พระนครศรีอยุธยา - “นายกฯอภิสิทธิ์” ลงพื้นที่กรุงเก่าตรวจดูเรือบรรทุกน้ำตาลล่ม ต้องใช้ช้างจากวังช้างช่วยลากซีเมนต์เสาเข็มช่วยกันทางน้ำ-กันดินริมตลิ่งทรุดหนัก สั่งกำชับผู้ว่าฯ-กรมเจ้าท่าเร่งซ่อมแซมตลิ่ง
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (3 มิ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางมาตรวจเยี่ยมสถานการณ์เรือบรรทุกน้ำตาลล่ม โดยมี นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมหน่วยงานที่รับผิดชอบให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานจากนายสุวิทย์ ว่า สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วงที่กระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางพัดเข้าหาตลิ่งต้องเร่งแก้ไขส่วนค่าน้ำตอนนี้เริ่มปกติแล้ว จากนั้นชาวบ้านที่เดือดร้อนถูกกระแสน้ำพัดตลิ่งพังบ้านพังเข้าหานายกรัฐมนตรีแล้วขอร้องให้ช่วยเหลืออย่างเต็มที่อย่าทิ้งกัน
นายกฯกล่าวว่า ได้สั่งกำชับผู้ว่าราชการจังหวัด และกรมเจ้าท่าเร่งซ่อมแซมตลิ่งก่อนแล้วสัญญาว่าจะทำเขื่อนคืนพื้นที่ให้อย่างแน่นอน
จากนั้น นายสุวิทย์ รายงานต่ออีกว่า ได้สั่งให้กรมเจ้าท่าประสานงานควบคุมผู้ว่าจ้างที่มากู้เรือโดยจะใช้เวลาอีก 5 วันจึงจะกู้เรือได้เพราะว่ากระแสน้ำในแม่น้ำเจ้าพระไหลเชี่ยวจึงต้องให้เขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำลงมาที่ 600 ลบ.ม./วินาทีใช้เวลา 2 วันน้ำลดระดับแล้วจึงให้ทีมกู้เรือลงไปอุดรูรั่วและดูดน้ำตาลทรายออกใช้เวลาอีก 3 วัน รวมแล้ว 5 วันเรือถึงลอยได้
และกล่าวต่อว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะเป็นแม่งานผู้รับผิดชอบฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับผู้ที่ทำให้เกิดมลพิษทางน้ำทั้งหมด
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ใช้เวลาในการตรวจเยี่ยมสถานการณ์ประมาณ 30 นาทีแล้วจึงเดินทางกลับ โดยมีประชาชนและผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยืนคอยให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง
ด้าน นายพากร วังศิลาบัตร ประธานอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จากการที่เรือบรรทุกน้ำตาลทรายล่มขวางลำน้ำเจ้าพระยาส่งผลกระทบกับการขนส่งทางน้ำทำให้เรือบรรทุกสินค้าวิ่งผ่านไม่ได้ต้องจอดไว้แถวปากน้ำคลองโผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง นับ 100 ลำ สร้างความเสียหายวันละ 200 ล้านบาท จึงอยากให้ช่วยกันเร่งแก้ไขโดยเร็วและหาทางป้องกันในระยะยาว