ตราด - กลุ่มเรือประมงคราดหอยจาก 4 หมู่บ้านนำเรือคราดหอยปิดปากคลองบ้านยายม่อม เพื่อเจรจาพื้นที่ทำประมงในทะเลตราด ส่งผลชาวประมงออกทะเลไม่ได้ หลังเมื่อวานเข้าพบจังหวัดแต่ยังไม่ได้รับการแก้ปัญหา
วันนี้ (15 มี.ค.) พ.ต.ท.นิติ ทองอ่อน รองผกก. ฝ่ายปราบปราม สภ.แหลมงอบ จ.ตราด ได้รับแจ้งจากชาวประมงบ้านยายม่อม ต.แหลมงอบ ว่า มีกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านจากบ้านแหลมทองหลาง, บ้านปากคลองน้ำเชี่ยว, บ้านห้วงน้ำขาว และบ้านแหลมหิน นำเรือประมงที่เป็นเรือคราดหอยเป็นส่วนมากจำนวน 50-100 ลำ ทยอยเดินทางมายังบริเวณปากคลองยายม่อม เพื่อนำเรือมาจอดปิดทางเข้าออกที่บริเวณคลองยายม่อม ทำให้ชาวประมงบ้านยายม่อมได้รับความเดือดร้อนเพราะไม่สามารถออกไปทำประมงได้
พ.ต.ท.นิติ ทองอ่อน จึงได้แจ้งให้ นายศิริพงษ์ ปทุมรัตน์ นายอำเภอแหลมงอบ ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเดินทางไปยังที่เกิดเหตุพบว่ามีเรือประมงคราดหอยจำนวนมากจอดเรียงรายปิดอยู่บริเวณปากคลองยายม่อม ขณะนั้น นายพีระ เอี่ยมสุนทร ป้องกันจังหวัด และนายภัทราวุธ หิรัญรัตน์ ปลัด อ.แหลมงอบ ได้เดินทางไปยังคลองยายม่อม พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่ อส.จำนวน 50 นายไปร่วมดูแลสถานการณ์ด้วย
โดย นายรุ่งอโน เทียนไชย อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/1 หมู่ 3 ต.ห้วยแร้ง อ.เมืองตราด ที่เป็นหนึ่งในตัวแทนเรือคราดหอย แจ้งว่า ที่เดินทางมาครั้งนี้ เพื่อมาเจรจากับ นายบุญส่ง ทิศา กลุ่มประมงพื้นบ้านยายม่อม หลังได้ติดต่อเพื่อเจรจาแบ่งพื้นที่ทำประมงระหว่างกลุ่มประมงพื้นบ้านยายม่อม และกลุ่มประมงเรือคราดหอย แต่ยังไม่เคยได้เจรจากับนายบุญส่งเลย วันนี้จึงต้องยกขบวนกันมาปิดปากคลองเพื่อขอเจรจาซึ่งปรากฏว่าวันายบุญส่ง ไม่อยู่ไปทำธุระที่พัทยา จ.ชลบุรี
นายรุ่งอโน กล่าวว่า กลุ่มเรือคราดหอยทั้งหมดได้รับความเดือดร้อนจากการถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่กวดขันและจับกุม เนื่องจากทุกครั้งที่ออกทำประมงจะถูกกลุ่มชาวบ้านที่นำโดยนายบุญส่ง ทิศา แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบทุกครั้ง จนตนเองและกลุ่มได้มีการติดต่อเพื่อขอเจรจา แต่ก็ยังไม่เจอนายบุญส่งแต่อย่างใด จึงได้ยกขบวนกันมาในวันนี้ ตอนนี้พวกตนได้รับความเดือดร้อนจากการที่ไม่มีพื้นที่ทำกิน ทำให้ไม่มีรายได้ ครอบครัวเดือดร้อน ประกอบกับเมื่อวานนี้ตนและกลุ่มเรือประมงได้รวมตัวกันไปพบผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เพื่อให้แก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ แต่ปรากฏว่า ยังไม่สามารถแก้ได้ จึงได้เข้ามาที่บ้านยายม่อมเพื่อเจรจากับกลุ่มประมงพื้นบ้านบ้านยายม่อม
ซึ่งขณะที่กลุ่มเรือคราดหอยนำเรือมาจอดปิดปากคลองไว้นั้น ได้สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มประมงพื้นบ้านยายม่อมเป็นอันมาก ประกอบกับกลุ่มประมงพื้นบ้านยายม่อมเองก็เคยได้รับความเดือดร้อนจากเรือคราดหอยที่เข้ามาคราดหอยแล้วทำให้อุปกรณ์ทำประมงเสียหายจำนวนมาก ซึ่งเมื่อทั้งสองเจอหน้ากันก็ได้ถกเถียงกันเรื่องพื้นที่ทำประมงจนจะเป็นการวิวาทกัน
พ.ต.ท.นิติ ทองอ่อน กล่าวว่า การที่เจ้าหน้าที่ของรัฐทำตามหน้าที่ การที่มีผู้ทำผิดกฎหมายแล้วเจ้าหน้าที่รัฐเข้าดำเนินการจับกุม เพราะมีหน้าที่และรักษากฎหมาย หากเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติก็จะถูกกล่าวหาว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนเรื่องที่กลุ่มเรือคราดหอยเข้าพบรองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เมื่อวานนี้แล้วยังไม่ได้รับคำตอบ เนื่องจากพื้นที่ที่กลุ่มไปขอทำประมงในช่องช้าง มันเป็นเรื่องใหญ่ที่ทางจังหวัดจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาเรื่องนี้
ขณะที่ นายสายัณห์ โชติช่วง อายุ 40 ปี ชาวประมงพื้นบ้านบ้านยายม่อม ต.แหลมงอบ อ.แหลมงอบ จ.ตราด กล่าวว่า การที่กลุ่มเรือคราดหอยทำแบบนี้ ทำให้ตนเองและกลุ่มชาวบ้านในบ้านยายม่อมได้รับความเดือดร้อนเพราะไม่สามารถออกทำประมงได้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กลุ่มเรือคราดหอยทั้งหมดยังไม่ได้เดินทางออกจากพื้นที่ เนื่องจากต้องการเจรจากับ นายบุญส่ง ทิศา ให้ได้ แม้ พ.ต.ท.นิติ ทองอ่อน จะพยายามเจรจาขอให้เปิดปากคลองยายม่อม เพื่อไม่ให้ชาวประมงบ้านยายม่อมได้รับความเดือดร้อน แต่ก็ไม่เป็นผล กลุ่มเรือคราดหอยก็ยังคงปักหลักและบอกว่าจะรอจนกว่า นายบุญส่ง ทิศา จะกลับมา เนื่องจากกลุ่มประมงเรือคราดหอย เชื่อว่านายบุญส่ง ทิศา คือ คนที่แจ้งเจ้าหน้าที่รัฐทราบทุกครั้งที่ออกเรือและทำให้ถูกจับ
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ สืบเนื่องจากได้มีความขัดแย้งระหว่างชาวประมงพื้นบ้านและกลุ่มเรือคราดหอย โดยเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 ได้มีความขัดแย้งระหว่าง 2 กลุ่มถึงขั้นมีการแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.แหลมงอบ และเมื่อวานนี้ (14 มี.ค.) กลุ่มเรือคราดหอยได้เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ผู้ว่าฯไม่อยู่มอบให้ รองฯ ประทีป จงสืบธรรม รับเรื่องแทน และได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับตัวแทนกลุ่มเรือคราดหอยร่วมประชุม และแจ้งที่ประชุมว่าขอทำประมงในพื้นที่หวงห้าม โดยเฉพาะช่องช้าง แต่เนื่องจากบริเวณดังกล่าวถูกประกาศเป็นพื้นที่อนุรักษ์ห้ามทำประมงเด็ดขาด ซึ่งที่ประชุมไม่สามารถอนุโลมให้ได้
วันนี้ (15 มี.ค.) พ.ต.ท.นิติ ทองอ่อน รองผกก. ฝ่ายปราบปราม สภ.แหลมงอบ จ.ตราด ได้รับแจ้งจากชาวประมงบ้านยายม่อม ต.แหลมงอบ ว่า มีกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านจากบ้านแหลมทองหลาง, บ้านปากคลองน้ำเชี่ยว, บ้านห้วงน้ำขาว และบ้านแหลมหิน นำเรือประมงที่เป็นเรือคราดหอยเป็นส่วนมากจำนวน 50-100 ลำ ทยอยเดินทางมายังบริเวณปากคลองยายม่อม เพื่อนำเรือมาจอดปิดทางเข้าออกที่บริเวณคลองยายม่อม ทำให้ชาวประมงบ้านยายม่อมได้รับความเดือดร้อนเพราะไม่สามารถออกไปทำประมงได้
พ.ต.ท.นิติ ทองอ่อน จึงได้แจ้งให้ นายศิริพงษ์ ปทุมรัตน์ นายอำเภอแหลมงอบ ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเดินทางไปยังที่เกิดเหตุพบว่ามีเรือประมงคราดหอยจำนวนมากจอดเรียงรายปิดอยู่บริเวณปากคลองยายม่อม ขณะนั้น นายพีระ เอี่ยมสุนทร ป้องกันจังหวัด และนายภัทราวุธ หิรัญรัตน์ ปลัด อ.แหลมงอบ ได้เดินทางไปยังคลองยายม่อม พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่ อส.จำนวน 50 นายไปร่วมดูแลสถานการณ์ด้วย
โดย นายรุ่งอโน เทียนไชย อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/1 หมู่ 3 ต.ห้วยแร้ง อ.เมืองตราด ที่เป็นหนึ่งในตัวแทนเรือคราดหอย แจ้งว่า ที่เดินทางมาครั้งนี้ เพื่อมาเจรจากับ นายบุญส่ง ทิศา กลุ่มประมงพื้นบ้านยายม่อม หลังได้ติดต่อเพื่อเจรจาแบ่งพื้นที่ทำประมงระหว่างกลุ่มประมงพื้นบ้านยายม่อม และกลุ่มประมงเรือคราดหอย แต่ยังไม่เคยได้เจรจากับนายบุญส่งเลย วันนี้จึงต้องยกขบวนกันมาปิดปากคลองเพื่อขอเจรจาซึ่งปรากฏว่าวันายบุญส่ง ไม่อยู่ไปทำธุระที่พัทยา จ.ชลบุรี
นายรุ่งอโน กล่าวว่า กลุ่มเรือคราดหอยทั้งหมดได้รับความเดือดร้อนจากการถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่กวดขันและจับกุม เนื่องจากทุกครั้งที่ออกทำประมงจะถูกกลุ่มชาวบ้านที่นำโดยนายบุญส่ง ทิศา แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบทุกครั้ง จนตนเองและกลุ่มได้มีการติดต่อเพื่อขอเจรจา แต่ก็ยังไม่เจอนายบุญส่งแต่อย่างใด จึงได้ยกขบวนกันมาในวันนี้ ตอนนี้พวกตนได้รับความเดือดร้อนจากการที่ไม่มีพื้นที่ทำกิน ทำให้ไม่มีรายได้ ครอบครัวเดือดร้อน ประกอบกับเมื่อวานนี้ตนและกลุ่มเรือประมงได้รวมตัวกันไปพบผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เพื่อให้แก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ แต่ปรากฏว่า ยังไม่สามารถแก้ได้ จึงได้เข้ามาที่บ้านยายม่อมเพื่อเจรจากับกลุ่มประมงพื้นบ้านบ้านยายม่อม
ซึ่งขณะที่กลุ่มเรือคราดหอยนำเรือมาจอดปิดปากคลองไว้นั้น ได้สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มประมงพื้นบ้านยายม่อมเป็นอันมาก ประกอบกับกลุ่มประมงพื้นบ้านยายม่อมเองก็เคยได้รับความเดือดร้อนจากเรือคราดหอยที่เข้ามาคราดหอยแล้วทำให้อุปกรณ์ทำประมงเสียหายจำนวนมาก ซึ่งเมื่อทั้งสองเจอหน้ากันก็ได้ถกเถียงกันเรื่องพื้นที่ทำประมงจนจะเป็นการวิวาทกัน
พ.ต.ท.นิติ ทองอ่อน กล่าวว่า การที่เจ้าหน้าที่ของรัฐทำตามหน้าที่ การที่มีผู้ทำผิดกฎหมายแล้วเจ้าหน้าที่รัฐเข้าดำเนินการจับกุม เพราะมีหน้าที่และรักษากฎหมาย หากเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติก็จะถูกกล่าวหาว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนเรื่องที่กลุ่มเรือคราดหอยเข้าพบรองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เมื่อวานนี้แล้วยังไม่ได้รับคำตอบ เนื่องจากพื้นที่ที่กลุ่มไปขอทำประมงในช่องช้าง มันเป็นเรื่องใหญ่ที่ทางจังหวัดจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาเรื่องนี้
ขณะที่ นายสายัณห์ โชติช่วง อายุ 40 ปี ชาวประมงพื้นบ้านบ้านยายม่อม ต.แหลมงอบ อ.แหลมงอบ จ.ตราด กล่าวว่า การที่กลุ่มเรือคราดหอยทำแบบนี้ ทำให้ตนเองและกลุ่มชาวบ้านในบ้านยายม่อมได้รับความเดือดร้อนเพราะไม่สามารถออกทำประมงได้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กลุ่มเรือคราดหอยทั้งหมดยังไม่ได้เดินทางออกจากพื้นที่ เนื่องจากต้องการเจรจากับ นายบุญส่ง ทิศา ให้ได้ แม้ พ.ต.ท.นิติ ทองอ่อน จะพยายามเจรจาขอให้เปิดปากคลองยายม่อม เพื่อไม่ให้ชาวประมงบ้านยายม่อมได้รับความเดือดร้อน แต่ก็ไม่เป็นผล กลุ่มเรือคราดหอยก็ยังคงปักหลักและบอกว่าจะรอจนกว่า นายบุญส่ง ทิศา จะกลับมา เนื่องจากกลุ่มประมงเรือคราดหอย เชื่อว่านายบุญส่ง ทิศา คือ คนที่แจ้งเจ้าหน้าที่รัฐทราบทุกครั้งที่ออกเรือและทำให้ถูกจับ
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ สืบเนื่องจากได้มีความขัดแย้งระหว่างชาวประมงพื้นบ้านและกลุ่มเรือคราดหอย โดยเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 ได้มีความขัดแย้งระหว่าง 2 กลุ่มถึงขั้นมีการแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.แหลมงอบ และเมื่อวานนี้ (14 มี.ค.) กลุ่มเรือคราดหอยได้เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ผู้ว่าฯไม่อยู่มอบให้ รองฯ ประทีป จงสืบธรรม รับเรื่องแทน และได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับตัวแทนกลุ่มเรือคราดหอยร่วมประชุม และแจ้งที่ประชุมว่าขอทำประมงในพื้นที่หวงห้าม โดยเฉพาะช่องช้าง แต่เนื่องจากบริเวณดังกล่าวถูกประกาศเป็นพื้นที่อนุรักษ์ห้ามทำประมงเด็ดขาด ซึ่งที่ประชุมไม่สามารถอนุโลมให้ได้
