ชุมพร - ชีวิตรันทด 2 เด็กหญิง ป.4 ม.1 โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 66 พ่อตายอาศัยอยู่ในเพิงพักหลังคามุงจาก ริมสวนปาล์มเพื่อนบ้าน แม่ปลูกผักขายใต้เสาไฟฟ้าแรงสูงข้างถนน มีรายได้วันละ 50 บาท ได้รับการคัดเลือกเป็นสร้าง “บ้านน้ำใจ” หลังแรกใน 84 หลังของประเทศ เพื่อเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 84 พรรษา
วันนี้ (10 มี.ค.54) นายสมนึก ช้างคล่อม รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา เขต 1 ชุมพร นายพิทยา วงศ์สัมฤทธิ์ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 66 บ้านนาเนียน และนายอุดม เชิงไกรยัง ผอ.โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 66 บ้านนาเนียน ต.บ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร
พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และชาวบ้านรวมกว่า 50 คน ได้เดินทางไปที่บริเวณที่ดินพื้นที่หมู่ 12 ต.บ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร เพื่อทำพิธียกเสาเอก “ บ้านน้ำใจ ”ตามโครงการบ้าน 84 หลังของกระทรวงศึกษาธิการร่วมสร้างบ้านให้นักเรียน เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 84 พรรษา ให้แก่ ด.ญ.จณิสตา แทนโชติ อายุ อายุ 13 ปี และ ด.ญ.ชญาดา แทนโชติ อายุ 10 ปี เด็กหญิงทั้ง 2 คนเป็นพี่น้องกัน ปัจจุบัน ด.ญ.จณิสตา ศึกษาอยู่ชั้น ม. 1 และ ด.ญ.ชญาดา ศึกษาอยู่ชั้น ป.4 โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 66 บ้านนาเนียน ต.บ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร
ทั้งนี้ นายนิติภัทร อำพันมาก ศึกษานิเทศน์ชำนาญการพิเศษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา เขต 1 ชุมพร เปิดเผยว่า จากการที่ได้ออกสำรวจหาเด็กนักเรียนที่มีฐานะยากจนที่กำลังศึกษาอยู่ตามสถานศึกษาต่าง ๆ ในพื้นที่ จ.ชุมพร เพื่อส่งเข้ารับการคัดเลือกสร้าง “บ้านน้ำใจ” ตามโครงการบ้าน 84 หลัง ของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อสร้างบ้านให้นักเรียน เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 84 พรรษา โดยพบว่า ด.ญ.จณิสตา แทนโชติ อายุ อายุ 13 ปี และ ด.ญ.ชญาดา แทนโชติ อายุ 10 ปี 2 พี่น้อง กำลังศึกษาอยู่โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 66 บ้านนาเนียน บิดาเสียชีวิตเมื่อปี พ.ศ. 2551 ปัจจุบันอาศัยอยู่กับมารดาชื่อ นางบุญเอิญ แจ้งประจักษ์ อายุ 34 ปี อาศัยปลูกเพิงพักหลังคามุงจากอยู่บริเวณริมสวนปาล์มของเพื่อนบ้าน
นายนิติภัทร เปิดเผยต่อว่า ด.ญ.จณิสตา และ ด.ญ.ชญาดา 2 พี่น้อง หาเลี้ยงตังเองโดยการรับจ้างทั่วไปหลังจากเลิกเรียน ได้ค่าจ้างวันละ 20 - 30 บาท ส่วน นางบุญเอิญ แจ้งประจักษ์ มารดา ปลูกผักสวนครัวเล็กๆ น้อยๆ ตามร่องที่ดินสาธารณะใต้เสาสายไฟฟ้าแรงสูงริมถนนเข้าหมู่บ้านเพื่อนำไปขายเลี้ยงครอบครัว และค่าใช้จ่ายให้กับลูกสาวทั้ง 2 คน เป็นค่ากินและค่ารถประจำทางไปโรงเรียนคนละ 190 บาท ต่อเดือน ส่วนสภาพบ้านที่อยู่อาศัยหลังคามุงจาก โดยใช้เศษไม้มุงเป็นเพิงกั้นด้วยสเล็นตาข่ายและแผ่นผ้าพลาสติก ไม่มีประตู ไม่มีห้องน้ำ ไม่มีไฟฟ้า และไม่มีน้ำประปา ต้องอาศัยห้องน้ำ ห้องส้วมของเพื่อนบ้าน อีกทั้ง 3 แม่ลูกเป็นผู้หญิง เนื่องจากสภาพบ้านดังกล่าวไม่มีความแข็งแรงและปลอดภัยจากอันตรายต่างๆได้เลย
ด้าน นายพิทยา วงศ์สัมฤทธิ์ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 66 บ้านนาเนียน กล่าวว่า ถ้าไม่เห็นกับสายตาตนจะไม่เชื่อเลยว่า ปัจจุบันในประเทศไทยยังมีผู้ที่ฐานะยากจนถึงขนาดนี้อยู่อีก และที่สำคัญทั้ง 3 คนแม่ลูกเป็นผู้หญิงที่ต้องดิ้นรนต่อสู้ชีวิตอาศัยบ้านที่ใช้เศษวัสดุหลังคามุงจากสภาพพุพังไม่เหมือนบ้าน นอกจากนี้จากกการตรวจสอบฐานข้อมูลจากโรงเรียนพบว่า 2 พี่น้องคือ ด.ญ.จณิสตา กับด.ญ.ชญาดา 2 พี่น้อง มีผลการเรียนที่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยเฉพาะ ด.ญ.จณิสตา มีผลระดับการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ และวิชาคอมพิวเตอร์ ได้เกรด 4 ทั้ง 2 วิชา มาตลอด
นายพิทยากล่าวต่อว่า สำหรับ “ บ้านน้ำใจ ” ตามโครงการบ้าน 84 หลัง ของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อสร้างบ้านให้นักเรียน เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา ที่มีพิธียกเสาเอกในวันนี้มีมูลค่าไม่เกิน 1 แสนบาท โดยสร้างบนเนื้อที่ 2 ไร่ ในที่ดิน สปก.ที่มีเพื่อนบ้านใจบุญบริจาคให้แก่เด็กหญิงทั้ง 2 คน และยังมีประชาชนร่วมบริจาคทุนทรัพย์สมทบอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนการก่อสร้างได้รับความร่วมมือจากนักศึกษาแผนกช่างก่อสร้างวิทยาลัยเทคนิคชุมพร มาช่วยก่อสร้างให้
ด้าน นายอุดม เชิงไกรยัง ผอ.โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 66 บ้านนาเนียน กล่าวว่า ที่ผ่านมาคณะครูและผู้เกี่ยวข้องได้ออกช่วยเหลือครอบครัวของเด็กหญิงทั้ง 2 มาตลอด เพื่อที่จะประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าไปให้การช่วยเหลือด้านต่างๆ จนกระทั่งมีโครงการ “ บ้านน้ำใจ ” ตามโครงการบ้าน 84 หลัง ของกระทรวงศึกษาธิการร่วมสร้างบ้านให้นักเรียน เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 84 พรรษา จึงประสานผู้เกี่ยวข้องลงมาสำรวจให้ความช่วยเหลือ จนได้รับการพิจารณาให้สร้างบ้านตามโครงการดังกล่าวเป็นหลังแรกของประเทศไทย
ขณะที่ ด.ญ.จณิสตา แทนโชติ อายุ อายุ 13 ปี กล่าวด้วยความตื้นตันใจจนน้ำตาคลอเบ้าว่า รู้สึกดีใจและขอขอบพระคุณผู้เกี่ยวข้องทุกคน ทุกหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือครอบครัวของตน รู้สึกทราบซึ่งใจอย่างมาก ที่ทำให้ครอบครัวตนมีบ้านเป็นของตนเอง ตนและน้องสาวขอให้สัญญาว่าจะตั้งใจเรียน เป็นคนดีของสังคม ของประเทศชาติ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ประบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปจนตลอดชีวิต
นางบุญเอิญ แจ้งประจักษ์ มารดาของ ด.ญ.จณิสตา และ ด.ญ.ชญาดา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้อาศัยทำกินอยู่กับสามีในพื้นที่หมู่ 6 ต.บ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร แต่หลังจากสามีเสียชีวิตเมื่อปี 2551 ปรากฏว่า พ่อสามีได้ไล่ตนและลูกสาวทั้ง 2 คนออกจากบ้านหลังดังกล่าว โดยบอกว่าเมื่อลูกชายเขาตายแล้ว ให้ออกไปหาที่อยู่ใหม่ อยู่ที่เดิมไม่ได้อีกต่อไป ทำให้ตนต้องพาลูกสาวทั้ง 2 คน หอบผ้าผ่อนออกจากบ้านหลังดังกล่าวอย่างทุลักทุเล เร่ร่อนรับจ้างไปเรื่อย ๆ
นางบุญเอิญกล่าวต่อว่า ต่อมามีชาวบ้านใจบุญทนดูไม่ไหวจึงให้ปลูกบ้านพักอาศัยอยู่ริมสวนปาล์ม และปลูกผักสวนครัวอาทิ ผักบุ้ง บวบ แตงกวา ถั่วฝักขาว ถัวพลู บริเวณริมถนนใต้เสาไฟฟ้าแรงสูง นำผลผลิตออกขายเลี้ยงลูก มีรายได้วันละไม่เกิน 50 บาท ส่วนลูกๆ ทั้ง 2 คนหลังเลิกเรียนไม่เคยเกเรเที่ยวเตร่ที่ไหน จะออกไปรับจ้างทั่วไปแล้วแต่ใครจะจ้างให้ทำอะไร ครั้งละ 20 - 30 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายไปวันๆ เท่านั้น จนมีหน่วยงานราชการออกมาสำรวจ และสร้าง “ บ้านน้ำใจ ” ตามโครงการบ้าน 84 หลัง เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 84 พรรษา ดังกล่าว