สุรินทร์ - “ปู่จิ้น” มท.1 ลงพื้นที่เยี่ยมมอบสิ่งของประชาชนผู้ประสบภัย การสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ สั่งผู้ว่าฯ ฝ่ายปกครองช่วยเหลือดูแล ปชช.ผู้เดือดร้อนอย่างทั่วถึง ขณะอธิบดี ปภ.เผย ราษฎรชายแดนสุรินทร์ หนีตาย 2.6 หมื่นคน เข้าอยู่ศูนย์อพยพ 22 แห่ง ใน 3 อำเภอ สั่ง ปภ.จาก 5 เขต ระดมกำลัง-รถผลิตน้ำดื่ม-เต็นท์-สุขาเคลื่อนที่ ช่วยเหลือเต็มที่
วันนี้ (25 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่นิคมสร้างตนเอง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง กระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมประชาชนผู้ประสบภัยจากการสู้รบระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ที่ ศูนย์อพยพชั่วคราวนิคมสร้างตนเอง อ.ปราสาท และได้ร่วมประชุมหารือ กับ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัด จ.สุรินทร์, บุรีรัมย์ และ จ.ศรีสะเกษ รวมถึงนายอำเภอที่มีเขตพื้นที่ติดชายแดนไทย-กัมพูชา และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์ในพื้นที่เหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สุรินทร์ พร้อมมอบนโยบาย จากนั้นพบปะและมอบถุงยังชีพแก่ราษฎรที่ประสบภัยจากการสู้รบ
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตนเดินทางลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ เนื่องจากเหตุการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนบริเวณปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ สุรินทร์ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ และเน้นย้ำเรื่องสำคัญ เพื่อความมั่นคงของประเทศและความปลอดภัยของประชาชน ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และฝ่ายปกครองเร่งช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุปะทะอย่างทั่วถึง
พร้อมทั้งได้สร้างความเข้าใจและสร้างขวัญให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างเร่งด่วน อย่าให้หลงเชื่อข่าวลือ พร้อมกันนี้ ในจุดรองรับผู้อพยพ ขอให้ดูแลเรื่องอาหาร น้ำดื่ม และยารักษาโรค ให้เพียงพอต่อความต้องการ รวมทั้งดูแลทรัพย์สินของประชาชนในระหว่างอพยพออกจากบ้านเรือนด้วย
“ขอชื่นชมทุกหน่วยงานที่ได้ร่วมมือกันทำงานอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และข้าราชการทุกคน แม้หากเหตุการณ์สงบลง ก็ขอให้มีการซักซ้อมแผนพื้นที่ส่วนหลังอย่างสม่ำเสมอ หากเกิดกรณีฉุกเฉินหรือเหตุการณ์ลุกลามบานปลาย จะได้สามารถสั่งการได้อย่างฉับไว และบริหารพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายชวรัตน์ กล่าว
ด้าน นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึงเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.ถึงขณะนี้ ว่า ส่งผลให้ราษฎรพื้นที่ จ.สุรินทร์ ได้รับความเดือดร้อน 2 ตำบล 36 หมู่บ้าน ได้แก่ ต.ตาเมียง และ ต.บักได อ.พนมดงรัก ทหารเสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บ 33 ราย ทั้งนี้ ได้อพยพราษฎรประมาณ 25,942 คน ไปอาศัยที่จุดรองรับการอพยพ 22 จุด ได้แก่ 1.จุดรองรับผู้อพยพ อ.พนมดงรัก 3 จุด จำนวนผู้อพยพ 5,292 คน 2.จุดรองรับผู้อพยพ อ.กาบเชิง 4 จุด จำนวน ผู้อพยพ 3,817 คน 3.จุดรองรับผู้อพยพ อ.ปราสาท 13 จุด ผู้อพยพ 15,719 คน และ 4.จุดรองรับผู้อพยพ อ.สังขะ 2 จุด ผู้อพยพ 1,114 คน
นายวิบูลย์ กล่าวต่อว่า ทางปภ.ได้สั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 3 ปราจีนบุรี, ปภ. เขต 5 นครราชสีมา, ปภ.เขต 6 ขอนแก่น, ปภ.เขต 7 สกลนคร, ปภ.เขต 13 อุบลราชธานี สนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ โดยจัดเจ้าหน้าที่ จำนวน 34 นาย พร้อมรถผลิตน้ำดื่ม 4 คัน รถไฟฟ้าส่องสว่าง 5 คัน รถบรรทุกน้ำ 14 คัน เต็นท์ 420 หลัง รถบรรทุกขนาดใหญ่ 2 คัน สุขาเคลื่อนที่ 60 หลัง ออกให้บริการประชาชนตามจุดรองรับการอพยพต่างๆ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
