ปอศ.ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ลุยตรวจจับแหล่งผลิตซอสปรุงรส และน้ำปลาปลอม มูลค่ากว่า 3 ล้าน ชี้ สินค้าไม่ได้มาตรฐานเหล่านี้ทำคล้ายของจริงมาก จะถูกส่งขายตามตลาดนัด ตลาดสด หากบริโภคจะเป็นอันตรายต่อร่างกาย
วันนี้ (30 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ พล.ต.ต.สุเทพ เดชรักษา รองผบช.ก. พ.ต.อ.กิตติ สะเภาทอง รองผบก.ปอศ.แถลงการจับกุมสินค้าประเภทซอสปรุงรส น้ำปลาปลอม และตลับหมึกพิมพ์ปลอม รวมมูลค่าความเสียหาย 3,300,000 บาท
สำหรับการจับกุมสินค้าประเภทซอสปรุงรส และน้ำปลาปลอม สืบเนื่องจากการเฝ้าติดตามและขยายผลการสืบสวนการจับกุมแหล่งผลิต และแหล่งพักสินค้าประเภทซอสปรุงรส และน้ำปลาปลอม โดยรายแรกเข้าตรวจค้นโรงงานไม่มีชื่อ เลขที่ 14 ม.4 ต.วัดสำโรง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ได้ร่วมกันจับกุม นายเสถียร สะมะลี อายุ 19 ปี และ นายเอ นามสมมติ (เยาวชน) ขณะกำลังติดฉลากขวดน้ำปลา และซีอิ๊วปลอมอยู่ และได้ตรวจยึดน้ำปลาตราทิพรสปลอม จำนวน 3,600 ขวด ซีอิ๊วขาวตราเด็กสมบูรณ์ปลอม จำนวน 660 ขวด พบขวดเปล่าสำหรับบรรจุ ฉลากปลอมสินค้า และลังใส่ขวดปลอมจำนวนมาก และเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท สำหรับพิมพ์วันเดือนปีผลิตติดขวด จำนวน 1 เครื่อง มูลค่าความเสียหาย 2 ล้านบาท
รายที่ 2 ได้เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 60 ม.9 ซอยไอรยา ถนนรังสิต-นครนายก คลอง 12 ต.หนองสามวัง อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ได้ร่วมกันจับกุม นายจักรพงษ์ สุขทวี อายุ 28 ปี และได้ตรวจยึดของกลาง ซอสปรุงรสตราเด็กสมบูรณ์ปลอม จำนวน 309 ขวด พบขวดเปล่าสำหรับบรรจุ ฉลากปลอมสินค้า และลังใส่ขวดปลอมจำนวนมาก มูลค่าความเสียหาย 5 แสนบาท
รายที่ 3 เข้าตรวจค้นบ้านภายในหมู่บ้านวาเลนไทน์ ซอยรามอินทรา 46 แยก 11 แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร โดยสืบทราบว่า บ้านดังกล่าวเป็นสถานที่ผลิตตลับหมึกพิมพ์ ตลับคาร์ทริดจ์ปลอม จนสามารถจับกุม นายวิเชียร กลับคง อายุ 33 ปี ซึ่งแสดงตัวเป็นผู้ดูแลบ้าน พร้อมตรวจยึดของกลางได้เป็นตลับหมึกพิมพ์ ตลับคาร์ทริดจ์ ยี่ห้อ HP, CANON และอุปกรณ์ต่างๆ ปลอม จำนวนมากมูลค่าความเสียหาย 8 แสนบาท
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ทางกระทรวงพาณิชย์มีนโยบายในการปราบปรามสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์เป็นกรณีพิเศษ โดยเฉพาะในหมวดอาหาร เนื่องจากหากสินค้าปลอมแปลงเหล่านี้กระจายไปถึงผู้บริโภคก็จะเป็นอันตราย ซึ่งน้ำปลาที่จับกุมได้ครั้งนี้ มีการพัฒนารูปแบบจนใกล้เคียงกับของจริงอย่างมาก ทั้งบรรจุภัณฑ์ ฉลาก ซึ่งมักถูกนำไปวางขายตามตลาดนัด ตลาดสด หากไม่สังเกตให้ดีก็จะไม่เห็นความแตกต่าง จึงฝากเตือนผู้บริโภคให้ซื้อสินค้าเหล่านี้จากร้านที่เชื่อถือได้ และของแท้สีน้ำปลาก็จะมีความใสมากกว่า หรือหมึกพิมพ์ก็ให้ซื้อตามร้านสินค้าไอทีที่มีใบรับรอง เนื่องจากสินค้าเหล่านี้ขั้นตอนการผลิตไม่ได้มาตรฐานไม่ถูกสุขอนามัย อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภคได้
นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับความผิดของผู้ปลอมเครื่องหมายการค้าเหล่านี้จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2535 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับเกิน 4 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ จะส่งสินค้าทั้งหมดให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตรวจพิสูจน์กระบวนการผลิตอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่า ใช้วัตถุดิบอะไรในการผลิต และไม่ถูกสุขอนามัยอย่างไร พร้อมกำชับให้ ปอศ.ดำเนินการสืบสวนขยายผลโรงงานอื่นๆ ที่ผลิตสินค้าปลอมในลักษณะเดียวกัน เพื่อกวาดล้างอย่างต่อเนื่องต่อไป
วันนี้ (30 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ พล.ต.ต.สุเทพ เดชรักษา รองผบช.ก. พ.ต.อ.กิตติ สะเภาทอง รองผบก.ปอศ.แถลงการจับกุมสินค้าประเภทซอสปรุงรส น้ำปลาปลอม และตลับหมึกพิมพ์ปลอม รวมมูลค่าความเสียหาย 3,300,000 บาท
สำหรับการจับกุมสินค้าประเภทซอสปรุงรส และน้ำปลาปลอม สืบเนื่องจากการเฝ้าติดตามและขยายผลการสืบสวนการจับกุมแหล่งผลิต และแหล่งพักสินค้าประเภทซอสปรุงรส และน้ำปลาปลอม โดยรายแรกเข้าตรวจค้นโรงงานไม่มีชื่อ เลขที่ 14 ม.4 ต.วัดสำโรง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ได้ร่วมกันจับกุม นายเสถียร สะมะลี อายุ 19 ปี และ นายเอ นามสมมติ (เยาวชน) ขณะกำลังติดฉลากขวดน้ำปลา และซีอิ๊วปลอมอยู่ และได้ตรวจยึดน้ำปลาตราทิพรสปลอม จำนวน 3,600 ขวด ซีอิ๊วขาวตราเด็กสมบูรณ์ปลอม จำนวน 660 ขวด พบขวดเปล่าสำหรับบรรจุ ฉลากปลอมสินค้า และลังใส่ขวดปลอมจำนวนมาก และเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท สำหรับพิมพ์วันเดือนปีผลิตติดขวด จำนวน 1 เครื่อง มูลค่าความเสียหาย 2 ล้านบาท
รายที่ 2 ได้เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 60 ม.9 ซอยไอรยา ถนนรังสิต-นครนายก คลอง 12 ต.หนองสามวัง อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ได้ร่วมกันจับกุม นายจักรพงษ์ สุขทวี อายุ 28 ปี และได้ตรวจยึดของกลาง ซอสปรุงรสตราเด็กสมบูรณ์ปลอม จำนวน 309 ขวด พบขวดเปล่าสำหรับบรรจุ ฉลากปลอมสินค้า และลังใส่ขวดปลอมจำนวนมาก มูลค่าความเสียหาย 5 แสนบาท
รายที่ 3 เข้าตรวจค้นบ้านภายในหมู่บ้านวาเลนไทน์ ซอยรามอินทรา 46 แยก 11 แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร โดยสืบทราบว่า บ้านดังกล่าวเป็นสถานที่ผลิตตลับหมึกพิมพ์ ตลับคาร์ทริดจ์ปลอม จนสามารถจับกุม นายวิเชียร กลับคง อายุ 33 ปี ซึ่งแสดงตัวเป็นผู้ดูแลบ้าน พร้อมตรวจยึดของกลางได้เป็นตลับหมึกพิมพ์ ตลับคาร์ทริดจ์ ยี่ห้อ HP, CANON และอุปกรณ์ต่างๆ ปลอม จำนวนมากมูลค่าความเสียหาย 8 แสนบาท
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ทางกระทรวงพาณิชย์มีนโยบายในการปราบปรามสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์เป็นกรณีพิเศษ โดยเฉพาะในหมวดอาหาร เนื่องจากหากสินค้าปลอมแปลงเหล่านี้กระจายไปถึงผู้บริโภคก็จะเป็นอันตราย ซึ่งน้ำปลาที่จับกุมได้ครั้งนี้ มีการพัฒนารูปแบบจนใกล้เคียงกับของจริงอย่างมาก ทั้งบรรจุภัณฑ์ ฉลาก ซึ่งมักถูกนำไปวางขายตามตลาดนัด ตลาดสด หากไม่สังเกตให้ดีก็จะไม่เห็นความแตกต่าง จึงฝากเตือนผู้บริโภคให้ซื้อสินค้าเหล่านี้จากร้านที่เชื่อถือได้ และของแท้สีน้ำปลาก็จะมีความใสมากกว่า หรือหมึกพิมพ์ก็ให้ซื้อตามร้านสินค้าไอทีที่มีใบรับรอง เนื่องจากสินค้าเหล่านี้ขั้นตอนการผลิตไม่ได้มาตรฐานไม่ถูกสุขอนามัย อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภคได้
นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับความผิดของผู้ปลอมเครื่องหมายการค้าเหล่านี้จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2535 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับเกิน 4 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ จะส่งสินค้าทั้งหมดให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตรวจพิสูจน์กระบวนการผลิตอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่า ใช้วัตถุดิบอะไรในการผลิต และไม่ถูกสุขอนามัยอย่างไร พร้อมกำชับให้ ปอศ.ดำเนินการสืบสวนขยายผลโรงงานอื่นๆ ที่ผลิตสินค้าปลอมในลักษณะเดียวกัน เพื่อกวาดล้างอย่างต่อเนื่องต่อไป
