พระนครศรีอยุะยา - เรือบรรทุกน้ำตาลทราย ที่ล่มในพระนครศรีอยุธยา ยังกู้ไม่ได้ แถมยังทำให้กระแสน้ำเจ้าพระยาเปลี่ยนทางเดินน้ำ กัดและเซาะตลิ่งพังเป็นวงกว้าง ด้านกรมควบคุมมลพิษ เข้าตรวจสอบคุณภาพน้ำยังไม่พบความปกติ แต่น้ำตาลเริ่มส่งกลิ่นเน่า พบปลาในแม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มลอยคอตายเป็นเบือ
วันนี้ (1 มิ.ย.) เวลา 12.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเรือบรรทุกน้ำตาลล่มในเขตพื้นที่ ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่า เรือที่ล่มขวางลำน้ำได้ทำให้น้ำเปลี่ยนเส้นทางเดินของน้ำ จนตลิ่งที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทรุดตัวพังลงยาวประมาณ 7 เมตรแล้ว ล่าสุดพบว่าบ้านของ นายฮาโรล มาทอง อายุ 57 ปี บ้านเลขที่ 2/3 และบ้านของ นางละออ พันธ์ขำ เลขที่ 2 ม.2 ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา ตลอดจนชาวบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำต้องย้ายสิ่งของออกหมด และทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ประกาศเป็นเขตอันตรายแล้ว
ส่วนการกู้เรือน้ำตาลนั้นยังทำได้ยาก เนื่องจากน้ำได้ไหลเข้าท่วมน้ำตาลที่อยู่ในเรือทั้งหมดแล้ว จนส่งกลิ่นเหม็นจากการผสมกันของน้ำและน้ำตาล ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ยกเลิกการกู้เรือน้ำตาลด้วยการใช้เรือแบ็กโฮตักน้ำตาลออก แต่จะใช้วิธีการสูบน้ำและน้ำตาลใส่เรืออีกลำแทน
ขณะที่ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ พร้อมเจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมมลพิษ ส่งเจ้าหน้าที่ออกเก็บตัวอย่างน้ำในจุดที่ก่อนเรือล่มและท้ายที่เรือล่ม พบว่า ค่าน้ำยังปกติ สาเหตุเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ยังไม่ให้เปิดผ้าใบที่ปิดเรือน้ำตาลออก เพราะเกรงว่าปริมาณน้ำตาลที่อยู่ในเรือจะละลายไปกับกระแสน้ำ จนอาจทำให้เกิดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม
ด้าน นายประมวล มีแป้น ประมงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้สั่งการไปยังศูนย์ป้องกันและปราบปรามการประมงน้ำจืดภาคกลาง ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสัตว์น้ำที่อยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่หน้าวัดท่าการ้อง ไปจนถึงเขต อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา หลังพบว่ามีผู้เลี้ยงสัตว์น้ำหลายรายได้ร้องเรียนว่าปลาในกระชังเริ่มได้รับผลกระทบและเสียหายจำนวนมาก พร้อมกับแจ้งให้ประชาชนเร่งจับสัตว์น้ำออกขายก่อนกำหนด เนื่องจากเกรงว่า หากการกู้เรือน้ำตาลล่าช้าอาจจะทำให้เกิดมลพิษทางน้ำกับสัตว์น้ำ โดยเฉพาะบริเวณหน้าวัดต่างๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเวลา 11.00 น.ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลบ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เกือบ 100 คน ได้นำสวิง ฉมวก และอุปกรณ์มาทำการจับปลาจำนวนมากที่ลอยอยู่ข้างตลิ่ง และกลางลำคลองบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอบางปะอิน ทั้งนี้ เชื่อว่า ปลาดังกล่าวอาจได้รับผลกระทบจากกรณีเรือบรรทุกน้ำตาลล่มในครั้งนี้ ซึ่งชาวบ้านได้บอกต่อๆ กัน จนมีชาวบ้านในพื้นที่ตำบลใกล้เคียง ได้นำเรือออกมาหาปลากันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมีปลา ลิ้นหมา ปลากระเบน ปลากด ปลาน้ำเงิน ปลาเนื้ออ่อน และปลาตะเพียน รวมทั้งกุ้งแม่ทั้งน้ำ
ต่อมา นายนัทธี บ่อสุวรรณ นายอำเภอบางปะอิน พร้อมด้วย นายมนตรี ยมนา นายกเทศมนตรีตำบลบ้านเลน อ.บางประอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เดินทางมาดูชาวบ้านที่แห่มาจับปลาเป็นจำนวนมาก โดยนายอำเภอบางปะอิน กล่าวว่า สาเหตุที่ปลาตายและลอยขึ้นมาเหนือน้ำสาเหตุมาจากเรือน้ำบรรทุกน้ำตาลทรายล่มที่เขต อ.พระนครศรีอยุธยา และกระแสน้ำพัดมาถึง อ.บางปะอิน น้ำตาลทรายทำปฏิกิริยาออกซิเจนในน้ำลดลงทำให้ปลาลอยขึ้นมาหาอากาศออกซิเจน
สำหรับปลา กุ้ง ที่ชาวบ้านจับไปรับประทานขอให้ชาวบ้านทำอาหารให้สุกก่อนจะไม่อันตราย อย่ารับประทานดิบๆ ทางอำเภอและเทศบาลบ้านเลนจะได้ประกาศเตือนต่อไป
