการปรองดอง ถ้าหากว่ามีการตั้งตนเป็นผู้ขัดแย้งกับคนนั้นคนนี้อยู่ ตลอดเวลาพรรคประชาธิปัตย์จึงบอกว่าวิธีการที่จะก้าวพ้นปัญหานี้ไปให้ได้ เลือกพรรคประชาธิปัตย์เพื่อที่จะยืนยันว่าบ้านเมืองเดินหน้าต่อให้ความสำคัญกับเรื่องนโยบาย ให้ความสำคัญกับบ้านเมืองที่ปกครองด้วยกฏหมาย
ต่อข้อถามว่า ท้ายที่สุดการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นเส้นทางที่นำไปสู่ความรุนแรงอีกครั้งหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้รับโอกาสจากพี่น้องประชาชน จะเดินหน้าทำให้บ้านเมืองของเราประเทศไทยของเรามีความเข็มแข็ง เพราะเสียงที่ลงให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นเสียงที่จะยืนยันว่า เราต้องการให้ปัญหาของประชาชนเป็นตัวตั้ง และเป็นเสียงที่ยืนยันว่าบ้านเมืองต้องปกครองด้วยกฏหมาย เป็นเสียงที่ยืนยันว่าววันนี้สังคมต้องการก้าวพ้น เรื่องความขัดแย้ง เกี่ยวกับเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เกี่ยวกับเรื่องของเสื้อแดง พรรคประชาธิปัตย์จะเดินหน้าทำงาน
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคเพื่อไทยยังใช้ยุทธศาสตร์อย่างนี้ ความเป็นผู้หญิงของ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะนำไปสู่ความปรองดองได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ขอวิจารณ์ ขอเพียงแต่บอกว่า ถ้าทำอย่างที่ทำทุกวันนี้ ตนเห็นพี่น้องประชาชนเขาเข้าใจคนที่มาพบกับตนเองและแสดงความเห็นใจว่าทำไมจะต้องมีการทำอย่างนี้กันตลอดเวลา ตนเชื่อคนเหล่านี้มีมาก และขอวิงวอนให้คนเหล่านี้ออกมาในวันที่ 3 ก.ค.นี้ ให้เห็นว่าเราไม่ยอมรับวิธีการแบบนี้ในการทำงานทางการเมือง
ส่วนความมั่นใจในการปักธงในพื้นที่ จ.นครราชสีมานั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มั่นใจว่าพี่น้องโคราชจำนวนมากจะลงคะแนนให้พรรคประชาธิปัตย์ เพราะคราวที่แล้วเราได้คะแนนในระบบสัดส่วนมา
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการออกมาตอบโต้กรณีที่นายกรัฐมนตรี ที่เขียนบทความเปิดใจผ่านเฟซบุ๊ก นายอภิสิทธิ์กล่าวปฏิเสธว่าตอบโต้เรื่องอะไร เขามาเล่าให้ฟัง ตนก็บอกว่ารับทราบไม่มีอะไร แต่ตนคงไม่ไปตอบโต้อะไร เพราะสิ่งที่เขียนไปคือความจริง มีตรงไหนที่ไม่จริงก็บอกมา โดยยืนยันว่าเป็นความจริงทั้งหมด ตนเสนอความจริง และหวังว่าประชาชนจะใช้ดุลพินิจในการพิจารณา
เมื่อถามว่าเวลานี้คลิปฮั้วประมูลระบบบิลลิ่งเผยแพร่ไปทั่วเว็ปยูทูป ซึ่งภายในเนื้อหาคลิปดังกล่าวเปิดเผยถึงผลประโยชน์ธุรกิจวงการโทรคมนาคม ของ 2 หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ จะให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอซีที) เข้าตรวจสอบหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องตรวจสอบว่าเป็นโครงการไหนอย่างไร และมีการดำเนินการที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อราชการหรือไม่ แต่ตนยังไม่มีโอกาสได้ดูคลิปดังกล่าว
ผู้สื่อข่าถามว่า เนื้อหาในคลิปมีการระบุถึงนายกรัฐมนตรี และนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่มีเรื่องตอบแทนและผลประโยชน์ กล่าวว่า ตนเองไม่มีแน่นอน และตนเองก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย และยังไม่ทราบว่าคลิปมีอะไรพาดพิงมาถึงตนหรือไม่ เดี๋ยวจะตรวจสอบดู
เมื่อถามว่า ผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย ออกมาระบุว่าเงินที่สะพัดในช่วงนี้ตรวจสอบยาก นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จะต้องดำเนินการ แต่ยอมรับการตรวจสอบคงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะคนที่ทำผิดกหมายต้องทำให้ยากอยู่แล้วในการตรวจสอบ แต่หน่วยงานต้องพยายามทำเต็มที่