กาญจนบุรี - “ผู้ใหญ่ปอย” ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 กาญจนบุรี พรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย เบอร์ 19 ออกหาเสียงต่อชาวเมืองกาญจน์อ้อนขอคะแนนเข้าไปนั่งในสภา เพื่อให้ชาวนาเข้าไปแก้ไขปัญหาเกษตรกร
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (3 มิ.ย.) นายประยงค์ ปั้นแหน่งเพ็ชร หรือ ผู้ใหญ่ปอย ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 จ.กาญจนบุรี พรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย เบอร์ 19 กล่าวว่า 79 ปีที่ผ่านมาของการปกครองระบอบประชาธิปไตย 79 ปีที่มีการเลือกตั้งมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 79 ปีที่เกษตรกรชาวนาอย่างพวกเราเลือกคนอื่นไปเป็นตัวแทนของเรา 79 ปีที่พวกเราถูกกรอกหูอยู่ตลอดเวลา ว่า การตั้งพรรคการเมืองต้องมีเงิน ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล การลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ต้องเป็นคนมีเงิน มีความรู้ มีบุญบารมี หัวหน้าพรรคการเมืองต้องเป็นคนมีบุญวาสนา มีบารมี นั่นคือ สิ่งที่พวกเราได้รับฟังมาตลอดระยะเวลา 79 ปี กรอกหูพวกเราอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเมื่อมีการเลือกตั้ง จนเป็นการล้างสมองพวกเราไปในตัว จนทำให้พวกเราก็คิดตามไปเช่นนั้น เชื่อไปเช่นนั้น จนไม่กล้าแม้กระทั่งคิดที่จะตั้งพรรคการเมืองของพวกเราเอง ไม่กล้าแม้กระทั่งคิดลงรับสมัครเลือกตั้งเป็น สส.ด้วยตนเอง เราถูกล้างสมอง
แล้วทำไมพวกเขาล้างสมองเราเช่น ก็เพราะพวกเขากลัวเรา กลัวที่พวกเราจะมีคนเป็นจำนวนมากกว่าพวกเขามากนัก กลัวว่าหากพวกเราคิดตั้งพรรคการเมืองกันเองเมื่อใดลงสมัครรับเลือกตั้งแข่งขันกับพวกเขาเมื่อใด เมื่อนั้นเขาไม่มีทางได้เป็น ส.ส.หรือได้เป็นก็มีจำนวนไม่มากพอที่จะเป็นรัฐบาลได้ พวกเขาจึงต้องหลอกเรา หลอกให้เราอยู่เฉยๆ หลอกให้พวกเราไม่ต้องลงแข่งพวกเขานั่นเอง
แล้วในความเป็นจริงการเป็น ส.ส.การตั้งพรรคการเมืองมันจะต้องเป็นคนมีเงินหรือไม่ ต้องเป็นคนเรียนหนังสือสูงหรือเปล่า ต้องมีบุญญาบารมีติดตัวมาด้วยหรือไม่ พิสูจน์แล้วจากข้างต้นว่า ไม่ พวกเราร่วมกันสร้างพรรคเราให้เข้มแข็งเติบใหญ่ด้วยพลังของพวกเรามาแล้ว แล้วทำไมเราจะมี ส.ส.ของพรรคไม่ได้เล่า ด้วยพลังของพวกเรา ด้วยพลังของเกษตรกรชาวนาอย่างพวกเราได้ร่วมกันกระทำเรื่องใหญ่ที่ไม่เคยปรากฏมาแล้วบนพื้นพิภพนี้เป็นครั้งแรกของโลกอย่างน้อย 3 ประการ คือ
1.เราสามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินของพวกเราเองได้ด้วยการเดินขบวนเรียกร้องสิทธิของเราให้ตัดดอกเบี้ยค้างชำระทั้งหมดทิ้ง แล้วลดเงินต้นลงเหลือเพียงครึ่งเดียว ในนาม เครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย เป็นครั้งแรก เป็นประเทศแรก และเป็นประเทศเดียวของโลกนี้ที่มีการจัดการหนี้สินเกษตรกรเช่นนี้
2.เราสามารถสถาปนาพรรคการเมืองของเราได้ ในขณะที่ชนชั้นชาวนาเกษตรกรอย่างพวกเรายังเป็นชนส่วนใหญ่ของสังคมเป็นพรรคแรกของโลก
3.เราสามารถสถาปนาพรรคการเมืองของเรา ที่เป็นพรรคการเมืองที่มีลักษณะทางชนชั้นและลักษณะทางมวลชนได้เป็นพรรคแรกของประเทศ
พรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย เกิดจากมติฉันทานุมัติของตัวแทนเกษตรกรชาวนาจาก 62 จังหวัดทั่วประเทศ พรรคการเมืองพรรคนี้จึงเป็นของเกษตรกรชาวนาอย่างแท้จริง และหากเกษตรกรชาวนาอย่างพวกเราที่มีอยู่เกือบ 30 ล้านคน พร้อมใจกันสร้างการเมืองพรรคนี้ให้เข้มแข็งเติบใหญ่ ท่านทั้งหลาย ก็คือ ผู้กำหนดอนาคตของชาติเรา และชะตากรรมของตนเอง ดังเช่นท่านทั้งหลายที่พร้อมใจกันผลิตอาหารเลี้ยงมนุษย์ให้สังคมนี้มั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์มาชั่วนาตาปี เป็นแรงงานที่สร้างบ้านแปงเมืองให้รุ่งเรืองเป็นอารยะ และในยามสงครามเราคือกำลังรบหลักที่รักษาแผ่นดินถิ่นเกิดไว้ให้ลูกสืบหลาน
บทเรียนจากการต่อสู้เดินขบวนของเรา บทวิจัยของทุกสำนักการศึกษาตรงกันว่า หนี้สินและความยากจนของเกษตรกรเกิดจากการทำการผลิตแล้วขาดทุน ต้นทุนสูง ราคาผลผลิตต่ำ การเข้าไม่ถึงทรัพยากร (งบประมาณแผ่นดิน) และการขาดอำนาจต่อรองทางการเมือง คือมูลเหตุที่แท้จริง หนี้สินและความยากจน มันจึงไม่ใช่ลิขิตฟ้า มันจึงไม่ใช่โชคชะตาที่ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด แต่มันเกิดจากการกระทำของคน คนที่ได้เปรียบกระทำต่อคนที่เสียเปรียบ และขาดโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรเช่นพวกเรา พวกเขาใช้อำนาจรัฐเพื่อสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยให้กับพวกเขากันเอง แต่ไม่เคยใช้อำนาจรัฐที่พวกเรามอบให้พวกเขามาแก้ไขปัญหาให้พวกเรา
ถึงเวลาหรือยังที่พวกเราจะลุกขึ้นมากำหนดอนาคตและชะตากรรมของตนเอง ถึงเวลาหรือยังที่พวกเราในฐานะที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ จะเป็นผู้แบ่งปันและจัดสรรทรัพยากร (งบประมาณแผ่นดิน) ของประเทศนี้เสียเอง และมันก็ไม่ใช่เพียงแค่นี้ แต่มันเป็นการประกาศให้สังคมนี้ ให้กับผู้ที่เอารัดเอาเปรียบพวกเรารู้ว่า นี่คือการประกาศศักดิ์ศรีของพวกเราในฐานะ ผู้เลี้ยงโลก ว่าพวกเราจะไม่ยอมจากโลกนี้ไปอย่างเงียบๆ เหมือนเช่นคนรุ่นที่ผ่านมาอีกแล้ว แต่ผู้ผลิตอาหารจะต้องเป็นผู้มั่งคั่งและเป็นเจ้าของโภคทรัพย์ทั้งปวง
เราท่านทั้งหลายต้องมองให้ไกล มองให้เห็นอนาคตเช่นนี้ ต้องขจัดความคิดหวังพึ่ง ความคิดที่งอมืองอเท้า ความคิดที่ไม่เชื่อมั่นในพลังตนเอง ความคิดที่มองไม่เห็นพลังของตนเอง ความคิดที่มองว่าเกษตรกรชาวนาหรือคนจนอย่างพวกเราเข้าสู่อำนาจรัฐไม่ได้ เป็น ส.ส.ไม่ได้ ความคิดที่มองว่าการเป็น สส.เป็นเรื่องของผู้มีเงิน ต้องเรียนหนังสือสูง มีบุญวาสนา ก็ไม่ใช่ที่ผ่านมาพวกเราคิดเช่นนี้ไม่ใช่หรือคนที่อาสามาเป็นตัวแทนเรามาเป็น สส.ให้เรา พวกเขาจึงไม่คิดแก้ปัญหาให้กับพวกเรา แล้วพวกเขาเป็นได้เพราะใคร ใครเป็นคนส่วนใหญ่ที่เลือกพวกเขา แล้วทำไมพวกเราไม่ทำมันเสียเองละ
สำหรับนโยบายของพรรคเครือข่ายชาวนา แห่งประเทศไทย มี 7 นโยบาย 1.พัฒนาประชาธิปไตยทางตรง 2.สะสมกำลังสร้างความจัดเจนทางเศรษฐกิจการเมือง สร้างความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจ ขจัดความเหลื่อมล้ำทางสังคม 8 วาระแห่งชาติเพื่อเกษตรกรไทย 3.อุตสาหกรรมสะอาด 4.คุณภาพชีวิต การเข้าถึงโอกาส และความเท่าเทียมกัน 5.การนำประเทศสู่รัฐสวัสดิการ รัฐต้องรับผิดชอบต่อประชาชนตั้งครรภ์มารดา สูเชิงตะกอน 6.ปฏิวัติเขียว ด้วยการนำประเทศไปสู่การเป็นประเทศเกษตรอุตสาหกรรมที่สะอาด และ 8.การกระจายอำนาจการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมสู่ชุมชนและภาคประชาชน