จวกนักการเมืองจับปัญหา “เขาวิหาร” เป็นตัวประกัน-ไว้หาผลประโยชน์ ไม่เห็นแก่ชาติ

ศรีสะเกษ - เลขานุการศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมืองฯ ศรีสะเกษ ยันพื้นที่ 4.6 ตร.กม.รอบปราสาทพระวิหารบริหารร่วมไม่ได้เสี่ยงเสียรู้เขมร จวกนักการเมืองเอาเรื่องพิพาท “เขาพระวิหาร” เป็นตัวประกันไว้ฉกฉวยแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตัวเองและพรรคพวก โดยไม่คิดเห็นผลประโยชน์ของประเทศชาติ ชี้ ปัญหาเกิดจากเนื้อใน จนท.ไทย และลุกลามเพราะนักการเมืองน้ำเน่า

วันนี้ (8 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก ว่า ที่หอประชุมฑีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้มีการจัดเวทีเสวนาเลือกตั้ง โดยเชิญตัวแทนพรรคการเมืองที่เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ นักวิชาการ ตัวแทนภาคประชาชน มาร่วมเสวนา เพื่อให้ตัวแทนพรรคการเมืองได้รับทราบข้อเสนอและนำเสนอทางแก้ ตามนโยบายของแต่ละพรรคการเมืองนั้น มีนักศึกษา และประชาชน เข้าร่วมรับฟังประมาณ 3,000 คน

ทั้งนี้ การเสวนาตอนหนึ่งได้หยิบยกเอากรณีที่สมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เสนอให้ประเทศไทยยอมรับแผนบริหารจัดการร่วมกันบริเวณพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร (ตร.กม.) รอบปราสาทพระวิหาร เพื่อพัฒนาด้านธุรกิจการท่องเที่ยวไปด้วยกันนั้น

นายทองดี ทองผาย เลขานุการศูนย์พัฒนาการเมือง ภาคพลเมืองสถาบันพระปกเกล้า จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ปัญหากรณีพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร นั้น ตนคิดว่าถูกนำไปแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมือง หรือเอาไปเป็นตัวประกันกลายเป็นประเด็นที่จะฉกฉวยเพื่อเอาประโยชน์ให้กับกลุ่มให้กับพรรคพวกของตัวเอง โดยไม่ได้คิดวางแผนอย่างเป็นระบบ เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติบ้านเมืองจริงๆ

โดยกรณีพื้นที่ 4.6 ตร.กม.รอบปราสาทพระวิหาร นั้น จะมาบริหารจัดการร่วมไม่ได้ เพราะถ้าไปบริหารจัดการร่วมกันก็เท่ากับเราไปยอมรับตรงนี้ ว่า กัมพูชามีอธิปไตยเหนือดินแดนบริเวณนั้นแล้ว ณ วันนี้เราต้องเอาให้มันชัดๆ ก่อนว่าประเด็นมันอยู่ตรงไหน ประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้ไม่ใช่ความเก่งกล้าของกัมพูชา แต่เป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ถ้าลงไปดูชัดๆ จะพบว่า ข้อเท็จจริงของปัญหามันเกิดจากเนื้อในของเรา และที่มันลุกลามไปก็เกิดจากเนื้อในของเราเอง ถ้าตราบใดที่นักการเมืองยังเล่นการเมือง เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้องไม่คิดเห็นผลประโยชน์ของประเทศชาติ ปัญหานี้ก็จะไม่ยุติ เพราะเขาจะเอาไว้รอแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัวเอง

ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และประธานสมาคมการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนรู้สึกเจ็บปวดมากในเรื่องของพื้นที่ 4.6 ตร.กม.ที่จริงแล้วบริเวณนั้นเราอยู่มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ตั้งแต่ปี 2533 ตอนนี้ถ้าให้คณะกรรมการจากต่างประเทศเข้ามาดู แน่นอนเขาต้องบอกว่าช่วยกัน แบ่งกัน ซึ่งมันไม่ใช่ จึงจะให้เขามาดูตอนนี้ไม่ได้ เพราะประเทศไทยเราเป็นสุภาพบุรุษ เรามีแต่ถอยกับถอย

ขณะที่กัมพูชารุกเข้ามาไม่หยุด และตอนนี้ทางความมั่นคงก็ให้เราถอยออกมาจนถึงด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารแล้ว เป็นเรื่องที่เสียเปรียบมาก จะให้ประเทศอื่นเข้ามาดูตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด เพราะเขาจะบอกว่า 4.6 ตร.กม.เป็นของกัมพูชาทันที