xs
xsm
sm
md
lg

สถาบันพระปกเกล้าร่วม มอ.ปัตตานีจัดเวทีหาทางออกปัญหาเลี้ยงหอยแครงในอ่าวปัตตานี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปัตตานี - สถาบันพระปกเกล้าร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จัดเวทีประชาเสวนาประมงพื้นบ้าน หาทางออกให้กับชาวประมงและผู้เลี้ยงหอยแครงในอ่าวปัตตานี เพื่อหาข้อยุติความขัดแย้งโดยสันติวิธี

ที่ศูนย์เพาะเลี้ยงและพัฒนาประมงชายฝั่งปัตตานี ดร.สุกรี สาแม อาจารย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นางสาวอภิญญา ดิสสะมาน อาจารย์จากสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้าพร้อมคณะได้จัดเวทีประชาเสวนาระหว่างพื้นบ้านกับผู้เลี้ยงหอยแครงในอ่าวปัตตานี เพื่อประชาคมแสดงความคิดเห็นในการหาทางออกร่วมกันกรณีปัญหาขัดแย้งระหว่างประมงพื้นบ้านกับผู้เลี้ยงหอยแครง แบบสันติวิธี

โดยได้มีการตระเวนจัดเวทีประชาเสวนาครบทั้ง 8 ตำบลคลอบคลุมรอบอ่าวปัตตานีที่กินเนื้อที่ 3 อำเภอ ในจำนวน 8 ตำบลของจังหวัดปัตตานี ทั้งนี้ เพื่อนำข้อมูลเป็นข้อสรุปทั้งหมดมอบให้กับทางจังหวัดปัตตานีเป็นแนวทางของการดำเนินทิศทางของการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างกัน ซึ่งผลการประชุมเสวนาครบทั้ง 8 ตำบลมีผลชัดเจนที่เป็น 2 ความเห็นหลัก ได้แก่กลุ่มผู้เลี้ยงหอยแครงก็เรียกร้องอยากให้เปิดเป็นที่เลี้ยงหอยแครงเหมือเดิมได้เหมือนเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เพราะมีความรูสึกว่าสถานที่ดังกล่าวตัวเองได้ครอบครองมานานพอจะเรียกว่าเป็นของตัวเอง

ส่วนความเห็นของประมงพื้นบ้านก็แสดงไม่เห็นด้วยในการนำหอยแครงเลี้ยงโดยปราศจากเงื่อนไข เพราะมองว่าการนำพันธุ์หอยแครงมาหว่านเลี้ยงในอ่าวปัตตานีล้วนแต่มีการสร้างปัญหาให้กับชาวประมงพื้นบ้านในการที่จะประกอบอาชีพอวนลอย ที่เป็นส่วนใหญ่มากถึง 90% เพราะการเลี้ยงหอยแครงในอ่าว นอกจากจะมีการครอบครองมีปักไม้เป็นแนวเขตในอ่าวฯที่สาธารณะแล้ว ยังเป็นต้นเหตุของการเพาะพันธุ์หอยหนามทั่วบริเวณพื้นที่เลี้ยงหอย ซึ่งเป็นพื้นที่เดียวกันที่ทำประมงอวนลอย ทำให้ชาวประมงต้องได้รับความเดือดร้อนถูกหอยหนามทิ่มแทงมือทุกครั้งเมื่อติดมากับอวนจึงปัญหาหนักมากสำหรับชาวประมงพื้นบ้าน

นอกจากนั้น ยังคงมีอีกส่วนหนึ่งเห็นด้วยในการที่จะให้มีการเลี้ยงหอยแครง แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้เป็นรบกวนกับอาชีพประมงพื้นบ้าน มีการกำหนดพื้นที่เลี้ยงต้องห่างจากฝั่งไม่เกิน 100-200 เมตร และไม่ใช้คราดเรือยนต์มาคราดหอยแครงที่เป็นผลผลิตเป็นต้น จึงทำให้การจัดเวทีประชาเสวนานั้นยังไม่สามารถสรุปเป็นทิศทางเดียวกันได้ในระยะเวลาสั้นๆ คงต้องมีการพูดคุยมาอีกหลายเวทีเพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถหลอมความคิดเห็นเป็นหนึ่งเดียวได้ ที่สามารถมองประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน

ด้าน ดร.สุกรี สาแม อาจารย์มหาวิทยาลัยสงคลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี กล่าวว่า การจัดเวทีประชาเสวนาในครั้งนี้ เพราะทางจังหวัดปัตตานีต้องการรับทราบปัญหาของทั้งสองฝ่ายระหว่างประมงพื้นบ้านกับผู้เลี้ยงหอยแครงในอ่าวปัตตานี หลังจากที่ต้องเกิดเป็นปัญหาความขัดแย้งกันจนมีการแจ้งดำเนินคดีความระหว่างกัน ต้องยอมรับว่ามันไม่ใช่ง่ายสำหรับที่จะให้ปัญหาความขัดแย้งเหล่านี้ยุติได้ในระยะเวลาสั้น เพราะเป็นกันปล่อยปะละเลยของหน่วยงานที่รับผิดชอบในเรื่องของสิ่งแวดล้อม จนปล่อยให้มีการซื้อขายสิทธิกันมาเป็น 10-20 ปี จึงไม่ง่ายที่จะให้ผู้เสียประโยชน์จาการซื้อสิทธิจะยอมเสียสิทธิโดยง่ายอย่างแน่นอน

ด้านนางสาวอภิญญา ดิสสะมาน อาจารย์สำนักสันติวิธีฯสถาบันพระปกเกล้าฯ กล่าวว่า หลังจากรับทราบปัญหาทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว หลังจากมีการจัดเวทีเสวนาครบทั้ง 8 ตำบลรอบอ่าวปัตตานี จะเตรียมทำสรุปความคิดเห็นของผู้ร่วมเสวนาทั้งหมด และสรุปความเห็นเพื่อเป็นแนวทางให้กับทางจังหวัดปัตตานีกันต่อไป เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่มียาวนานมาก ให้สามารถยุติปัญหาโดยแนวทางสันติวิธีต้องยอมรับการดำเนินการทางกฎหมายอาจจะไม่ใช่ทางออกเสมอไป

ส่วนที่มีคดีความกันนั้นที่มีผู้เลี้ยงหอยแครงแจ้งข้อหาชาวประมงพื้นบ้านในข้อหาลักทรัพย์นั้น คงต้องว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม และนอกจากนี้คงต้องเชิญทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุยมากกว่านี้เพื่อหาข้อยุติร่วมกันอย่างสันติวิธีบางครั้งอาจต้องยอมถอยคนละก้าวก็คงต้องยอมกันบ้าง



กำลังโหลดความคิดเห็น