xs
xsm
sm
md
lg

“ประพันธ์” ชี้สภาผ่าน พ.ร.บ.คุมม็อบ อีกสิ่งสะท้อน “มาร์ค“ โคตรเลว - ท้าสลาย พธม.15 มี.ค.จะขอสู้ตาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ประพันธ์” ชี้ พ.ร.บ.ชุมนุมในที่สาธารณะผ่านสภาวาระแรกวันนี้ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า “มาร์ค” เลวที่สุด เพราะที่ผ่านมาแม้แต่สมัย สนช. กฎหมายนี้ก็ตกตั้งแต่วาระแรก เพราะเป็นการลิดรอนเสรีภาพของประชาชนอย่างยิ่งหากมีผลบังคับใช้จะไม่สามารถชุมนุมได้เลย พร้อมท้าตำรวจให้มาสลายการชุมนุมพันธมิตรฯ 15 มี.ค.นี้ ยันจะปักหลักสู้ แม้เสียชีวิตก็ยอม แต่ไม่ยอมเสียแผ่นดิน

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายประพันธ์ คูณมี”  

วันนี้ (10 มี.ค.) นายประพันธ์ คูณมี  โฆษกการชุมนุมรวมพลังปกป้องแผ่นดิน ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีว่า วันนี้พันธมิตรฯ ได้หนังสือจากทางรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต. กรีรินทร์ อินทร์แก้ว  เพื่อขอให้พวกเราออกไปจากถนนราชดำเนิน และถนนพิษณุโลก ซึ่งนั่นก็เท่ากับเป็นการขอให้สลายการชุมนุมภายในวันที่ 15 มีนาคมนี้  โดยอ้างเหตุอันเป็นเท็จว่าการชุมนุมมีเหตุกระทบกระทั่งด้วยความรุนแรง มีอาวุธ พบยาเสพติดในพื้นที่

นายประพันธ์กล่าวว่า ตนไม่เคยเห็นการทำหน้าที่ของตำรวจครั้งใดมันจะเลวขนาดนี้ และที่เลวขนาดนี้ก็เพื่อทำตามบัญชาของนายอภิสิทธิ์ ผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยตามพรบ.มั่นคง ไอคนที่ทำหน้าตาละอ่อน หน้าตาเจี๋ยมเจี้ยม แต่โหดเหี้ยมอำมหิตและเลวทรามต่ำช้าที่สุด คนที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตยต้องไม่ทำแบบนี้กับประชาชนต้องฟังเสียงประชาชน เลวกว่าคนอื่นแต่ดันไปอภิปรายฯต่อว่านายสมัคร ว่าไม่ฟังเสียงประชาชน ตัวเองยังไม่เคยฟังใครเลย

“ตำรวจจะใช้อำนาจตามกฎหมายจราจรมาใช้กับการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญไม่ได้ ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นการใช้กฎหมายจราจรให้เหนือกว่ารัฐธรรมนูญ ต่อไปตำรวจก็เป็นใหญ่เหนือทุกคนในแผ่นดินนี้ ใครชุมนุมก็อ้างว่าผิดกฎหมายจราจรหมด ขอยืนยันว่าพวกเราทุกคนรวมทั้งตนด้วยจะอยู่ที่นี่แหละ อยากสลายเชิญมาเลย แล้วอย่าลูกหมานะ ออกหนังสือมาแล้วต้องทำจริงด้วย จะอยู่ตลอดไปจนกว่าจะได้แผ่นดินไทยคืน หวังว่าวันที่ 15 นี้จะมาสลายการชุมนุม จะเสียเสรีภาพ เสียชีวิตก็ยอม แต่ไม่ยอมเสียแผ่นดิน มาเลย  แต่ที่บังอาจคืออ้างงานของกาชาดเพื่อมาสลายการชุมนุม คณะกรรมการจัดงานกาชาดยังไม่เคยมีหนังสือมายุ่งเกี่ยวกับการชุมนุมเลย แล้วทำไมมาบังอาจ” นายประพันธ์ กล่าว

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า วันนี้นายอภิสิทธิ์และรัฐบาล นอกจากมีหนังสือมาขับไล่พวกเราแล้ว ไม่ปกป้องแผ่นดินไทยแล้ว ยังจะทำร้ายประชาชนที่ออกมาปกป้องแผ่นดินอีก แบบนี้เขาเรียกว่าบัดซบที่สุด ไม่เคยมีนักการเมืองคนไหนเลวได้ขนาดนี้ หลายคนบอกว่าตนเอาไรมาพูดว่านายอภิสิทธิ์เลวกว่านายทักษิณนั่นก็เพราะว่าการคอร์รัปชันก็เป็นกันทุกรัฐบาล การข่มเหงประชาชนก็มีทุกรัฐบาล แต่ยังไม่เคยทำอยู่เรื่องหนึ่ง จะดีชั่วอย่างไรก็ยังไม่เคยขายแผ่นดินให้กัมพูชา มาเถียงได้อย่างไรว่าไม่เลวกว่าคนอื่นๆ หรือจะบอกว่านายอภิสิทธิ์ไม่ได้โกง แต่แค่การหลิ่วตาให้คนอื่นมาโกงก็เลวเหมือนกันแล้ว

นายประพันธ์ยังกล่าวอีกว่า อีกอย่างที่ไม่เคยมีรัฐบาลอื่นทำเลย คือ ออกกฎหมายควบคุมการชุมนุม แม้แต่สมัย คมช. และมีการจัดตั้ง สนช. ถ้าจะกล่าวหาว่าสนช.ยุคนั้นจะตั้งมาจากเผด็จการก็ยังไม่กล้าออกกฎหมายนี้เลย สมัยนั้น พล.ต.อ.พัชรวาท เคยเสนอ พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะเข้าสภา ก็ถูกพวกตนอภิปรายในวาระแรกเท่านั้นก็ตกไป ไม่สามารถเสนอขึ้นมาได้ เพราะถ้ามีกฎหมายนี้ต้องขออนุญาตตำรวจก่อนที่จะชุมนุมได้ มันบ้าไปแล้ว นักประชาธิปไตยจอมปลอม ตำรวจมาอยู่หนือรัฐธรรมนูญได้อย่างไร ตำรวจมีหน้าที่สนองนักการเมืองไม่เคยเข้าใจประชาชน สนช.ก็เลยไม่ผ่านกฎหมายนี้ แต่วันนี้เสนอเข้าสภาผ่านวาระแรกแล้วด้วยเสียง 229 ต่อ 58 เสียง อัปยศหรือไม่ เลวน้อยกว่าหรือไม่ เลวมากกว่าพรรคอื่นทั้งนั้นเลย โดยสาระที่สำคัญของกฎหมายควบคุมการชุมนุม คือ

1. การชุมนุมในที่สาธารณะนั้นจะไปชุมนุมปิดกั้นจราจรไม่ได้  จะปิดกั้นทางเข้าออก สภา ทำเนียบฯ ไม่ได้ ปิดกั้นทางเข้าออกสถานที่ราชการ สถานทูต กงสุล ไม่ได้ บ้าหรือเปล่า ถ้าวันนี้เราจะประท้วงเขมรเราก็ต้องไปที่หน้าสถานทูตใช่หรือไม่ ประชาชนจะมาบอกความทุกข์ยากให้รัฐบาลรับรู้ก็ต้องมาที่ทำเนียบจะให้ไปไหนได้

2. ถ้าพี่น้องจะชุมนุมด้วยความทุกข์ยากเดือดร้อน ต้องขอตำรวจล่วงหน้า 72 ชั่วโมง ถ้าไม่อนุญาตก็ชุมนุมไม่ได้ ตำรวจเป็นเทวดามาจากไหนที่จะมาพิจารณาว่าเรื่องเห็นควรชุมนุมได้ ถ้าไม่ไปแจ้งการชุมนุมก็จะถือว่าผิดกฎหมาย สามารถสั่งให้เลิกได้ แล้วถ้าเราไม่เลิก ตำรวจสามารถใช้อำนาจขับไล่ จับกุม โดยถือเป็นความผิดซึ่งหน้า

3.ถ้าขออนุญาตแล้วตำรวจเห็นว่าการชุมนุมเราผิดกฎหมาย ต้องไปยื่นคำร้องต่อศาล กลายเป็นว่ากำลังไปดึงศาลมายุ่งกับปัญหาการเมือง ก็เท่ากับว่าศาลต้องไปเผชิญหน้ากับผู้ชุมนุม นี่ก็เป็นกฎหมายอัปยศที่จะดึงศาลมาเกี่ยวข้องกับการชุมนุม ทั้งหมดนี้ถ้าการชุมนุมไม่ทำตามกฎหมายเขาก็สามารถดำเนินการตามกฎหมาย มีโทษปรับและจำคุก  

กล่าวโดยสรุปคือ เป็นกฎหมายที่คุกคามริดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน และมีผลกระทบต่อประชาชนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 29 และ 57 ที่ต้องฟังความเห็นประชาชนก่อนที่จะเสนอกฎหมาย แต่นี่ไม่เคยฟังประชาชนมาก่อนเสนอกฎหมายนี้เลย ถ้ามีกฎหมายนี้ออกมาต่อไปจะไม่สามารถชุมนุมได้เลย สิทธิการชุมนุมก็ไม่สามารถมีผลบังคับรับรองตามรัฐธรรมนูญได้เลย โคตรเลว อภิมหาโคตรเลว จนหาที่ติไม่ได้ ไม่เคยมีรัฐบาลไหนกล้าทำ แบบนี้จะไม่เรียกว่าเลวกว่ารัฐบาลอื่นได้อย่างไร

คำต่อคำ “ประพันธ์ คูณมี” ปราศรัย

สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักทุกท่านครับ วันนี้มาตรงเวลา 3 ทุ่มพอดี บวกลบสัก 2 นาที พี่น้องครับ 1.ขอความกรุณาส่งกำลังใจไปช่วยคุณวีระ คุณราตรีด้วยนะครับ เพื่อบอกให้รู้ว่า พวกเรายังคงยืนหยัดต่อสู้จนถึงที่สุด และจะต้องหาทางช่วยคุณวีระ ราตรี และกดดันรัฐบาลให้หาทางช่วยคุณวีระ ราตรีกลับมาแผ่นดินไทยให้เร็วที่สุดครับพี่น้องครับ เราไม่ได้พูดแต่ปาก แต่เราก็ต้องพยายามทำทุกวิถีทาง ขณะเดียวกันต้องขอบคุณและกราบสวัสดีทักทายพ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่อยู่ต่างประเทศ และรับชมรับฟังอยู่ทางบ้าน ขอกราบสวัสดีและทักทายพี่น้องทางบ้านและทั่วโลกด้วยครับ

พี่น้องที่เคารพรักครับ วันนี้มีเรื่องราวเหตุการณ์หลายเหตุการณ์ ซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญที่อยากจะมาพูดคุยกับพ่อแม่พี่น้องประชาชน เพราะว่าแม้ว่าผมจะพูดวิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และวิพากษ์วิจารณ์พรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะตัว นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะเลขาธิการพรรค และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะหัวหน้าพรรคแล้วนะครับ แต่พ่อแม่พี่น้องประชาชนที่รับชมรับฟังอยู่ทางบ้าน และที่อยู่ต่างประเทศ ยังพยายามขอร้องผมว่า คุณประพันธ์อย่าหยุดพูดนะ พยายามพูดเอาให้หนักๆ จัดให้หนักๆ โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ สุเทพ เทือกสุบรรณ กับพรรคประชาธิปัตย์ ผมก็บอกว่า ผมพูดมานี่ยังไม่หนักหรอ ถึงขนาดที่นายอภิสิทธิ์ต้องไปตั้งศูนย์ถ่วงล้อใหม่ เดินเป๋ๆ ออกอาการแอ๊บแมนไปแล้ว นี่ยังไม่พอใจอีกหรอ เขาบอกยังไม่พอ เพราะนายอภิสิทธิ์มันเหนียวเหมือนตังเม ต้องสับให้ขาด ฟันชับๆ ให้ตายเลย ว่างั้นครับพี่น้องครับ ผมก็เลยหยุดไม่ได้ แล้วเผอิญวันนี้มีเรื่องที่น่าสนใจ และมีเรื่องสำคัญ

ผมคิดว่าวันนี้มีเรื่องสำคัญ 2 เรื่อง ที่เผยให้เห็นธาตุแท้ของความเป็นนักประชาธิปไตยจอมปลอมของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และความเป็นนักอุดมการณ์ประชาธิปไตยจอมปลอมของพรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เพราะวันนี้เราได้รับสิ่งโสโครก ปฏิกูลของระบอบประชาธิปไตยมาพร้อมกัน 2 ฉบับ ฉบับแรกก็คือ หนังสือจากรองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จะประกาศมาสลายการชุมนุมของพวกเรา ภายในวันที่ 15 มี.ค.ครับพี่น้อง นี่คือเรื่องที่ 1 เ ดี๋ยวรายละเอียดจะพูดกัน

แล้วเรื่องที่ 2 พี่น้องอาจจะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น วันนี้พี่น้องครับ ในสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ได้เสนอร่าง พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ เข้าสภาฯ ผ่านความเห็นชอบรับหลักการ ของสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว เป็นร่าง พ.ร.บ.ที่จะมาควบคุม กำกับ และลิดรอนสิทธิของประชาชนผู้ชุมนุมตามสิทธิในระบอบประชาธิปไตย เลวไหมครับ ความเลวทั้ง 2 ประการนี้ ท่านจะไม่เชื่อเลยถ้าท่านไม่มาเห็นด้วยตาของตัวเอง และไม่ได้มาดูข้อเท็จจริงโดยเอกสารและหลักฐานที่ปรากฏ เพราะพรรคประชาธิปัตย์แสดงอุดมการณ์และภาพลักษณ์ของตัวเองต่อประชาชนมาโดยตลอดว่า เป็นนักประชาธิปไตย เป็นผู้ที่เคารพต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน แต่วันนี้รัฐบาลอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ เคารพเฉพาะเสรีภาพของนายอภิสิทธิ์คนเดียวครับพี่น้อง เสรีภาพของประชาชนช่างแม่งมันครับพี่น้อง เดี๋ยวมีรายละเอียดจะคุยกับพี่น้องในเรื่องดังกล่าวว่าเราจะมีท่าทีต่อทั้ง 2 เรื่องนี้อย่างไร

แต่ก่อนจะถึงเรื่องนั้น ผมมีจดหมายที่อ่านแล้วผมเองก็หัวเราะก็ไม่ได้ ร้องไห้ก็ไม่ออก จะดีใจก็กระไรอยู่ แต่อ่านแล้วรู้สึกสนุกสนาน ขำขันลึกๆ อยู่ในใจเหมือนกันครับพี่น้อง เดี๋ยวท่านฟังจดหมายฉบับนี้ไปพร้อมกับผม แล้วท่านจะรู้สึกอย่างไรเดี๋ยวค่อยมาถามกัน เขียนเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2554 ซองจดหมายเป็นซองโรงพยาบาลสินแพทย์ ก็คงอยู่ในกรุงเทพฯ ท่านผู้เขียนจดหมายฉบับนี้ ซึ่งเป็นสภาพสตรี ลงชื่อมา ผมคิดว่าท่านลงชื่อจริงนามสกุลจริง ผมจะอ่านและประกาศชื่อท่านด้วย

ท่านเขียนมาอย่างนี้ครับ เรียนคุณประพันธ์ คูณมี (ประพันธ์ คี มูน) เดี๋ยวผมจะเฉลยทีหลังว่า พันธ์คีมูน เอ๊ะทำไมเขารู้จัก ดิฉันอยากบอกคุณว่า คุณเป็นนักพูดตัวจริง และกล้าหาญจริง ลีลาของคุณก็สุดยอดเลย เมื่อมีข้อมูลหลักฐานที่ถูกแท้จริงแล้วคุณฟันไม่เลี้ยง เขาว่ากันว่า การพูดเป็นพรสวรรค์ ดิฉันเห็นด้วยค่ะ การพูดนั้นต้องใช้ไหวพริบอย่างมาก สมองที่คิดกับปากที่พูดต้องเร็วทันกันเสมอ จึงจะทำให้การพูดออกมาลื่นไหลไม่สะดุด ดิฉันฟังคุณพูดทุกครั้ง บอกตรงๆ ว่าเร้าใจ เร้าใจค่ะ รู้สึกตื่นเต้นไม่เบื่อเลยตลอดเวลาที่ฟัง บางครั้งที่คุณพูดหยาบนิดนึงแต่ยังฟังดูดีแบบหนุ่มลูกทุ่งหล่อๆ แต่จริงใจ (ไม่ใช่หล่อหลอกลวงแบบนายมาร์ค) ทุกเรื่องที่คุณพูดนั้นพูดได้แทงตลอดทุกประเด็น ไม่มีอะไรคาใจคนฟัง ได้เนื้อหาครบถ้วน และที่สำคัญคือ ได้อารมณ์ในการฟังเป็นอย่างยิ่ง ถ้าคุณพูดเรียบร้อยแบบคุณปานเทพ(คุณปานเทพหน้าตาก็เรียบร้อยด้วย) ดิฉันคงไม่รู้สึกระทึกใจอย่างนี้

ประโยคต่อไปนี้มันสำคัญครับ ท่านบอกว่าอย่างนี้ แต่ถ้าดิฉันมีลูกสาว ดิฉันจะยกให้คุณปานเทพ แหมมาหักมุมตอนนี้ แล้วท่านก็เขียนต่อไปนะ เอ๊ะอย่างไรกัน ชมคุณประพันธ์เป็นตุเป็นตะแต่ยกลูกสาวให้คนอื่นซะนี่ แหมดิฉันชมคุณมาตั้งหลายบรรทัดแล้วยังไม่ได้ชมคุณปานเทพเลย เดี๋ยวเขาจะน้อยใจก็เลยต้องยกลูกสาวให้แทนคำชม ให้กำลังใจเขาสักหน่อยนะ ส่วนคุณเทพมนตรีนั้น ดิฉันตั้งใจยกหลานชายหนุ่นล่ำบึ๊ก กล้ามเป็นมัดๆ เล่นแทนหมอนข้างเอาไหมคะ เอ๊ะชักจะรู้ลึกซะแล้ว ไม่รู้ว่าเขียนมา ผมถึงบอกว่า จดหมายฉบับนี้น่าสนใจ มันยังน่าสนใจมากกว่านั้นครับ ดิฉันเป็นคนเสื้อแดง อ้าวๆๆ ประพันธ์จะมีแฟนคนเสื้อแดงแล้ว นี่ขอโทษนะ เอ๊ะทำไมยกลูกสาวให้ปานเทพ ยกหลานชายให้เทพมนตรี แล้วตัวเองจะยกให้ใคร

ดิฉันเป็นคนเสื้อแดง(และยังชอบนายกฯ ทักษิณ เสมอจนบัดนี้)แต่เป็นแดงที่ใช้ไม่ได้ เพราะไม่อดทนต่อความลำบากในการไปนั่งฟัง นั่งกิน นั่งร้อนอยู่บนพื้นถนนหนทางแบบนั้น ดังนั้นคุณประพันธ์อย่าไปว่าคุณทักษิณมากนักนะ เพราะตอนนี้ประเทศไทยมีนายกฯ ที่เลวยิ่งกว่านายกฯ เดิมที่ผ่านมาอีก คือนายมาร์คไง นี่ทำตัวจะมาเป็นแนวร่วมกับผมซะแล้ว ไม่เป็นไร ก็ขอให้ไปจัดการนายมาร์คให้เต็มที่ได้เลย ดิฉันดีใจที่แต่ไหนแต่ไรมา ไม่เคยชอบนายมาร์คมาก่อน สงสารแต่พวกแม่ยกของเขานะ ถ้าคุณประพันธ์ไม่มาว่านายกฯ ทักษิณ คุณประพันธ์จะได้ใจดิฉันไปเป็นพวกอีก 1 ดวง ต่อรองซะอีกครับ อันนี้เห็นทีจะขอยาก ถ้ามีประเด็นพาดพิงมันก็ต้องเอาซะหน่อยใช่ไหมครับพี่น้อง

ทีนี้มันยังมีเรื่องราวมากกว่านั้น ฟังนิดนึงนะครับ ดิฉันหัวใจสีแดง ตั้งใจไว้ว่า วันที่คุณเป่านกหวีด ดิฉันจะมาร่วมสนับสนุนกับพันธมิตรฯ สักวันหนึ่ง นี่พิมพ์มาอย่างดีเลยนะ ไม่ใช่ผมแต่งเองนะครับ คุณประพันธ์จะรังเกียจหรือเปล่าคะ รังเกียจหรือเปล่า คุณประพันธ์มิอาจจะรังเกียจหรอกครับ เพราะหัวใจ 1 ดวง อย่างน้อยครึ่งหนึ่งก็โอนมาทางผมแล้วใช่ไหม ถ้ารังเกียจจะได้ไม่ต้องมา มีหลายคนถามดิฉันว่า ทำไมดิฉันไม่เกลียดทักษิณ ดิฉันบอกว่า อาจจะชาติก่อนดิฉันเคยเกิดเป็นแม่ของทักษิณ เพราะความเป็นแม่มักจะยกโทษให้ลูกได้เสมอโดยไม่มีเงื่อนไข และแม่ทุกคนจะเห็นแต่ความดีของลูก ส่วนข้อเสียถ้ามีแม่ทุกคนจะไม่เห็นหรอก เชื่อเถอะในโลกนี้และโลกไหนๆ ที่ผ่านมา ก็เป็นปกติของแม่แบบนี้ทุกคนแหละค่ะ

ก็ว่าไปอันนี้เรารับฟังไว้ แต่ที่สำคัญครับ เธอบอกว่า ดิฉันมีญาติมาจากแอลเอเขาเป็นแฟนพันธุ์แท้ของพันธมิตรฯ เขาอยากจะมาฟังที่มัฆวานฯ สักคืนหนึ่ง จะได้เห็นคุณประพันธ์ตัวเป็นๆ ญาติจะมาถึงกรุงเทพฯ วันที่ 10 มี.ค.นี้ค่ะ คราวที่แล้วเขาร่วมสนับสนุนพันธมิตรฯ 5,000 บาท ดิฉันเองก็อยากเห็นคุณบนเวทีจริงๆ ด้วยเหมือนกัน แต่คนเยอะซะขนาดนั้นคงได้เห็นคุณตัวเท่ามด เมื่อไหร่คุณจัดพบปะสังสรรค์บรรดาแฟนๆ ของคุณ โปรดอย่าลืมดิฉันคนหนึ่ง หรือวันใดคุณลงสมัครรับเลือกตั้ง ก็เรียกดิฉันมาเป็นหัวคะแนนได้นะคะ จะเป็นอาสาสมัครทำงานให้ฟรี ไม่คิดค่าแรง คือพูดเหมือนยังอาลัยทักษิณอยู่ แต่ใจมามากกว่าครึ่งแล้วใช่ไหมครับพี่น้อง

ส่วนคุณสนธิ และผู้อภิปรายท่านอื่นๆ ยกไว้เป็นที่นับถือก็พอ ไม่ต้องวิจารณ์เพราะเขาเป็นผู้หลักผู้ใหญ่แล้ว สุดท้ายนี้ดีใจที่ชาตินี้มีโอกาสฟังคุณประพันธ์พูด คราวหน้าถ้ามีงานบุญงานกุศลใดๆ ดิฉันจะส่งจดหมายมาเรียนเชิญไปทำบุญร่วมกัน ชาติไหนๆ จะได้มีโอกาสมาฟังคนพูดเก่ง พูดดีมีสาระ และกล้าหาญแบบคุณอีกค่ะ ขอแสดงความนับถือ วิริยาภรณ์ เทิดธรรมรักษ์ ก็ไม่รู้ว่าท่านใช้ชื่อจริง นามสกุลจริงหรือไม่ แต่เขียนมาใช้ชื่อว่า วิริยาภรณ์ เทิดธรรมรักษ์ ผมอ่านเลยนะครับเพราะว่าคุณเขียนมาถึงผม ผมก็เลยมาอ่านให้พี่น้องประชาชน ที่รับฟังอยู่ทางบ้าน เห็นท่าคงจะเป็นความจริงว่า หัวใจสีแดงของเธอนั้นได้โอนเอนมาเวทีนี้มากกว่าครึ่งหนึ่งแล้วครับพี่น้อง

ก็คงจะสอดคล้องกับความเห็นของพี่น้องหลายท่านที่รับฟังการปราศรัยบนเวทีนี้ แล้วก็ยืนยันว่า วันนี้คนเสื้อแดงจำนวนไม่น้อยที่เป็นแดงไม่ใช่ฮาร์ดคอร์ ไม่ใช่แดงแบบงมงาย เปิด ASTV และรับฟังพวกเราโดยใช้เหตุใช้ผลและวิจารณญาณ ถ้าอย่างนี้เราก็ยินดีต้อนรับและเป็นมิตรกันได้ เพราะปัญหาของชาติบ้านเมืองไม่มีสีใช่ไหมครับพี่น้อง ปัญหาเรื่องดินแดนและอธิปไตย ปัญหาความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชน เรื่องข้าวยากหมากแพง ปัญหาเรื่องรัฐบาลโกง ทุจริต คอร์รัปชั่น มันเป็นผลกระทบต่อพี่น้องไทยทุกคนใช่ไหมครับพี่น้องครับ

พี่น้องครับ ผมคิดว่าวันนี้อยากจะพูดคุยกับพี่น้อง ที่ผมเกริ่นไปนั้นมี 2 เรื่องก็จริง แต่มีเรื่องติดพันมาตั้งแต่ที่ผมอภิปรายไปเมื่อวันก่อนนี้แล้ว คือเรื่องคดีของฟิลลิป มอร์ริส วันนี้ต้องกราบเรียนพ่อแม่พี่น้องประชาชนว่า พี่น้องหลายท่านที่ยังมีความศรัทธาและมีความเชื่อถือในพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผมอยากจะกราบวิงวอนว่า ถ้าท่านเป็นคนไทย และเป็นเพื่อนร่วมชาติกับพวกเรา ถ้าท่านเป็นคนที่ยังมีสติสัมปชัญญะดี และเป็นคนที่มีหลักการ มีเหตุมีผล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พี่น้องชาวใต้ ผมเชื่อว่าคนใต้เป็นคนกล้าหาญ เป็นสุภาพบุรุษ เป็นคนกล้าสู้ เป็นคนยอมรับความจริง วันนี้ผมรู้ ในหัวใจของคนใต้ รู้ดีว่านายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ทำให้พรคคประชาธิปัตย์ยับเยิน ย่อยยับ แหลกเหลวไม่มีชิ้นดี ไม่มีอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์เหลือเลย เป็นแต่เพียงว่า ด้วยความที่ตลอดชีวิตของพวกคุณ คุณเคยเลือกแต่พรรคประชาธิปัตย์ เคยชื่นชมและให้โอกาสเขามา ครั้นจะหันกลับมายอมรับและสนับสนุนการต่อสู้ของพวกเราในวันนี้ อาจจะยังละล้าละลังอยู่ เพราะประหนึ่งดูว่ามันอาจจะเสียหน้า เสียเกียรติ เสียศักดิ์ศรี ผมขอร้องครับ อย่าได้เห็นแก่เกียรติ ศักดิ์ศรี และหน้าตาของท่านเลย คนเรามีสิทธิ์หลงผิดได้ คนเรามีสิทธิ์หลงเชื่อคนได้ แต่เมื่อวันนี้เรารู้ความจริงแล้ว เราควรจะยืดอกและกล้ายอมรับความจริง ประชาชนพร้อมอ้าแขนต้อนรับครับพี่น้อง ส่วนคนกรุงเทพฯ คนภาคกลาง ผมเชื่อว่า วันนี้คนอีสาน คนภาคกลาง ไม่ต้องห่วงครับ เขาหมดสิ้นศรัทธานายอภิสิทธิ์ สุเทพ เทือกสุบรรณ และพรรคประชาธิปัตย์ ไปนานแล้วพี่น้องครับ อาจจะมีคนกรุงเทพฯ ส่วนหนึ่ง อาจจะมีคนชั้นสูง คนชั้นกลางส่วนหนึ่งที่ศรัทธา หลงใหลในตัวนายกฯ อภิสิทธิ์งมงาย เพราะนายอภิสิทธิ์เป็นคนที่พูดจากปลิ้นปล้อน หลอกลวง กลับไปกลับมา หลอกต้ม แสดงภาพมายา ทำให้ผู้หญิงที่ศรัทธาหลงใหลในเด็กหนุ่ม ความจริงหลายคนอาจจะคิดว่า นายอภิสิทธิ์เป็นแมน เป็นสุภาพบุรุษ แต่ความจริงแล้วนายอภิสิทธิ์แอ๊บแมนครับ เพราะฉะนั้นหลายคนที่ยังหลงใหลตัวนายกฯ อภิสิทธิ์อยู่นี้

ผมอยากจะเปรียบเทียบเหมือนว่า ผมยกตัวอย่างนะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผมขออกตัวก่อน ผมเคยเจอเพื่อนผมคนหนึ่งที่ไม่ได้เจอกันมานานแล้ว เจอพร้อมกับลูกชาย ผมถามว่าเป็นยังไงสบายดีไหม หลังจากถามสารทุกข์สุกดิบกันแล้ว เลยถามคุณพ่อของเขาว่าหายไปไหน ซึ่งเคยเป็นเพื่อนผม ลูกชายเขาตอบว่า คุณพ่อของเขาไปมีสามีใหม่แล้ว พี่น้องครับฟังแล้วเศร้าใจไหมครับ แล้วหัวอกผู้หญิงล่ะ เมื่อรู้ว่าสามีของตนไปเป็นภรรยาของคนอื่นเสียแล้ว ผมคิดว่ามันคงเจ็บปวด และคงมีสุภาพสตรีหลายคนที่เคยหลงรักผู้ชายคนหนึ่ง แล้วมารู้ว่าผู้ชายคนนั้นไปเป็นเมียของคนอื่นเสียแล้ว ความที่เคยชื่นชม ความที่เคยพูดคุยกับคนโน้นคนนี้ ยกยอปอปั้นผู้ชายคนนั้นไว้ก่อน ก็เลยกลับตัวไม่ทัน จะเกลียดก็ไม่ได้ จะรักก็ทำตัวไม่ออก เลยอยู่ในอาการที่กลัวเสียหน้า เสียฟอร์ม เสียเชิง จะมาชุมนุมกับพวกเราก็กลัวเสียหน้า ไม่เป็นไรประพันธ์ให้อภัยแล้ว คนเราผิดพลาดกันได้ ขอยืนยันนะครับ เรื่องที่ผมเล่านี้ไม่เกี่ยวกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่อย่างใดเลย ผมเล่าเรื่องของคนอื่น ไม่เกี่ยวนะครับ อย่ามาหาเรื่องผมนะครับ

พี่น้องครับ เอาละมาเข้าสู่เนื้อหาดีกว่า เรื่องสำคัญที่อยากจะพูดคุยกับพ่อแม่พี่น้องประชาชน ก็คือว่า พี่น้องครับ ในอดีตที่ผ่านมา ทุกคนเวลาที่เราพูดถึงพรรคประชาธิปัตย์ เราจะมีคำพูดหนึ่งที่ตามมาเสมอคือ เลือกพรรคประชาธิปัตย์นี่แหละ เพราะว่ามันเลวน้อยที่สุด พี่น้องจะเคยได้ยินคำนี้ แล้วพรรคประชาธิปัตย์พยายามจะขายภาพลักษณ์อันนี้ เนื่องจาก ครั้นจะพูดว่าพรรคตัวเองดีกว่าพรรคการเมืองอื่นๆ ที่มีอยู่ในขณะนี้ก็พูดได้ไม่เต็มปากเต็มคำ เลยตีกินหาเสียงโดยวิธีให้หัวคะแนนของตัวเองไปพูดกับประชาชน เผยแพร่ออกไปว่า เลือกเถอะพรรคอื่นไม่มีความหวัง ไม่มีอนาคต เลือกไปก็เท่านั้น เลือกประชาธิปัตย์นี่แหละยังดีกว่า อย่างน้อยที่สุดก็คือ มันเลวน้อยกว่าคนอื่น ใช่ไหมครับพี่น้อง นี่คือวิธีหากินทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ถ้าพี่น้องมาพิจารณาดูขณะนี้ นี่เรื่องที่หนึ่งนะ เลวน้อยที่สุด อันที่สองก็คือ สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ และคนในพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะหัวหน้าพรรค และตัวนายอภิสิทธิ์พยายามขายกับประชาชนคืออะไร 1.พยายามสร้างภาพลักษณ์ว่าตัวเองเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ เป็นนักประชาธิปไตย อย่างน้อยก็คือ เป็นนักการเมืองมืออาชีพ มีอุดมการณ์ ซื่อสัตย์ มืออาชีพ มีอุดมการณ์ นี่คือเครื่องมือหากิน และการโฆษณาชวนเชื่อกับชันชั้นกลางให้หลงใหลว่ายังมีพรรคการเมืองที่ดีบ้างหลงเหลืออยู่ ถ้าเลวก็เลวน้อยกว่า ถ้าโกงก็โกงน้อยกว่า ถ้าคิดว่าพรรคการเมืองไม่มีอุดมการณ์ ก็ยังมีพรรคประชาธิปัตย์ที่ยังมีอุดมการณ์ นี่คือภาพลักษณ์ที่เขาตีกิน และสร้างมายาหลอกลวงคนไทยมาไม่น้อยกว่า 65 ปีแล้วครับพี่น้อง

แต่โดยความเป็นจริง มาพิจารณาโดยความเป็นจริง เรื่องทั้งหมดที่ผมพูดและอภิปรายบนเวทีนี้ท่านฟังมาโดยตลอด มาพิจารณาโดยความเป็นจริง อย่างคดีฟิลลิป มอร์ริส อีกเรื่องที่ผมเพิ่มเข้ามา พี่น้องดูซิครับว่า ขนาดทักษิณ ขนาดอธิบดีดีเอสไอสมัยทักษิณ ทวี สอดส่อง ยังไม่กล้าเอามือไปซุกหีบสั่งไม่ฟ้องช่วยบริษัทบุหรี่ ฟิลลิป มอร์ริสเลย ขนาดว่าเลวอย่างทักษิณ เลวอย่างทวี สอดส่อง ยังไม่กล้าสั่งไม่ฟ้องคดีนี้เลย ที่เลวน้อยกว่าเขาทำไมเกิดการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม และอัยการให้เปลี่ยนคำสั่งที่เคยสั่งฟ้องในชั้นพนักงานสอบสวนของดีเอสไอ อัยการที่ไปร่วมประชุม ร่วมเป็นกรรมการสอบสวน และพนักงานสอบสวน ทุกคนลงความเห็นมีมติให้สั่งฟ้องบริษัทฟิลลิป มอร์ริส และเห็นสมควรให้นำคดีนี้ขึ้นสู่ศาล เพื่อโอกาสที่ประเทศไทยจะได้ภาษี 68,881 ล้านบาท และจะได้เป็นบรรทัดฐานให้กับการพิจารณาของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง จะได้เป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติ เรียกเก็บภาษีให้กับผู้นำเข้าที่สำแดงเท็จ และแสดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริง พร้อมกันนั้น รัฐมนตรียุติธรรมของตัวเองก็ยังมีหนังสือตั้ง 2 ฉบับมาถึงนายกฯ รายงานให้ทราบ เพื่อหาแนวทาง มาตรการป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการหลีกเลี่ยงภาษี ทุกคนทำหน้าที่เพื่อรักษาประโยชน์ของบ้านเมืองหมด แต่พอเรื่องมาถึงนายกรัฐมนตรี มาถึงผู้แทนการค้าของตัวเอง ดันทะลึ่งกุลีกุจอไปเรียกประชุมเจ้าหน้าที่เพื่อหาทางช่วยบริษัทนี้ จนกระทั่งอัยการกลับคำสั่งเป็นสั่งไม่ฟ้องครับพี่น้อง พี่น้องครับ เรื่องนี้ตกลงมันเลวน้อยกว่าคนอื่น หรือเลวมาก เลวโคตรเลวกว่าคนอื่นครับพี่น้อง เห็นหรือยังครับ นี่เรื่องที่ 1

เรื่องที่ 2 พี่น้องครับ เมื่อสักครู่ อ.ปานเทพ อ.เทพมนตรี ให้รายละเอียดกับพี่น้องแล้วว่า วันนี้เราได้รับหนังสือจากรองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รองผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย มีหนังสือออกมา เหตุผลสำคัญก็คือ ขอให้พวกเราออกไปจากถนนราชดำเนิน และถนนพิษณุโลก ก็คือไล่พวกเรา สลายพวกเราออกจากการชุมนุมที่นี่ ภายในวันที่ 15 มี.ค.เป็นต้นไป อ้างเหตุอันเป็นเท็จ อ้างว่าการชุมนุมมีเหตุกระทบกระทั่งกันด้วยความรุนแรง มีการตรวจพบอาวุธ มียาเสพติดในพื้นที่ ผมไม่เคยเห็นการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ครั้งใดจะเลวขนาดนี้ครับพี่น้อง และที่เลวขนาดนี้เพราะต้องการทำตามบัญชาของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คนที่ทำหน้าละอ่อน ทำตัว พูดจาจีบปากจีบคอ พูดจากหวาน แต่โหดเหี้ยมอำมหิตและเลวทรามต่ำช้าที่สุดครับพี่น้อง สร้างภาพเป็นนักประชาธิปไตย มีอุดมการณ์ เวลาพูดเหมือนผู้ดีอังกฤษ เวลาปฏิบัติกับประชาชนเหมือนกุ๊ยตามข้างถนน เวลาจะรักษาผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง ปกป้องดินแดน พูดเหมือนเป็นขี้ข้าเขมรครับพี่น้อง นี่คือนายอภิสิทธิ์ คนที่บอกว่าเลวน้อย และมีอุดมการณ์ทางการเมือง คนมีอุดมการณ์ประชาธิปไตย เขาจะไม่กระทำกับประชาชนผู้ชุมนุมแบบนี้ ใช่ไหมครับ คนที่ยึดมั่นในอุดมการณ์และระบอบประชาธิปไตย ต้องฟังและเคารพความคิดเห็นของประชาชน เหมือนที่นายอภิสิทธิ์เคยพร่ำพูด พร่ำสอนว่าคนอื่นมาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ตัวเองทำตัวเลวกว่าคนอื่น ดันทะลึ่งอภิปรายชี้หน้าว่าคนอื่น ผมถ้าภาวนาได้อยากให้วิญญาณนายสมัครมาหักคอมันหน่อยนะครับ ด่าเขาฉอดๆ หาว่าเขาไม่เป็นประชาธิปไตย หาว่าเขาขายแผ่นดิน สละสิทธิ์ ทำให้เขมรได้อธิปไตยดินแดนไทยไป 1 เสียงก็ต้องฟัง แสนเสียงก็ต้องฟัง หาว่าเขาไม่ฟังเสียงประชาชน ถามว่า แล้วคุณเมิงฟังเสียงใครบ้าง ถามว่าคุณเมิงเคยฟังเสียงใครบ้าง ขนาดบิดามารดาคุณยังไม่ฟังเลย แล้วจะมาเป็นนักประชาธิปไตยได้อย่างไร หาว่าการชุมนุมนี้กีดขวางการจราจร นี่ก็เลวอยู่แล้วครับ กฎหมายจราจรจะอยู่เหนือกฎหมายรัฐธรรมนูญได้อย่างไร ตำรวจไทย

ผมไม่อยากจะพูดจาอบรมสั่งสอนตำรวจเท่าไหร่ เพราะผมยังมีความอดทนอดกลั้นอยู่ และไม่อยากจะทะเลาะกับลิ่วล้อของนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ที่ส่งมาตอแยกับพวกเรา แต่อยากให้คุณพึงสำนึกว่า คุณไม่อาจจะเอากฎหมายจราจรมาอยู่เหนือการชุมนุมทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญของประชาชนไทย ถ้าตำรวจใช้อำนาจตามกฎหมายจราจรให้ประชาชนไม่มีสิทธิ์ชุมนุมได้ ต่อไปตำรวจก็เป็นใหญ่เหนือรัฐธรรมนูญ เป็นใหญ่เหนือประชาชนทุกคนในแผ่นดินนี้ ใครชุมนุมก็อ้างจราจรได้ทั้งนั้น มีการชุมนุมที่ไหนจะไม่กีดขวางการจราจร เว้นแต่ไปชุมนุมที่บ้านนายอภิสิทธิ์ หรือคุณจะให้เราไปชุมนุมที่กองบัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แล้วมีไหมที่จะให้ประชาชนชุมนุม นี่เป็นการชุมนุมในที่สาธารณะ ถามว่ามีเหตุผลในการชุมนุมไหม เหตุผลท่วมฟ้าท่วมแผ่นดินเราพูดไปหมดแล้วว่า นี่เป็นการชุมนุมของประโยชน์ชาติบ้านเมือง

ความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร มันเป็นความผิดเล็กน้อย แล้วทุกวันนี้ การกีดขวางทางจราจรมันก็อยู่เต็มบ้านเต็มเมือง ผมจะบอกให้ตำรวจรับส่วยในการให้พ่อค้าประชาชนตั้งสินค้าค้าขาย จอดรถกีดขวางทางจราจร ตัวเองเก็บส่วยตามสถานบันเทิงตลอด ทำไมคุณไม่ใช้ พ.ร.บ.จราจร ทำไมทะลึ่งจะมาใช้ พ.ร.บ.จราจร กับประชาชนผู้ชุมนุม ร้านอาหาร ภัตตาคาร บาร์ ผับ ไนท์คลับ สถานที่ต่างๆ ที่ถูกห้ามจอด จอดได้หมดถ้าจ่ายเงินตำรวจ ใช่ไหมครับพี่น้อง แต่วันนี้เขามาชุมนุมเพื่อบ้านเพื่อเมือง เพื่อผลประโยชน์ของชาติ คุณทะลึ่งจะมาอ้างกฎหมายจราจรมาอยู่เหนือการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด ถ้ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์อ้างกฎหมายจราจรได้ มันก็อ้างได้ทั้งนั้น แล้วทำไมไม่ไปอ้างที่ซอยสวัสดี 31 ล่ะ ทำไมจะต้องบังคับใช้เฉพาะกับพี่น้องประชาชน ประชาชนเดือดร้อน เข้า-ออกในซอยสวัสดี ทำไมคุณไม่เคลียร์พื้นที่ ย้ายบ้านนายกฯ ออกเพราะกีดขวางทางจราจร มีคำสั่งให้นายกฯ ย้ายบ้านไปอยู่ทุ่งกุลาร้องไห้ หรือไม่ก็ให้ไปอยู่กับฮุน เซน ผมคิดว่าการใช้กฎหมายของคุณเป็นการเลือกปฏิบัติ และไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผมขอยืนยันนะครับพ่อแม่พี่น้องประชาชน พวกเราทุกคน รวมทั้งตัวผมด้วย กูจะอยู่ที่นี่ละโว้ย อยากสลายเชิญมาเลย และขอบอกว่า คุณอย่าลูกหมานะ ออกหนังสือมาแล้วต้องทำจริงด้วย จะอยู่ตลอดไปจนกว่าได้แผ่นดินไทยคืนโว้ย แล้วถ้าไม่มานะ คุณอย่ามาให้ประชาชนเห็นหน้าอีก ผมหวังว่า วันที่ 15 คุณจะมาสลายการชุมนุม พวกกูไม่ออกจากถนนนี้โดยเด็ดขาดครับ จะจับจะกุม จะเสียเสรีภาพ เสียชีวิตก็ยอม แต่ไม่ยอมเสียแผ่นดิน มาเลย

แล้วที่เลวบัดซบที่สุดก็คือ ไปบังอาจอ้างงานของกาชาดมาเพื่อสลายการชุมนุม พี่น้องรู้ไหมว่าใครเป็นนายกสภากาชาดไทย สมเด็จแม่ สภากาชาดไทย คณะกรรมการจัดงานกาชาดเขายังไม่เคยมีหนังสือมายุ่งเกี่ยวกับการชุมนุมของพี่น้องประชาชนเลย จัดงานกาชาดทุกปี สภากาชาดไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองของประชาชนเลยไม่ว่ากลุ่มใด แล้วทำไมคุณบังอาจมาอ้างงานกาชาด ผมขอยืนยันครับพ่อแม่พี่น้อง เราจะอยู่ที่นี่ เราจะสู้ด้วยกัน และไม่มีวันหนีหน้า อยากมาสลายมาเลย ถ้าประเทศนี้ บ้านนี้เมืองนี้ คนที่ออกมาปกป้องแผ่นดินมันจะถูกไล่เหมือนหมูเหมือนหมา ถูกข่มเหงรังแกอย่างไม่ใช่พลเมืองไทยแล้วก็ให้มันรู้ไปว่า แผ่นดินไทยมันอัปยศอดสูอย่างนี้ครับพี่น้อง ให้มันรู้ไป จะได้รู้ว่า คนที่ออกมาปกป้องแผ่นดิน กลายเป็นคนที่ถูกทำร้ายถูกทำลาย กดขี่ข่มเหง ผมบอกพี่น้องเลยครับว่า ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำร้ายท่าน ท่านสามารถอ้างว่า กูบันดานโทสะ ซัดแม่งคืนไปได้เลย ป้องกันตัวเองได้ เพราะถือว่าการชุมนุมที่นี่เป็นการชุมนุมโดยชอบด้วยกฎหมายทุกประการครับพี่น้อง การมาขับไล่ การมาทุบตี การมาทำร้ายประชาชนผู้รักชาติ ถือว่าเป็นเหตุอันเป็นการกดขี่ข่มเหงรังแกประชาชนด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมอย่างร้ายแรง ประชาชนทุกคนบันดาลโทสะพร้อมกันได้ครับพี่น้อง ว่าประชาชนสุดจะทนกับการกระทำของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แล้วครับพี่น้อง ถ้าประชาชนอยู่ไม่ได้อภิสิทธิ์ก็อยู่ไม่ได้ครับพี่น้อง จะได้รู้กัน เสียนายอภิสิทธิ์ไปคนหนึ่งดีกว่าเสียแผ่นดินให้เขมร นี่คือเรื่อง 1

เรื่องที่ 2 ครับพี่น้อง วันนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รัฐบาล นอกจากมีหนังสือขับไล่เราแล้ว สลายเราออกจากการชุมนุมที่นี่แล้ว ไม่ให้เราทำหน้าที่ปกป้องดินแดนอธิปไตย ประเทศชาติของพวกเราแล้ว ไม่ให้พวกเราทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดินที่บรรพบุรุณของเราสละชีวิตเลือดเนื้อเอาไว้ ตกทอดมาถึงลูกถึงหลาน มาถึงขณะนี้แล้ว มันไม่ปกป้องแผ่นดินไทยแล้วมันยังจะมาทำร้ายคนไทยที่รักชาติ และออกมาปกป้องแผ่นดิน อย่างนี้เลวน้อยหรือเลวมาก แม่ยกทั้งหลายที่ยังงมงายรูปไข่อภิสิทธิ์อยู่ อย่างนี้เขาเรียกว่าเลวบัดซบที่สุดของความเป็นคน คงไม่มีใครจะเลวได้ขนาดนี้ แล้วยังไม่เคยมีนักการเมืองเลวได้ขนาดนี้ ผมยืนยัน รัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมาทุกคน แม้จะชั่ว จะโกงชาติกินเมือง แต่ยังไม่เคยมีใครทรยศชาติ ทรยศแผ่นดิน ขายชาติขายแผ่นดินเหมือนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หลายท่านอาจจะบอกว่า คุณประพันธ์คุณเอาอะไรมาพูดว่าอภิสิทธิ์เลวกว่าทักษิณ ก็พี่น้องครับ รัฐบาลโกง รัฐบาลคอร์รัปชั่น เป็นกันทุกรัฐบาล เลว ชั่วทุกรัฐบาล รัฐบาลที่กดขี่ข่มเหงรังแกประชาชน มันก็มีทุกรัฐบาล ปราบปรามประชาชนทุกรัฐบาล ทักษิณก็ทำเหมือนกัน ฆ่าตัดตอน คุกคามเสรีภาพประชาชน รัฐบาลอื่นก็ทำ รัฐบาลอภิสิทธิ์ก็ทำ แต่ยังไม่เคยมีรัฐบาลใดที่ทำอยู่เรื่องนึง คือ ยังไม่เคยมีรัฐบาลไหนจะดีชั่วจะเลวอย่างไรก็ยังไม่เคยขายแผ่นดินให้กับกัมพูชา แล้วคุณจะเถียงผมได้อย่างไรว่า นายอภิสิทธิ์ไม่เลวกว่าคนอื่น คุณจะบอกว่า นายอภิสิทธิ์ไม่ได้โกงเองก็หลิ่วตาให้พวกโกง ก็ชั่วก็เลวเหมือนกัน ถามว่านายอภิสิทธิ์ปกครองบ้านเมือง เคยกวาดล้างปราบปรามทุจริตในรัฐบาลของตัวเองได้สักเรื่องไหม ไม่มีเลย แล้วการที่ประเทศไทยเสียแผ่นดินนั้น เป็นผลงานของนายอภิสิทธิ์ล้วนๆ ไม่มีคนอื่นเกี่ยวข้องเลยครับ ผมถึงบอกว่านี่เลวกว่าคนอื่น อุดมการณ์ก็ไม่มี แต่เป็นอุดมการณ์จอมปลอมทั้งนั้น จึงกล่าวได้โดยสรุปว่า พรรคประชาธิปัตย์เลวกว่าพรรคอื่น หมายถึงว่า ถ้าตราบใดยังมีนายอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรค ถ้าเขาจะปฏิวัติเปลี่ยนแปลงพรรคเอาคนอื่นขึ้นมานำพรรค สำนึกผิดแก้ตัวปฏิรูปตนเองใหม่ ค่อยพิจารณาและว่ากันทีหลังว่า คุณทำความดีและสำนึกผิดเป็นที่พอใจของประชาชนหรือไม่

อีกเรื่องหนึ่งที่นายอภิสิทธิ์ทำความเลวที่รัฐบาลอื่นไม่เคยมีใครทำเลย ผมต้องฟ้องและบอกให้พี่น้องประชาชนฟัง เวลาไปพูดคุย เถียงกับแม่ยกของนายอภิสิทธิ์ จะได้ซัดให้หน้าหงายไปเลยครับ

อีกเรื่องหนึ่ง คือ ตลอดมาทุกรัฐบาลเคยพยายามจะออกกฎหมายมาควบคุมการชุมนุมของพี่น้องประชาชน ไม่เคยมีรัฐบาลไหนกล้าทำ ไม่เคยมีรัฐบาลไหนเสนอกฎหมายนี้เข้าสภาฯ เพราะเป็นกฎหมายที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน ลิดรอนอย่างไร แม้กระทั่งสมัยที่มีการปฏิวัติของ รสช. ปฏิวัติของ คมช. คณะมนตรีความมั่นคงฯ ที่มี พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน เป็นหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน และมีการจัดตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติ ผมก็เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติ ถ้าจะกล่าวหาว่าสมาชิกสภานิติบัญญัติยุคนั้นเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติที่ตั้งมาจากการปฏิวัติ เป็นเผด็จการ เขายังไม่กล้าออกกฎหมายฉบับนี้เลย มีคนเสนอกฎหมายฉบับนี้เข้าสู่สภาฯ คนเสนอคือ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ กฎหมาย พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ..... เสนอเข้าที่ประชุมสภานิติบัญญัติ ถูกพวกผมอภิปรายในวาระแรก ผมเป็นผู้หนึ่งที่อภิปรายคัดค้านวาระแรกเท่านั้นกฎหมายนี้ก็ตกไปครับ เหตุที่ไม่สามารถเสนอขึ้นมาได้ เพราะการชุมนุมทางการเมือง การชุมนุมสาธารณะต่อไปนี้ ถ้ามีกฎหมายฉบับนี้ ต้องไปขออนุญาตคุณพ่อตำรวจจึงจะชุมนุมได้ มันบ้านแล้ว นายอภิสิทธิ์นักประชาธิปไตยจอมปลอม ทำไมการชุมนุมของประชาชนต้องไปขออนุญาตตำรวจ ตำรวจอยู่เหนือรัฐธรรมนูญได้อย่างไร ตำรวจเป็นใคร ตำรวจจะเข้าใจสิทธิเสรีภาพของประชาชน ตำรวจจะเข้าใจระบอบประชาธิปไตยดีกว่าประชาชนได้อย่างไร ตำรวจทุกวันนี้เป็นประชาธิปไตยอยู่ที่ไหน ตำรวจเป็นข้าราชการประจำ มีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งของนาย และสนองนักการเมือง ไม่เคยเข้าใจสิทธิเสรีภาพของประชาชนเลย ทำไมกฎหมายชุมนุมสาธารณะ เวลาจะชุมนุมต้องไปขออนุญาตตำรวจก่อนล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 72 ชั่วโมง ครับพี่น้อง รัฐบาลที่แล้วเขาจึงไม่ผ่านกฎหมายนี้ สนช.ก็ไม่ผ่านกฎหมายนี้ แต่มาวันนี้รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เสนอกฎหมายฉบับนี้เข้าสภาฯ โดยการเสนอของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้เสนอขอให้รัฐบาลเสนอกฎหมายนี้เข้าสภาฯ รัฐบาลยอมเสนอกฎหมายนี้เข้าสภาฯ ผ่านวาระแรกแล้ววันนี้ ด้วยคะแนนเสียง 229 ต่อ 58 เสียงครับพี่น้อง อัปยศไหม นี่ไงแม่ยก เลวน้อยกว่าพรรคอื่น ทั้งหมดนี่เลวมากกว่าพรรคอื่นทั้งนั้นเลย

ที่สำคัญเนื้อหาของกฎหมายฉบับนี้ก็คือ ผมเอาโดยสรุป สาระสำคัญคือ ประการที่ 1 การชุมนุมในที่สาธารณะ คุณจะไปชุมนุมปิดกั้นการจราจรไม่ได้ จะชุมนุมอยู่ใกล้สภาฯ ปิดกั้นทางเข้า-ออกสภาฯ ไม่ได้ จะชุมนุมปิดกั้นทางเข้า-ออกทำเนียบรัฐบาลไม่ได้ จะชุมนุมปิดกั้นทางเข้า-ออกสถานที่ราชการไม่ได้ จะชุมนุมปิดกั้นทางเข้า-ออกสถานทูต สถานกงสุลไม่ได้ บ้ารึเปล่าครับพี่น้อง เพราะอะไร สมมุติว่าวันนี้เราจะประท้วงสถานทูตอินโดนีเซีย เราจะประท้วงเขมรที่รุกรานแผ่นดินไทย เราก็ต้องไปชุมนุมหน้าสถานทูตใช่ไหมครับพี่น้อง จะไปชุมนุมที่ไหนถ้าไม่ไปชุมนุมหน้าสถานทูต ประชาชนจะเอาความทุกข์ยากเดือดร้อนของตัวเองมาบอกให้รัฐบาลทราบ ก็ต้องมาชุมนุมหน้าทำเนียบใช่ไหมครับ จะให้ไปชุมนุมที่ไหน กฎหมายฉบับนี้ห้ามไม่ให้ไปชุมนุมในสถานที่เหล่านั้น ที่สำคัญคือ ถ้าไม่ไปชุมนุมในสถานที่เหล่านั้น และไม่ชุมนุมกีดขวางการจราจรในที่สาธารณะแล้วก็ไม่สามารถชุมนุมได้ และข้อเรียกร้องของประชาชนก็ไม่มีโอกาสได้รับความเห็นใจจากเจ้าหน้าที่บ้านเมือง

อันที่ 2 คือ ถ้าพี่น้องจะชุมนุมเรียกร้อง ชาวไร่ชาวนาจะชุมนุมด้วยความทุกข์ยากเดือดร้อน ผู้ใช้แรงงานจะชุมนุมด้วยปัญหาไม่ได้รับความเป็นธรรมเรื่องใด ต้องไปขออนุญาตตำรวจก่อนล่วงหน้า 72 ชั่วโมงครับ ถ้าเขาไม่อนุญาตก็ชุมนุมไม่ได้ ตกลงตำรวจเป็นเทวดามาจากไหนจึงต้องเป็นผู้มาพิจารณาว่า ประชาชนเรื่องนี้ควรชุมนุมได้ เรื่องนี้ชุมนุมไม่ได้ นี่รัฐบาลอภิสิทธิ์ นอกจากนั้น ถ้าไม่ไปแจ้งเขาก็หาว่าการชุมนุมของคุณผิดกฎหมาย เขาสามารถสั่งให้เลิกได้ ถ้าคุณไม่เลิกเขาก็สามารถใช้อำนาจขับไล่คุณ และจับกุมคุณ โดยหาว่าเป็นการกระทำความผิดซึ่งหน้า ดูมันเขียนซิครับพี่น้อง นอกจากนี้ ถ้าเราไปขออนุญาตจัดการชุมนุมแล้วตำรวจไม่อนุญาต ไม่เห็นด้วย และหาว่าการชุมนุมของเราผิดกฎหมาย เขาบอกว่า เราต้องไปยื่นคำร้องต่อศาล กลายเป็นว่า รัฐบาลนี้กำลังจะดึงศาลมายุ่งกับปัญหาทางการเมืองครับ เพราะถ้าศาลตัดสินว่า การชุมนุมของคุณผิดกฎหมาย คุณชุมนุมได้ชุมนุมไม่ได้ ก็เท่ากับศาลต้องเผชิญหน้ากับประชาชนผู้ชุมนุม ใช่ไหมครับพี่น้อง แล้วขณะนี้ศาลเองก็กระอักกระอ่วน อึดอัดอยู่แล้วที่ต้องมาพิจารณาคดีประกันคนเสื้อแดง พิจารณาคดีทางการเมือง ซึ่งผู้พิพากษาเขาไม่อยากพิจารณาคดีทำนองนี้เลย แม้กระทั่ง พ.ร.บ.ความมั่นคง ถ้าเราไม่พอใจ เราต้องไปยื่นคำร้องต่อศาลยุติธรรม มันกลายเป็นทำให้ศาลต้องมาเผชิญหน้ากับประชาชนผู้ชุมนุม นี่เป็นกฎหมายอัปยศที่จะดึงศาลเข้ามาเกี่ยวข้องกับการชุมนุม ครับพี่น้อง

ทั้งหมดนี้ถ้าการชุมนุมนี้เราไปละเมิดกฎหมาย ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเขา และเขาเห็นว่าการชุมนุมเป็นการขัดขวางการจราจร เขาสามารถดำเนินการกับเราได้ตามกฎหมาย ถ้าขัดขืนฝ่าฝืนมีโทษ ลงโทษปรับลงโทษจำคุก รายละเอียดของกฎหมายฉบับนี้กล่ายโดยสรุป เดี๋ยววันพรุ่งนี้ค่อยมาเล่ารายละเอียดเพิ่มเติมก็ได้ กล่าวโดยสรุปก็คือ เป็นกฎหมายคุกคาม ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน และเป็นการเสนอกฎหมายที่มีผลกระทบต่อประชาชน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 29 มาตรา 57 ต้องฟังเสียงและฟังความเห็นของประชาชนก่อนจะเสนอกฎหมายที่มีผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน ไม่ใช่รัฐบาลงุบงิบเสนอกันโดยไม่ฟังเสียงประชาชน นี่ไม่คุ้มครองสิทธิประชาชนตามรัฐธรรมนูญ ไม่เคยฟังความเป็นของประชาชนมาก่อนเสนอกฎหมายฉบับนี้เลย จริงๆ แล้วถ้าจะขออนุญาตให้มีการชุมนุม มันต้องไปขออนุญาตกับสภาการปกครองท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นที่ได้รับเลือกมาจากประชาชน ยังมีเหตุผลรับฟังได้ แต่ตำรวจไม่ได้รับเลือกมาจากประชาชน จะมาเป็นผู้พิจารณาเรื่องนี้ มันไม่มีเหตุอันสมควร เพราะตำรวจมีแต่จะหาทางสลายการชุมนุม ไล่ประชาชน และไม่ต้องการให้ประชาชนมีการชุมนุม ใช่ไหมครับพี่น้อง สรุปก็คือ การชุมนุมของประชาชนถ้ามีกฎหมายฉบับนี้ออกมา ต่อไปจะไม่สามารถชุมนุมได้เลย สิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญไม่สามารถมีผลบังคับรับรองตามรัฐธรรมนูญได้เลย

นี่คือความอัปยศของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ที่บอกว่าเลวน้อย แต่ความจริงโคตรเลว อภิมหาเลว เลว เลวจนหาที่ติไม่ได้ ไม่มีรัฐบาลไหนกล้าทำทุกเรื่อง ช่วยฟิลลิป มอร์ริส ก็ไม่มีรัฐบาลไหนกล้าทำ เสนอกฎหมายนี้ก็ไม่มีใครกล้าทำ สลายประชาชนที่มาชุมนุมเพื่อปกป้องแผ่นดิน ไม่มีรัฐบาลไหนกล้าทำ ถ้าเลวน้อยทำไมทำความชั่วอำมหิต และเป็นความชั่วความผิดที่อุกฉกรรจ์หนักกว่าคนอื่น

อยากกราบเรียนพ่อแม่พี่น้องประชาชน บางครั้งผมจำเป็นต้องใช้คำพูดที่รุนแรง เพราะพูดกับคนเลวอย่าพูดดี แต่ถ้าพูดกับคนดี คนที่ทำประโยชน์เพื่อชาติบ้านเมือง คนที่ควรได้รับเกียรติได้รับความเคารพ เราก็ควรมีมธุรสวาจา พูดจาสุภาพเรียบร้อย แต่คนอย่างนายอภิสิทธิ์นั้นเป็นคนหน้าด้าน และคนที่มีความวิปริตแบบนี้จะไม่มีวันรู้สำนึกในการกระทำความผิดของตัวเองเลย กล้ากระทำในสิ่งที่หน้าด้านแบบสามัญชนปุถุชนคนธรรมดาไม่กล้าทำก็แล้วกัน ภาพลักษณ์ข้างนอกอาจจะดูดี แต่คนที่มีอาการแบบนี้เป็นพวกที่หลอกลวงและสร้างมายาตบตาประชาชนทั้งนั้นครับพี่น้อง

เพราะฉะนั้นวันนี้อยากจะกราบเรียนพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่เคารพรักว่า การต่อสู้ของเราครั้งนี้ไม่มีวันสูญเปล่าครับ เราอยู่ที่นี่เราชนะ ชนะเพราะเราเอาความจริงมาบอกกับสังคมและประเทศชาติ นายอภิสิทธิ์มีแต่หลบหนีและไม่กล้าโต้แย้ง ไม่กล้าโต้เถียงทุกเรื่องที่เราพูด โต้มาก็โดนเราโต้กลับและไม่มีเหตุผลจะมาโต้แย้ง วันนี้นายอภิสิทธิ์จึงเป็นนายกรัฐมนตรีที่ล้มเหลว เป็นโมฆะบุรุษ เป็นบุคคลที่ไร้สมรรถภาพ ไร้ประสิทธิภาพ ไร้คุณค่าต่อสังคมและประเทศไทย เขาไม่สมควรจะอยู่เป็นนายกรัฐมนตรีปกครองบ้านเมืองอีกต่อไปเลย ตราบใดที่คุณยังอยู่ เราจะยืนสู้และประณามคุณทุกวันครับพี่น้อง ขอกราบเรียนพ่อแม่พี่น้องประชาชนได้เลย ถ้าแผ่นดินนี้สิ้นนายอภิสิทธิ์ไปแผ่นดินจะสูงขึ้น เสียนายอภิสิทธิ์ไปดีกว่าเสียชาติเสียแผ่นดินใช่ไหมครับพี่น้อง เพราะฉะนั้นเราจะปักหลักชุมนุมอยู่ที่นี่จนกว่าจะได้ชัยชนะครับพี่น้อง ขอให้กำลังใจและขอให้ทุกคนยืนหยัดสู้จนถึงที่สุดครับพี่น้องครับ ขอบคุณมากครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น