กาญจนบุรี - สสจ.กาญจนบุรี สร้างกระแสรณรงค์ให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ กินพอดี ลดหวาน มัน เค็ม เพิ่มผักผลไม้ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ลดเหล้า งดบุหรี่ และปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตที่มีความสมดุล พอดี พอเพียง เพื่อสร้างสุขภาพดี ลดปัญหาการเจ็บป่วย
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (25 เม.ย.) นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยและเสียชีวิต โดยมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ปีละ 35,050 ราย ป่วยต้องนอนโรงพยาบาลกว่า 6 แสนราย เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวในรอบ 10 ปี
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี จึงสร้างกระแสรณรงค์ให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ กินพอดี ลดหวาน มัน เค็ม เพิ่มผัก ผลไม้ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ลดเหล้า งดบุหรี่ มีวิถีชีวิตที่พอเพียง เพื่อสร้างกระแสการป้องกัน ควบคุมโรคหัวใจและหลอดเลือด เพื่อให้ประชาชนเข้าใจความรุนแรงของโรค รู้วิธีการปรับวิถีการดำเนินชีวิตให้สมดุล
เนื่องจากโรคดังกล่าวป้องกันได้และมีส่วนร่วมในการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้สมดุลโดยเริ่มต้นที่ครอบครัวของตนเองและขยายไปยังชุมชนต่อไป โดยมี 5 กลุ่มเป้าหมายในการดำเนินงานลดหวาน มัน เค็ม ลดอ้วน ลดโรค ดังนี้
(1) สถานบริการสาธารณสุข ได้แก่ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
(2) หมู่บ้านและชุมชน หมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ
(3) โรงเรียน
(4) ศูนย์เด็กเล็ก
และ (5) ร้านอาหารที่ได้รับป้ายอาหารสะอาดรสชาติอร่อย สร้างภาคีเครือข่าย ลด หวาน มัน เค็ม ลดโรคเรื้อรัง ร่วมกับองค์กรไร้พุง และสานต่อการดำเนินงานโครงการจังหวัดกาญจนบุรีไร้พุงมุ่งสู่สุขภาพดี ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
โดยกระบวนการพัฒนาการดำเนินงานลดหวาน มัน เค็ม ลดอ้วน ลดโรค ประกอบด้วย การมีนโยบายและการดำเนินงานลดหวาน มัน เค็ม ลดอ้วน ลดโรค จัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพ มีการดำเนินงานสื่อสารและสร้างกระแสสังคม มีแผนสุขภาพตำบลลด หวาน มัน เค็ม ลดโรคเรื้อรัง มีการสร้างเครือข่าย แกนนำสุขภาพในชุมชน มีการคัดกรองและสำรวจพฤติกรรมบริโภค/ออกกำลังกาย
ประเมินภาวะโภชนาการ วัดรอบเอว ชั่งน้ำหนัก สำรวจปริมาณการใช้น้ำตาล น้ำมัน เกลือ น้ำปลา ซอสปรุงรส และกิจกรรมออกกำลังภายในหน่วยงานและในชุมชน ติดตามเยี่ยมบ้านกลุ่มเสี่ยง รวมทั้งสนับสนุนให้เกิดนวัตกรรมในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเพื่อลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
หากสามารถปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสมได้จะช่วยแก้ไขปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของความเจ็บป่วยและเสียชีวิตดังกล่าวได้
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (25 เม.ย.) นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยและเสียชีวิต โดยมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ปีละ 35,050 ราย ป่วยต้องนอนโรงพยาบาลกว่า 6 แสนราย เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวในรอบ 10 ปี
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี จึงสร้างกระแสรณรงค์ให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ กินพอดี ลดหวาน มัน เค็ม เพิ่มผัก ผลไม้ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ลดเหล้า งดบุหรี่ มีวิถีชีวิตที่พอเพียง เพื่อสร้างกระแสการป้องกัน ควบคุมโรคหัวใจและหลอดเลือด เพื่อให้ประชาชนเข้าใจความรุนแรงของโรค รู้วิธีการปรับวิถีการดำเนินชีวิตให้สมดุล
เนื่องจากโรคดังกล่าวป้องกันได้และมีส่วนร่วมในการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้สมดุลโดยเริ่มต้นที่ครอบครัวของตนเองและขยายไปยังชุมชนต่อไป โดยมี 5 กลุ่มเป้าหมายในการดำเนินงานลดหวาน มัน เค็ม ลดอ้วน ลดโรค ดังนี้
(1) สถานบริการสาธารณสุข ได้แก่ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
(2) หมู่บ้านและชุมชน หมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ
(3) โรงเรียน
(4) ศูนย์เด็กเล็ก
และ (5) ร้านอาหารที่ได้รับป้ายอาหารสะอาดรสชาติอร่อย สร้างภาคีเครือข่าย ลด หวาน มัน เค็ม ลดโรคเรื้อรัง ร่วมกับองค์กรไร้พุง และสานต่อการดำเนินงานโครงการจังหวัดกาญจนบุรีไร้พุงมุ่งสู่สุขภาพดี ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
โดยกระบวนการพัฒนาการดำเนินงานลดหวาน มัน เค็ม ลดอ้วน ลดโรค ประกอบด้วย การมีนโยบายและการดำเนินงานลดหวาน มัน เค็ม ลดอ้วน ลดโรค จัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพ มีการดำเนินงานสื่อสารและสร้างกระแสสังคม มีแผนสุขภาพตำบลลด หวาน มัน เค็ม ลดโรคเรื้อรัง มีการสร้างเครือข่าย แกนนำสุขภาพในชุมชน มีการคัดกรองและสำรวจพฤติกรรมบริโภค/ออกกำลังกาย
ประเมินภาวะโภชนาการ วัดรอบเอว ชั่งน้ำหนัก สำรวจปริมาณการใช้น้ำตาล น้ำมัน เกลือ น้ำปลา ซอสปรุงรส และกิจกรรมออกกำลังภายในหน่วยงานและในชุมชน ติดตามเยี่ยมบ้านกลุ่มเสี่ยง รวมทั้งสนับสนุนให้เกิดนวัตกรรมในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเพื่อลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
หากสามารถปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสมได้จะช่วยแก้ไขปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของความเจ็บป่วยและเสียชีวิตดังกล่าวได้
