xs
xsm
sm
md
lg

ผวจ.กาญจน์นำทีมตรวจสอบ รง.ผลิตเหล้า-เบียร์ พบส่งกลิ่นเหม็นจนแทบอ้วก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - ผู้ว่าฯกาญจนบุรี นำทีมเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบโรงงานผลิตเหล้า-เบียร์ชื่อดังในเมืองกาญจน์ หลังพระและชาวบ้านร้องเรียนทางโรงงานมักง่ายทิ้งน้ำกากซาเหล้าบนเนื้อที่หลายร้อยไร่ในเขตติดต่อหมู่ 1 ตำบลวังขนาย และหมู่ 1 ตำบลวังศาลา อำเภอท่าม่วงส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว เผยหลังผู้ว่าฯกาญจน์ได้กลิ่นเหม็นแทบอ๊วก สั่งดำเนินการเด็ดขาด

จากกรณีเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีพระและชาวบ้านจาก ต.วังขนาย และ ต.วังศาลา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ประมาณ 150 คน นำโดย นายอิสรา เนตรสุวรรณ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลวังศาลา นายวิทยา หาญวิสุทธิ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.วังศาลา นายศุภวัฒ์ วงษ์จู ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.วังขนาย และนายสมชัย สนฉัตรทอง หัวหน้ากลุ่มงานสาระสังคม (ค.ศ.3เทียบเท่าระดับ 8) โรงเรียนท่าม่วงราษฎร์บำรุง นำชาวบ้าน 2 ตำบล คือ ต.วังขนาย และ ต.วังศาลา อ.ท่าม่วง และพระภิกษุวัดวังศาลาถือป้ายเดินทางมายังบริษัทไทย ซาน มิเกล ลิเคอร์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 1 ต.วังศาลา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเหล้าและเบียร์ยี่ห้อดังและยังไป บริษัท ปภพ รีนิว เอเบิล จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 60/9 หมู่ 1 ต.วังขนาย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเดียวกันเพื่อถือป้ายประท้วงโดยการปิดถนนหน้าโรงงานก่อนพาผู้สื่อข่าวไปดูพื้นที่ทิ้งน้ำกากซาเหล้าเนื้อที่หลายร้อยไร่ในเขตติดต่อหมู่ 1 ต.วังขนายและ หมู่ 1 ต.วังศาลา ซึ่งส่งกลิ่นเหม็๋นเน่าจนแสบจมูก ต้องเอามือปิดจมูก ชาวบ้านบางรายต้องใช้ผ้าปิดจมูกเนื่องจากทนกลิ่นเหม็นไม่ไหว แต่ทางบริษัทก็ไม่ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกมาชี้แจงตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 13.40 น.วันนี้ (3 พ.ค.) นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยนายปิยะ คุปต์กาญจนกุล นายอำเภอท่าม่วง นายชัยยง โกศลวิทยานันท์ หัวหน้าฝ่ายโรงงาน สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี และนายแพทย์พนัส โสภณพงษ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี นำคณะสื่อมวลชนทั้งจากส่วนกลางและท้องถิ่น เดินทางมายัง บริษัทไทย ซาน มิเกล ลิเคอร์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 1 ต.วังศาลา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เพื่อประชุมติดตามปัญหาการส่งกลิ่นเหม็นของแก๊สไข่เน่า โดยมีนายสมศักดิ์ สนประเสริฐ ผจก.ทั่วไปของบริษัท ปภพ รีนิว เอเบิล จำกัด พร้อมทีมงานผู้บริหารมาชี้แจง โดยใช้ห้องประชุมชั้น 2 ของโรงงาน และได้เชิญตัวแทนชาวบ้านจำนวนหนึ่ง มาร่วมฟังการประชุมด้วยโดยมีชาวบ้านอีกกว่า 200 คนรออยู่หน้าบริษัทเพื่อรอคำตอบ โดยคณะผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เดินทางไปถึงพบว่ากลิ่นของแก๊สไข่เน่าจางลงกว่าทุกครั้งที่มาตรวจสอบแต่ยังส่งกลิ่นเหม็นเน่าจนแสบจมูกอย่างชัดเจนเหมือนเคย

ส่วนในห้องประชุมของโรงงาน ในการประชุมทางบริษัทได้ใช้วิดีโอพรีเซนต์ ให้คณะผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ชาวบ้าน และสื่อมวลชนได้รับทราบถึงการดำเนินการของบริษัท โดยอ้างว่า ที่ผ่านมา บริษัทยังไม่ได้ใช้การบำบัดกลิ่นทำให้อาจมีกลิ่นรั่วไหลออกมาบ้าง แต่ปัจจุบันทางบริษัทได้นำระบบไบโอดีเซลมาบำบัดกลิ่นทำให้จางลง โดยมีความพยายามจะดำเนินการให้เสร็จสมบูรณ์ภายใน 2 สัปดาห์ คาดว่าจะเสร็จสิ้น

ส่วนพื้นที่ทิ้งน้ำเสียในเขต ต.วังศาลา และ ต.วังขนาย อ.ท่าม่วงนั้น มีน้ำอยู่ในความจุประมาณ 6 หมื่นคิว ซึ่งเป็นน้ำเสียกักเก็บเก่ามาเกือบ 1 ปีแล้ว อย่างไรก็ตาม บริษัทจะใช้วิธีการดูดขึ้นมาเพื่อใช้บำบัดโดยการดูดน้ำจากบ่อไปผลิตไปโอดีเซล โดยใช้วันละ 1 พันคิว คาดว่าประมาณ 2 เดือนน้ำจะหมดบ่อกักแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ทางด้าน นายสมชัย สนฉัตรทอง หัวหน้ากลุ่มงานสาระสังคม (ค.ศ.3 เทียบเท่าระดับ 8) โรงเรียนท่าม่วงราษฎร์บำรุง 1 ในแกนนำชาวบ้านที่เป็นตัวแทนเข้าประชุม กล่าวในที่ประชุม ว่า วันนี้ทางบริษัทต้องยอมรับว่าที่ผ่านมามีกลิ่นเน่าเหม็นของแก๊สไข่เน่าฟุ้งกระจายไปทั่วทั้ง อ.ท่าม่วง ทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบจำนวนมาก นอกจากนี้ พื้นที่ปลูกเกษตรกรรมรอบๆ ที่ตั้งบริษัท ยังมีน้ำเสียไหลลงใต้ดิน ทำให้จากที่ทำการเกษตรได้ 3-4 ครั้งต่อปี กลับทำได้เพียง 1 ครั้งต่อปี บางรายทำกินไม่ได้เลย ซึ่งการตรวจสุขภาพนั้นทางบริษัทจะต้องออกค่าใช้จ่ายให้ทางชาวบ้านด้วย และต้องมีหลักประกันสุขภาพให้แก่ชาวบ้านอีกด้วย ซึ่งทางตัวแทนบริษัทได้ตอบปฏิเสธโดยอ้างว่าจะตรวจเฉพาะรายที่ได้รับผลกระทบจากบริษัทเท่านั้น จึงจะรับผิดชอบ หากมีการตรวจทุกรายในพื้นที่ต้องรายงานให้ผู้บริหารระดับใหญ่ทราบเสียก่อน ไม่สามารถตอบแทนได้

โดยในระหว่างการประชุม นายแพทย์ พนัส โสภณพงษ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ได้กล่าวในที่ประชุมว่า บริษัทต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาทางบริษัทได้ดำเนินการโดยไม่ได้เห็นความสำคัญต่อสุขภาพของชาวบ้าน กลับปล่อยปละละเลยให้เกิดปัญหา ฉะนั้นทางบริษัทจะปฏิเสธความรับผิดชอบนี้ไม่ได้ การตรวจสอบสุขภาพจะสุ่มตรวจไม่ได้ ทุกคนต้องตรวจหมดเพื่อความแน่นอน โดยค่าใช้จ่ายบริษัทจะต้องรับผิดชอบ ซึ่งการประชุมใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษจึงเสร็จสิ้น โดย นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผวจ.กาญจนบุรี ได้กล่าวย้ำว่า พื้นที่การเกษตรของชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากน้ำเสียของโรงงานที่ไหลไปชัดเจนนั้นทางโรงงานจะต้องรับผิดชอบ และการแก้ไขปัญหากลิ่นเน่าเหม็นนั้นจะต้องแก้ไขโดยเร็ว

จากนั้นคณะของผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้เดินทางไปยังบริษัท ปภพ รีนิว เอเบิล จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 60/9 หมู่ 1 ต.วังขนาย อ.ท่าม่วง ซึ่งเป็นบริษัทเครือเดียวกัน พบว่ามีกลิ่นเหม็นจากแก๊สไข่เน่ารุนแรงมากจนแสบจมูก ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ต้องนำผ้าปิดจมูกมาแจกเจ้าหน้าที่พร้อมสื่อมวลชนและชาวบ้านที่มาตรวจสอบ จนนายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ถึงกับบ่นว่าอ้วกจะแตก จากนั้นชาวบ้านจึงพาคณะของผู้ว่าราชการจังหวัดไปตรวจสอบที่ทิ้งน้ำเสียของบริษัท

นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวกับชาวบ้านกว่า 200 คนที่เดินทางมาร่วมตรวจสอบว่า ในวันนี้ตนได้นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ เข้าตรวจสอบพื้นที่จริงเพื่อดูข้อเท็จจริง ต้องยอมรับว่ามีกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงจริงๆ อย่างที่ได้รับการร้องเรียน ตนขอยืนยันว่ากลิ่นเน่าเหม็นของแก๊สไข่เน่าทางบริษัทจะต้องดำเนินการแก้ไขให้ได้ภายใน 2 สัปดาห์ ส่วนบ่อทิ้งน้ำเสียจะต้องสูบไปเพื่อบำบัดภายใน 2 เดือน ตามที่บริษัทชี้แจง หากไม่ดำเนินการภายในเวลาที่กำหนดตนจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด โดยจะสั่งปิดการดำเนินการของบริษัททันทีเบื้องต้น 30 วัน และหากยังไม่แก้ไขคงต้องปิดไม่มีกำหนด

นอกจากนี้ ทางบริษัทต้องเร่งดูแลเรื่องปัญหาสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากทราบว่ามีไม่ต่ำกว่า 1,500 ครับเรือนอย่างน้อยที่ได้รับผลกระทบ เมื่อชาวบ้านเดือดร้อนบริษัทที่มาตั้งในพื้นที่ต้องแก้ไข จะมาอ้างว่ามีบริษัทหรือโรงงานจำนวนมากบริเวณนี้ไม่ได้ เพราะเท่าที่ตรวจสอบพบว่าโรงงานหรือบริษัทอื่นๆ ได้ดำเนินการแก้ไขเรื่องมลภาวะเป็นพิษเป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินการเรื่องงบการศึกษาให้ประชาชนในพื้นที่และงบพัฒนาทั้งเรื่องสุขภาพ ความเป็นอยู่เป็นต้น สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่บริษัททั้ง 2 แห่งนี้ละเลยไป จึงได้กำชับให้เห็นความสำคัญของมวลชนในพื้นที่ด้วย ตนยืนยันว่าปัญหาจะต้องจบลงให้ได้ในขณะที่ตนเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และหากตนย้ายไปจะต้องไม่มีปัญหากลับมาอีกเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ไม่ใช่จะมาแก้ไขเมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีคนใหม่มาก็มาแก้ไขอีก มันไม่ถูกเรื่อง ตนยอมไม่ได้ และขอยืนยันว่า จะดำเนินการให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนได้รับความยุติธรรมและการช่วยเหลืออย่างถูกหลักตามระเบียบต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น