พระนครศรีอยุธยา - ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยอมรับบริษัทขนาดใหญ่ในนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดฯ เริ่มใช้ ม.75 กับพนักงานที่ให้หยุดปฏิบัติงานแล้ว หลังชิ้นส่วนสำคัญไม่สามารถส่งจากญี่ปุ่นมาประกอบในไทยได้ ขณะที่สถานการณ์แรงงานในจังหวัดฯมีแนวโน้มปลดพนักงานเหมือน 2 ปีที่ผ่านมา
นายทศพล วังศิลาบัตร ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ขณะนี้มีหลายบริษัทในนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่เริ่มใช้มาตรา 75 กับพนักงานในนิคมอุตสาหกรรมของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแล้ว โดยเมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมาเป็นวันแรกที่บริษัทผลิตอุปกรณ์ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (นิคอน) หยุดการผลิตใน 2 พื้นที่ของบริษัทโดยใช้มาตรา 75 กับพนักงานที่ให้หยุดปฏิบัติงานและหลังจากเทศกาลสงกรานต์แล้ว จึงจะพิจารณาให้พนักงานกลับเข้ามาทำงานอีกครั้ง
ทั้งนี้ จำนวนพนักงานที่ให้หยุดปฏิบัติงานชั่วคราวมีราว 1,500 คน แต่ทั้งหมดยังคงได้รับเงินเดือน 2 ใน 3 ต่อไป โดยสาเหตุที่มีการหยุดการผลิตชั่วคราวของบริษัทขนาดใหญ่ในครั้งนี้ เป็นเพราะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นที่สำรองไว้ก่อนหน้านี้หมดลง และมีการสั่งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาอีก แต่ญี่ปุ่นไม่สามารถนำเข้ามาได้ เพราะการกูประเทศของญี่ปุ่น โดยเฉพาะการป้องกันกัมมันตรังสียังคงเป็นไปอย่างยากลำบาก ทำให้บริษัทขนาดใหญ่ดังกล่าวต้องลดกำลังการผลิตลง
นายทศพลกล่าวต่อว่า จากการสำรวจอย่างละเอียดของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่ามีแนวโน้มที่หลายบริษัทในนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่จะต้องนำเข้าอุปกรณ์ชิ้นส่วนหลักจะลดกำลังการผลิตอีกอย่างน้อย 2-3 แห่ง และหากยังไม่สามารถนำชิ้นส่วนจากญี่ปุ่นเข้ามาได้ไนช่วงนี้ ผลกระทบทางด้านแรงงานก็จะเป็นลูกโซ่ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่อาจจะมีการปรับลดพนักงานเหมือนกับ 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเคยเกิดขึ้นในจังหวัดพระนครรีอยุธยามาแล้ว โดยล่าสุดสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฯเตรียมแผนสำรองในกรณีหากมีการปลดพนักงานหรือเลิกจ้างในบริษัทให้กับกระทรวงแรงงานแล้ว
นายทศพล วังศิลาบัตร ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ขณะนี้มีหลายบริษัทในนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่เริ่มใช้มาตรา 75 กับพนักงานในนิคมอุตสาหกรรมของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแล้ว โดยเมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมาเป็นวันแรกที่บริษัทผลิตอุปกรณ์ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (นิคอน) หยุดการผลิตใน 2 พื้นที่ของบริษัทโดยใช้มาตรา 75 กับพนักงานที่ให้หยุดปฏิบัติงานและหลังจากเทศกาลสงกรานต์แล้ว จึงจะพิจารณาให้พนักงานกลับเข้ามาทำงานอีกครั้ง
ทั้งนี้ จำนวนพนักงานที่ให้หยุดปฏิบัติงานชั่วคราวมีราว 1,500 คน แต่ทั้งหมดยังคงได้รับเงินเดือน 2 ใน 3 ต่อไป โดยสาเหตุที่มีการหยุดการผลิตชั่วคราวของบริษัทขนาดใหญ่ในครั้งนี้ เป็นเพราะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นที่สำรองไว้ก่อนหน้านี้หมดลง และมีการสั่งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาอีก แต่ญี่ปุ่นไม่สามารถนำเข้ามาได้ เพราะการกูประเทศของญี่ปุ่น โดยเฉพาะการป้องกันกัมมันตรังสียังคงเป็นไปอย่างยากลำบาก ทำให้บริษัทขนาดใหญ่ดังกล่าวต้องลดกำลังการผลิตลง
นายทศพลกล่าวต่อว่า จากการสำรวจอย่างละเอียดของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่ามีแนวโน้มที่หลายบริษัทในนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่จะต้องนำเข้าอุปกรณ์ชิ้นส่วนหลักจะลดกำลังการผลิตอีกอย่างน้อย 2-3 แห่ง และหากยังไม่สามารถนำชิ้นส่วนจากญี่ปุ่นเข้ามาได้ไนช่วงนี้ ผลกระทบทางด้านแรงงานก็จะเป็นลูกโซ่ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่อาจจะมีการปรับลดพนักงานเหมือนกับ 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเคยเกิดขึ้นในจังหวัดพระนครรีอยุธยามาแล้ว โดยล่าสุดสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฯเตรียมแผนสำรองในกรณีหากมีการปลดพนักงานหรือเลิกจ้างในบริษัทให้กับกระทรวงแรงงานแล้ว
