สุรินทร์ - เครื่องบินเอฟ 16 บินโฉบชายแดนสุรินทร์ ใกล้จุดปะทะ “ตาควาย-ตาเมือนธม” ทหารเขมรแตกตื่นวิ่งหนีตายเข้าหลุมหลบภัยจ้าละหวั่น ล่าสุด เวลา 18.00 น.เปิดฉากปะทะกันอย่างหนักขึ้นอีกที่ “ปราสาทตาควาย” เผย ผลปะทะ 24 เม.ย.ทหารเขมรดับอื้อ 14 นาย มีนายทหารระดับสูงรวมอยู่ด้วย
วันนี้ (25 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านประสาทตาควาย และ ปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งวันนี้ได้เปิดฉากปะทะติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ตั้งแต่เวลาประมาณ 10.00 น.เป็นต้นมา นั้น ล่าสุด ช่วงบ่ายวันนี้เสียงปืนกล ปืน ค.ยิงปะทะกันที่บริเวณชายแดนปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย ได้เงียบลงตั้งแต่เวลาประมาณ 12.00 น.เป็นต้นมา ท่ามกลางมีลือสะพัดว่า จะมีการปะทะกันครั้งใหญ่เกิดขึ้น และเจ้าหน้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 ได้แจ้งเตือนให้ทุกฝ่ายเฝ้าระวังการสู้รบครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นดังกล่าวด้วย
ในเวลาประมาณ 12.00 น.ปรากฏว่า ได้มีเครื่องบินรบของไทย คาดว่า เป็นเครื่องบินเอฟ 16 ขึ้นบินลาดตระเวนใกล้กับพื้นที่ชายแดนปราสาทตาควาย และ ปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก ทำให้เจ้าหน้าที่ไทยและประชาชนต่างพากันมองดูบนท้องฟ้าด้วยความสนใจ ขณะที่ทหารไทยตรวจการณ์ พบว่า ทหารกัมพูชาได้พากันแตกตื่นเครื่องบินรบของไทย วิ่งลงหลุมหลบภัยกันจ้าละหวั่น
ล่าสุด เมื่อเวลา 18.05 น.ที่ผ่านมา ทหารไทย และทหารกัมพูชา ได้เปิดฉากยิงถล่มกันอย่างหนักขึ้นอีกครั้ง ที่บริเวณชายแดนปราสาทตาควาย บ.ไทยนิยมพัฒนา ต.บักได โดยได้ยินเสียงปืนอาวุธเบาและอาวุธ ทั้งปืนอาก้า ปืนเอ็ม 16 ปืนกล ปืน ค.และปืนใหญ่ ยิงต่อสู้ดังสนั่นหวั่นไหวอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การสู้รบกันระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณชายแดนด้าน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา (22-24 เม.ย.) ได้มีกระสุนปืนไร้แรงสะท้อน ของทหารกัมพูชา ยิงเข้าตกที่บ้านหนองคันนาหมู่ที่ 8 ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านชายแดนใกล้ปราสาทตาเมือนธมมากที่สุด รวมจำนวน 14 ลูก ระเบิด 2 ลูกไม่ระเบิด 12 ลูก ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารไทย ระบุว่า กระสุนปืนของทหารกัมพูชาดังกล่าว มีสภาพเก่า และการยิงไม่มีประสิทธิภาพ
ส่วนการปะทะกันระหว่างทหารกัมพูชา กับทหารไทย เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา มีรายงานพบว่า ทหารกัมพูชาเสียชีวิตจากการเข้าโจมตีพยายามบุกยึดปราสาทตาควาย และตาเมือนธมครั้งนี้จำนวน 14 นาย บาดเจ็บอีกจำนวนมาก และหนึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิตเป็นนายทหารผู้บังคับบัญชาระดับสูงรวมอยู่ด้วย ซึ่งมีชาวบ้านในพื้นที่ได้รับแจ้งพบเห็นทหารกัมพูชาใช้รถกระบะขนศพทหารเขมรออกไปจากพื้นที่ จำนวน 2 คันรถ คันละ 7 ศพ ดังกล่าว
