ศรีสะเกษ - กองทัพภาคที่ 2 นำสื่อมวลชนบุกพิสูจน์โล่มนุษย์ที่ “เขาพระวิหาร” พบหญิงสาวชาวกัมพูชาอยู่ร่วมในหน่วยทหารเขมร พร้อมระดมรถถัง 11 คัน จอดจังก้าหันปากกระบอกปืนจ่อไทย พบเขมรเร่งสร้างบังเกอร์และอาคารถาวรเป็นบ้านเรือนหลายสิบหลัง ยึดพื้นที่ 4.6 ตร.กม.
วันนี้ (28 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พ.ท.สุรกิจ กาฬเนตร รอง ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และ พ.ต.รวิรักษ์ สัตตบุศย์ หัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือนที่บัญชาการกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ได้นำสื่อมวลชนทุกแขนงไปตรวจสอบสถานการณ์บริเวณเขาพระวิหารเพื่อให้ทราบถึงข้อเท็จจริงสถานการณ์การตรึงกำลังระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาที่บริเวณรอบเขาพระวิหาร
โดยจุดแรกที่ไปตรวจสอบเป็นบริเวณผามออีแดง พบว่า ทหารไทยกับนำเอากระสอบทรายมาเรียงตั้งเป็นบังเกอร์บริเวณฐานตรวจการส่วนหน้า ซึ่งสามารถมองเห็นปราสาทพระวิหารได้อย่างชัดเจน ขณะที่ทหารไทยได้เฝ้าสังเกตการณ์ดูความเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชาอย่างใกล้ชิด และพบว่าทหารกัมพูชาได้นำเอารถถัง 11 คัน เป็นรถถังรุ่นที 64 มาจอดอยู่ที่บริเวณบ้านซวายจรุม ด้านทิศตะวันออกของเขาพระวิหารและหันปากกระบอกปืนรถถังมายังเขตแดนไทย ห่างจากปราสาทพระวิหารและชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษประมาณ 3 กม.เท่านั้น
ต่อมา พ.ท.สุรกิจ กาฬเนตร รอง ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 ได้นำคณะสื่อมวลชนไปตรวจสอบที่บริเวณประตูเหล็กทางขึ้นปราสาทพระวิหาร ซึ่งขณะนี้ได้ถูกปิดตายและมีลูกกุญแจ 2 ลูก คล้องด้วยโซ่ปิดล็อกอยู่ โดยประตูเหล็กมีหญ้ารกปกคลุมและสามารถมองเห็นทหารกัมพูชากำลังทำการก่อสร้างบังเกอร์ที่บริเวณสะพานไม้ข้ามคลองก่อนถึงบริเวณเชิงบันไดทางขึ้นปราสาทพระวิหาร ซึ่งมีระยะห่างจากที่บริเวณทหารไทยตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ประมาณ 50 เมตรเท่านั้น
ต่อมาคณะสื่อมวลชนได้ไปทำการตรวจสอบที่บริเวณพลาญหินด้านทิศตะวันตกของปราสาทพระวิหาร ซึ่งมีทหารไทยตั้งฐานปฏิบัติการอยู่พบว่า ทหารกัมพูชากำลังทำการสร้างบังเกอร์อยู่บริเวณทางขึ้นปราสาทพระวิหารและได้มีการสร้างบังเกอร์เป็นแนวยาวตั้งแต่วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระไปจนถึงปราสาทโคปุระชั้นที่ 2 อีกทั้งทหารกัมพูชาได้มีการก่อสร้างอาคารถาวรเป็นบ้านเรือนอยู่หลายสิบหลังคาเรือน ซึ่งล้วนอยู่ในพื้นที่ปัญหา 4.6 ตารางกิโลเมตร (กม.)
ในขณะที่กลุ่มสื่อมวลชนกำลังทำการบันทึกภาพอยู่นั้น พบมีหญิงสาวชาวกัมพูชาออกมาจากบ้านและยืนเช็ดผมของตัวเองอยู่และเมื่อเห็นว่า สื่อมวลชนกำลังบันทึกภาพอยู่ได้รีบเดินหลบเข้าไปในบ้านซึ่งเป็นการยืนยัน ทหารกัมพูชามีการนำเอาโล่มนุษย์คือพลเรือนกัมพูชาทั้งผู้หญิงและเด็กมาเป็นโล่มนุษย์อยู่ในหน่วยทหาร รอบเขาพระวิหาร
พ.ท.สุรกิจ กาฬเนตร รอง ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า กรณีที่ทหารกัมพูชานำเอาพลเรือนทั้งผู้หญิงและเด็กเข้ามาอยู่ในบริเวณเขาพระวิหารนี้ มีมานานแล้ว แต่ไม่ทราบว่ามีจำนวนที่แน่นอนเท่าไร ทหารไทยที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่อย่างใกล้ชิดได้ยินเสียงเด็กและเสียงผู้หญิงอย่างชัดเจน เนื่องจากมีระยะอยู่ห่างกันเพียงประมาณ 20-30 เมตรเท่านั้น ทำให้พบว่ามีเด็กและหญิงชาวกัมพูชาเข้ามาอาศัยอยู่ในกลุ่มของทหารกัมพูชา
ซึ่งคาดว่าเป็นลูกเมียของทหารกัมพูชาทำให้กลุ่มพลเรือนชาวกัมพูชาเหล่านี้กลายเป็นโล่มนุษย์หากว่ามีการปะทะกันระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย ทำให้ทหารไทยยากลำบากต่อการปฏิบัติการและต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้อาวุธ
