นายกฯ ยันแก้ปัญหา ศก.ถูกทาง-เผยหารือผู้นำเขมรเปิดด่านเพิ่ม

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวบรรยายเรื่อง การเมืองของการบริหารเศรษฐกิจไทย ให้กับสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นักศึกษาสถาบันพระปกเกล้า ว่ารัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายต่างๆ ทำให้เศรษฐกิจในปีนี้โตขึ้นถึงร้อยละ 7 แต่อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะดำเนินการอย่างไรก็ถูกวิจารณ์ ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่า แก้ไขมาถูกทางแล้ว อาทิ การตรึงราคาน้ำมันดีเซล ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร จนถึงสิ้นเดือนเมษายน ไม่กระทบต่อเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่คาดว่ายังมีเงินเหลือกว่า 8,000 ล้านบาท ส่วนปัญหาการขาดแคลนน้ำมันปาล์ม รัฐบาลเร่งแก้ไขแล้ว โดยตรึงราคาที่ลิตรละ 47 บาท ถือว่ายังขาดทุนอยู่ และปัญหาการกักตุน ได้มอบหมายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้าไปตรวจสอบแล้วเช่นกัน
ขณะที่ปัญหาไทย-กัมพูชา นายกรัฐมนตรีกล่าวกับสมาชิก อบจ.ว่า มีที่มาจากการขึ้นทะเบียนมรดกโลกปราสาทพระวิหาร ที่ไทยเซ็นยินยอมให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนมรดกโลกฝ่ายเดียว ในปี 2551 ทำให้กัมพูชาอยากเข้ามาบริหารจัดการพื้นที่โดยรอบ และมีการตรึงกำลังทหารโดยไม่ถอยร่น และข้อพิพาทที่เกิดขึ้นนั้นไม่กระทบกับการค้าชายแดน ซึ่งปีที่แล้ว การค้าชายแดนกัมพูชา เติบโตถึงร้อยละ 40 ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ส่วนตัวได้พูดคุยกับผู้นำกัมพูชาว่า จะมีการเปิดด่านเพิ่มเติม
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันด้วยว่า ยูเนสโกจะไม่ยอมให้กัมพูชาเข้ามาบริหารจัดการพื้นที่ของไทยที่เป็นข้อพิพาท และเห็นตรงกันว่าจะไม่เพิ่มปัญหา โดยสถานการณ์ขณะนี้มีแนวโน้มดีขึ้น