กลุ่ม ผรท.ประกาศดับเครื่องชนนายอำเภอสมเด็จ จี้ย้ายออกพื้นที่ก่อนสอบสวน

กาฬสินธุ์ - กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยหรือ ผรท.(2) สี่ภาค ยกขบวนแจ้งจับ นายอำเภอสมเด็จ ถึงท้องที่พร้อมยกเครื่องเสียงเปิดปราศรัยอัดยับ “รักษ์ ลี้ทรงศักดิ์” ถึงหน้าอำเภอ จี้ให้ย้ายออกพื้นที่ก่อนสอบสวน ด้านตำรวจเตรียมทำสำนวนสรุปส่ง ป.ป.ช.ก่อนฟ้องศาล ด้านผู้ว่าฯ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่ายเชื่อนายอำเภอไม่มีเจตนา ทำร้ายผู้ชุมชนลั่นยึดหลักปรองดองให้ ผรท.ใจเย็นๆรอรับการช่วยเหลือ

กรณีความขัดแย้งระหว่างกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย หรือ ผรท.(2) สี่ภาค กับนายอำเภอสมเด็จ ซึ่งกลุ่ม ผรท.อ้างว่าได้เข้าขัดขวางการชุมนุมและมีพฤติกรรมเข้าทำร้ายร่างกาย ม๊อบ ผรท. ที่กำลังทำการปิดถนนสี่แยกอำเภอสมเด็จ ระหว่างเรียกร้องให้รัฐบาลจ่ายเงินชนเชยในการประกอบอาชีพและที่ผ่านมาได้เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อวันนี้( 7 เม.ย.) เวลา 09.30 น.ที่หน้า สภ.สมเด็จ อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ นายบุญใส ก้อนดินจี่ แกนนำกลุ่ม ผรท.(2) สี่ภาค พร้อมด้วยกลุ่ม ผรท.เกือบ 100 คนได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.สุพรรณ ภูแล่นกี่ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สภ.สมเด็จ ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุให้ดำเนินคดีอาญากับ นายรักษ์ ลี้ทรงศักดิ์ นายอำเภอสมเด็จอย่างถึงที่สุด โดยนำหลักฐานซีดีภาพเคลื่อนไหวพฤติกรรมของนายอำเภอที่พยายามทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุม

พร้อมกับนำธงแดงสัญลักษณ์ของกลุ่ม เครื่องเสียงทำการเปิดปราศรัยโจมตีนายอำเภออย่างรุนแรง จากนั้นยังได้ยกขบวนไปเปิดปราศรัยต่อที่หน้าที่ว่าการอำเภอสมเด็จท่ามกลางความตื่นตลึงของประชาชนที่มาติดต่อราชการ แต่วันในนี้ มีเพียง นายพิบูลย์ สุวรรณศรี ปลัดอาวุโสรักษาราชการแทน ทั้งนี้กลุ่ม ผรท.ประกาศที่จะติดตามผลคดีและเรียกร้องให้จังหวัดย้าย นายอำเภอออกจากพื้นที่ก่อนทำการสอบสวน

นายบุญใส ก้อนดินจี่ แกนนำกลุ่ม ผรท.(2) สี่ภาค กล่าวว่า พฤติกรรมของนายรักษ์ ลี้ทรงศักดิ์นายอำเภอสมเด็จ ได้สร้างความเจ็บช้ำใจให้กับกลุ่ม ผรท.เป็นอย่างมาก เพราะการเคลื่อนไหวเรียกร้องเงินชดเชยเป็นการประท้วงเพื่อให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาให้กับ ผรท.ที่ตกค้างก่อนที่จะมีการยุบสภา

แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เสมือนเป็นการท้าทายและทำงานสวนทางกับนโยบายมหาดไทยที่มีหน้าที่ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชน ไม่ใช่เข้าข่มขู่ทำร้ายประชาชน ดังนั้นเพื่อให้ผลคดีเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงได้เข้ามาแจ้งความยังท้องที่เกิดเหตุให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

“ขณะนี้พวกผมต้องการให้ตำรวจเร่งทำการตรวจสอบหลักฐานและสอบปากคำหรือทำการเคลื่อนไหวทางคดีอย่างเต็มที่ เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นจากน้ำมือข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่เรียกว่า นายอำเภอ เป็นเรื่องที่จะต้องวัดใจ เพราะถึงแม้ว่าทางนายอำเภอจะทำการแจ้งความเราก็พร้อมที่จะต่อสู้ เพื่อให้ความจริงปรากฏ ซึ่งหากในวันที่ 11 เมษายนนี้ ซึ่งจะต้องมีคำตอบจากรัฐบาลถึงความคืบหน้าในการช่วยเหลือกลุ่ม ผรท. แต่ไม่ได้รับคำตอบ ต่อไปคงจะมีการปิดถนนที่จะเอามวลชนมากกว่า 3 พันคนเข้าปิดทุกไฟแดงอย่างแน่นอน” แกนนำ ผรท.กล่าว

พ.ต.ท.สุพรรณ ภูแล่นกี่ รอง ผกก.ป.สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจได้ทำการรับแจ้งความจาก กลุ่ม ผรท.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในส่วนของขั้นตอนการทำงานนั้น จะรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนจะเริ่มทำสำนวนเพื่อรวบรวมหลักฐานส่งไปยัง ปปช. เห็นชอบ เพราะคดีนี้เกี่ยวพันกับข้าราชการของรัฐ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรนั้นจะฟ้องหรือไม่ฟ้องก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล

ด้าน นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ปัญหานี้ขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายแต่เชื่อว่า นายอำเภอสมเด็จไม่มีเจตนาทำร้ายผู้ชุมนุม และขอให้กลุ่ม ผรท.ใจเย็นๆ ซึ่งขณะนี้การจ่ายเงินชดเชยรัฐบาลกำลังดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มที่แล้ว