นครปฐม - ตำรวจภาค 7 โชว์ฝีมือไล่ล่าจนรวบตัว 2 พี่น้องคดียิงใส่อริต่างถิ่นแต่กระสุนพลาดไปถูกสาวใหญ่นั่งรอรถเมล์ช่วงเช้าดับปริศนา พร้อมชี้เทคโนโลยีกูเกิลเอิร์ทหาพิกัดจนบุกถึงรังคนร้าย
วันนี้ (11 ก.พ.) เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.พงศ์สันต์ เจียมอ่อน ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกสร รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.พศิน นกสกุล ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ภาสกร กลั่นหวาน ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว พ.ต.ต.เชิดชัย ป้อชำนิ สว.สส.สภ.โพธิ์แก้ว พ.ต.ต.ทรงวุฒิ เจริญวิชเดช พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมคนร้ายคดีสาวใหญ่ถูกกระสุนปริศนายิงใส่จนเสียชีวิตขณะรอรถโดยสาร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ เวลา 04.30 น.
พล.ต.ท.พงศ์สันต์ เจียมอ่อน ผบช.ภ.7 เผยว่า การจับกุมในคดีนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายจุลเชฐ หรือแย็ก จันทร์ทอง อายุ 22 ปี และนายจิรายุ จันทร์ อายุ 17 ปี ทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืนขนาด .45 จำนวน 1 กระบอก ไม่ทราบยี่ห้อทะเบียน พจ.3/6157 พร้อมเครื่องกระสุนปืนที่ก่อเหตุ และแจ้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันฆ่าผู้อื่น ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาปืนติดตัวไปในเมือง หรือหมู่บ้านหรือทางสาธารณ ทั้งคู่ให้การสารภาพ
ผบช.ภ.7 กล่าวว่า สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันที่ 9 กุมภาพันธ์ เวลา 04.30 น. ขณะที่ น.ส.ทัศนีย์ จตุรานนท์ อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/11 ม.9 แขวงและเขตบางบอน กรุงเทพฯ ได้นั่งรถรถโดยสารประจำทางก่อนทางเข้าซอยวันเทียนดัด ฝั่งมุ่งหน้าเข้าจังหวัดนครปฐม ม.6 ต.ท่าข้าม อ.สามพราน จ.นครปฐม ได้มีกระสุนปืนขนาด .45 ยิงเข้าใส่ที่ไหปลาร้าซ้ายใต้คอ 1 นัดเสียชีวิต จึงได้สั่งการให้มีการเร่งติดตามคนร้ายโดยด้วยกระทั่งสามารถจับกุมคนร้ายทั้งคู่เพียงไม่กี่วัน โดยทั้งคู่สารภาพว่าก่อเหตุดังกล่าวจริงแต่ไม่ได้ยิงใส่ผู้ตาย เพียงแต่ช่วงดังกล่าวกลุ่มของพวกตนเองมีเรื่องกับวัยรุ่นอริต่างถิ่น นายจิรายุ อายุ 17 ปี จึงได้กลับบ้านแล้วนำอาวุธปืนมาให้นายจุลเชฐ หรือแย็ก อายุ 22 ปี พี่ชาย ซึ่งได้ใช้อาวุธปืนกระบอกดังกล่าวของบิดาที่เป็น อส.อยู่ในเขตอำเภอเมืองนครปฐม มาให้พี่ชายและยิงใส่กลุ่มอริที่มาทะเลาะกันบริเวณริมถนนเพชรเกษม หน้าร้านฟูลมูน ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จำนวน 3 นัด แต่ 1 ในนั้นพลาดมาโดย น.สทัศนีย์ ที่นั่งอยู่ห่างราวเกือบ 1 กิโลเมตร และมาทราบอีกทีตอนเป็นข่าวและมาถูกจังกุมตัวได้
ด้าน พล.ต.ต.เราวัช กลิ่นเกสร รอง ผบช.ภ.7 กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ตั้งประเด็นอาจจะเป็นการยิงปืนขึ้นฟ้าเหมือนงานแต่งานทั่วไปตามความนิยมแต่เมื่อมาตรวจสอบหัวกระสุน พบว่ากระสุนขนาด .45 ต้องมีรัศมีกระสุนราว 1 กม.เศษ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ภาสกร กลั่นหวาน ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว ให้สำรวจแผนที่โดยใช้แผนที่ทางอากาศของกูเกิลเอิร์ทและวางรัศมีการยิงติดตามต้นเสียงบริเวณโดยราอบ 1 กิโลเมตรจึงได้พื้นที่แน่ชัดและลงพื้นที่สำรวจจึงพบผู้ต้องสงสัยและนำอาวุธปืนมาตรวจและจับกุมตัวได้ทันควัน
พล.ต.ท.พงสันต์กล่าวว่า ในเบื้องต้นก็ได้มีการสั่งการเรื่องการยิงปืนโดยไม่เหตุอันควร และมาเกิดคดีนี้ จึงเร่งล่าติดตามที่มาของเสียงปืนและกระสุนปืน และทราบว่าบิดาของคนร้ายทั้งคู่เป็นอส.ของกรมการปกครอง จึงจะมีการประสานเรื่องแจ้งไปยังต้นสังกัดและปกระทรวงมหาดไทยให้ตรวจสอบผู้พกอาวุธปืนในสังกัดและให้มีการดูแลอาวุธที่ได้รับการพกพาไม่ให้ออกมาก่อเหตุเช่นนี้ได้