xs
xsm
sm
md
lg

“โฆษก ทภ.2” ชี้ไร้ผลไม่เจรจาทหารเขมรอีก - ลั่นทัพไทยพร้อมรบทุกรูปแบบไม่มีแพ้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ.อ.ประวิทย์ หูแก้ว โฆษก ทภ.2
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - โฆษก “ทภ. 2” ชี้ ไม่มีการเจรจากับฝ่ายทหารเขมรอีก เพราะไร้ผล ทุกอย่างขึ้นอยู่ “ฮุน เซน” ตัดสินใจคนเดียว มั่นใจกำลังพลของกองทัพภาคที่ 2 รับมือปะทะเขมรได้สบาย และไม่จำเป็นต้องขอกำลังทางอากาศเข้าสนับสนุน ลั่นรบเขมรไม่ว่ารูปแบบใดกองทัพไทยไม่ทางพ่ายแพ้

วันนี้ (25 เม.ย.) พ.อ.ประวิทย์ หูแก้ว รองเสนาธิการกองทัพภาคที่ 2 ในฐานะโฆษกกองทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายกัมพูชา กล่าวหาว่า ฝ่ายไทยใช้เครื่องบินรบโจมตี ว่า ตั้งแต่มีเหตุการณ์ปะทะกันขึ้นเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้กองทัพภาคที่ 2 ได้ใช้กองกำลังป้องกันชายแดนประจำตามปกติ ไม่เคยมีการใช้เครื่องบินรบของกองทัพอากาศมาสนับสนุนการสู้รบในครั้งนี้ เพราะกำลังของเรายังมีความสามารถในการสู้รบได้ ฉะนั้น จึงขอยืนยันว่า ไม่มีการใช้กำลังทางอากาศล่วงล้ำอธิปไตยของกัมพูชาอย่างแน่นอน

“จากการประเมินสถานการณ์ ณ ขณะนี้ ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องขอรับการสนับสนุนเครื่องบินรบ หรือกำลังทางอากาศจากกองทัพอากาศ และยืนยันว่า การสู้รบกับฝ่ายกัมพูชา ไม่ว่าจะรูปแบบใดความเป็นไปได้ที่ทางกองทัพไทยจะพ่ายแพ้นั้นเป็นไปไม่ได้ ไม่มีโอกาสเลย” พ.อ.ประวิทย์ กล่าว

พ.อ.ประวิทย์ กล่าวว่า สถานการณ์สู้รบกันระหว่างทหารไทย กับกัมพูชา ล่าสุด จนถึงขณะนี้ จากที่รายงานทราบว่า การปะทะได้คลี่คลายลงเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.ของวานนี้ (24 เม.ย.) และในช่วงค่ำเกิดการปะทะขึ้นอีก ซึ่งถือเป็นการปฏิบัติทางทหาร เนื่องจากทางฝ่ายกัมพูชา เห็นว่า มีการวางกำลังเผชิญหน้ากันจึงได้ส่งกองลาดตระเวนเข้ามาสอดแนมในเขตที่ตั้งของทหารไทย ทางฝ่ายทหารไทยพบเข้าจึงมีการปะทะกันเล็กน้อยด้วยอาวุธปืนเล็ก เหตุปะทะครั้งนี้ ทำให้ผู้บังคับหมวดชุดดังกล่าวยศร้อยโท ได้รับบาดเจ็บถูกสะเก็ดระเบิดระหว่างการปะทะ แต่ได้รับการผ่าตัดเอาสะเก็ดระเบิดออกเรียบร้อยและอาการล่าสุดปลอดภัย

ต่อข้อถามกรณีที่แม่ทัพภาคที่ 2 ออกมาระบุว่า จะไม่เจรจากับฝ่ายกัมพูชานั้น ข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร พ.อ.ประวิทย์ กล่าวว่า ความจริงแล้วทางผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ และทางแม่ทัพภาคที่ 2 ได้กำชับให้พยายามเจรจาพูดคุยกับผู้นำทหารในทุกระดับของฝ่ายกัมพูชาทุกครั้งที่เกิดการปะทะ เพื่อไม่ให้วงสู้รบขยายวงกว้างออกไปจากที่เป็นอยู่ ซึ่งถือเป็นการปฏิบัติตามนโยบายที่ทางผู้บัญชาการทหารบกได้ให้ไว้ และในการปฏิบัติกับเหตุการณ์ก็เช่นเดียวกันก่อนหน้านี้ทางทหารได้ยึดแนวทางนี้มาโดยตลอดเพื่อจำกัดวงของการสู้รบให้แคบลง

“แต่มา ณ ขณะนี้ทางกองทัพภาคที่ 2 มองว่า เมื่อมีการประสานการปฏิบัติระหว่างกันมาโดยตลอดแล้ว แต่ทางกัมพูชามีเพียงสมเด็จฯ ฮุน เซน ผู้นำประเทศกัมพูชาเป็นผู้ตัดสินใจได้เพียงคนเดียว ดังนั้นการประสานต่างๆ จึงไม่สัมฤทธิ์ผล” พ.อ.ประวิทย์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางกองทัพภาคที่ 2 พยายามทจำกัดพื้นที่ของการปะทะให้อยู่ในวงที่จำกัดมากที่สุด ซึ่งจะเห็นได้ว่าตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปราสาทตาควาย ขยายมาที่ปราสาทตาเมือนธม และเมื่อวานนี้การปะทะก็อยู่ในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธมเท่านั้น ยังไม่มีการขยายออกไปที่อื่นโดยเฉพาะด้านปราสาทเขาพระวิหาร พ.อ.ประวิทย์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น