xs
xsm
sm
md
lg

ชาวแปดริ้วครวญน้ำเสียปากอ่าวทำปลาตายหนี้ท่วมนับล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฉะเชิงเทรา - ชาวบ้านแปดริ้วครวญหลังเข้ายื่นฟ้องร้องต่อศาล เหตุโรงงานทำน้ำเสียที่ปากอ่าวบางปะกง ทำปลาตาย หนี้ท่วมนับล้านบาท เหตุต้นทุนทางอาชีพสูง เผยบางรายกำลังถูกไล่บี้ฟ้องร้องค่าปลาเหยื่อจากแพปลา หลังไร้เงินทุนจับจ่ายส่งคืนค่าวัตถุดิบ ที่เคยใช้นำมาเลี้ยงไปก่อนหน้า

วันนี้ (27 เม.ย.54) เวลา 14.30 น. นายธาตุทอง บุญรอด อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 ม.7 ต.บางปะกง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ขณะนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงในโป๊ะ และกระชังที่บริเวณปากอ่าวแม่น้ำบางปะกง ล้วนแต่มีหนี้สินท่วมท้นกันเกือบทุกราย หลังจากประสบปัญหาน้ำเสียจนเกิดความเสียหายขึ้นจากโรงงานรีไซเคิลยางรถยนต์แห่งหนึ่ง ที่ปล่อยให้มีสารพิษรั่วไหลออกมาและเป็นต้นเหตุทำให้ปลาตาย โดยเฉพาะตนเองนั้นมีหนี้สินอยู่มากถึงกว่า 2 ล้านบาท เนื่องจากการเลี้ยงปลากะพงนั้น เป็นอาชีพที่มีต้นทุนในการเลี้ยงสูง

โดยต้นทุนส่วนใหญ่นั้นเกิดจากค่าอาหาร ซึ่งเป็นเนื้อปลาสดที่ต้องไปรับมาจากแพปลา เพื่อนำมาใช้เลี้ยงปลากะพงทุกวัน ด้วยการใช้เครดิตจากการไปเชื่อเนื้อปลาสด มาจากเจ้าของแพปลาเพื่อนำมาเป็นอาหารให้แก่ปลากะพงกินก่อนล่วงหน้า และหลังจากจับปลาขายได้แล้วจึงจะนำเงินที่ได้ ไปจ่ายคืนให้เขา

ส่วนของตนเองนั้นได้ลงทุนเลี้ยงปลาไว้จำนวน 56 กระชัง ลงลูกพันธุ์ปลาไว้ในราคา ตัวละ 4 บาทจำนวน 5 แสนตัวเลี้ยงมาได้ประมาณ 7 เดือนกำลังใกล้จะจับขายได้แล้วเหลือระยะเวลาอีกเพียงแค่ประมาณครึ่งเดือนเศษก็มาเกิดโรคระบาดจากน้ำเสียเสียก่อนในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.54 ที่ผ่านมา จึงทำให้ปลากะพงที่ก็กำลังจะจับขายได้ในราคา กก.ละ 150-160 บาท เหลือเพียง กก.ละ 20 บาท ส่วนตัวที่ลอยตายจนเน่าแล้วก็ขายไม่ได้ ต้องช้อนทิ้งไปเป็นจำนวนมาก ขณะนี้จึงมีหนี้สินที่ติดค้างอยู่ประมาณ 2-3 ล้านบาท จากค่าอาหารปลา คือ ปลาสดที่ไปเชื่อเขามาในราคา กก.ละ 12 บาท ซึ่งในหนึ่งวันจะใช้เนื้อปลาสดประมาณ 800 กก.จึงมีค่าใช้จ่ายถึงวันละประมาณ 1 หมื่นบาท โดยขณะนี้ตนกำลังจะถูกฟ้องจากแพปลา เจ้าของเหยื่อแล้ว

"สำหรับอาการของปลากะพงในขณะที่เกิดปรากฎการณ์ลอยตายจากภาวะน้ำเสีย จนเกิดโรคระบาดนั้นเกล็ดปลาจะมีลักษณะฟูพอง มีบาดแผลทั่วทั้งลำตัว ลักษณะปลาจะอ่อนเพลียก่อนลอยตายขึ้นสู่เหนือน้ำ หากพบมีบาดแผลที่เกล็ดเพียงแผลเดียวก็จะลุกลามไปจนทั่วทั้งตัวอย่างรวดเร็ว" นายธาตุทอง กล่าว

ขณะที่นายมนตรี ศิริพงษ์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61/13 ม.8 ต.บางปะกง กล่าวว่า เลี้ยงปลากะพงขาว 10 กระชัง หลังเกิดปรากฎการณ์ปลาตายเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ขณะนี้ได้รับความเสียหายเป็นเงินกว่า 3 แสนบาท หลังได้มีการติดตามตรวจสอบดูถึงสาเหตุ ที่ทำให้น้ำเสียของชาวบ้านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนักวิชาการ และ อบต.สองคลอง จึงพบว่าสาเหตุของน้ำเสียนั้นเกิดจากโรงงานเผายางรถยนต์แห่งนี้ บริษัท ซิง ไล ฟา จำกัด ที่ได้แอบเข้ามาเช่าที่ราชพัสดุที่อยู่ใกล้กับบริเวณปากอ่าวแม่น้ำบางปะกง ติดกับลำคลองสาธารณะใช้เป็นสถานที่ในการเก็บกากของเสียจนมีสารพิษรั่วไหลออกมา โดยเฉพาะเวลาที่ตนลงไปงมดูแลกระชังปลาอยู่ภายในน้ำนั้นจะรู้สึกแสบคันไปทั่วทั้งตัว

ด้านนายทองคำ พวงพุ่ม อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 ม.1 ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ชาวบ้านผู้เลี้ยงปลากะพงในกระชังอีกราย กล่าวถึงความเสียหายว่า จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติอย่างมาก ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตลอด 23 ปี ตั้งแต่เริ่มเลี้ยงปลากะพงมา ที่ปลากะพงมีลักษณะเป็นแผลพุพองและลุกลามไปจนทั่วทั้งตัวอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งยังมีเลือดไหลซึมออกมาโดยรอบบาดแผลจนต้องช้อนทิ้งทั้งเช้าและเย็น ทั้งที่ปลาใกล้จะจับขายได้อยู่แล้ว

ที่ผ่านมาได้ลงทุนหมดค่าอาหารไปถึงเดือนละ 4-5 แสนบาท จากการเลี้ยงปลาจำนวน 20 กระชังใช้พันธุ์ปลาจำนวน 2 แสนตัวในราคาตัวละ 3.50 บาท รวมเป็นหนี้สินอยู่ในขณะนี้กว่า 1 ล้านบาทแล้วตอนนี้จึงยังไม่มีเงินที่จะลงทุนเลี้ยงปลาต่อไป หลังจากสภาพน้ำดีขึ้นมาบ้างแล้วในขณะนี้

กำลังโหลดความคิดเห็น